นายอิสสระ กล่าวต่อว่า ปี ๒๕๕๓ คณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ได้มอบหมายให้ กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย และกรมบัญชีกลาง ศึกษาปรับปรุงแนวทาง การจ่ายเงินค่าจัดการศพผู้สูงอายุให้เกิดความสะดวกรวดเร็ว และลดค่าใช้จ่ายของประชาชนในการเดินทางมาขอรับบริการ โดยเพิ่มที่ว่าการอำเภอ และสำนักงานเขตสังกัด กทม. เป็นหน่วยรับคำร้อง และจ่ายเงินค่าจัดการศพผู้สูงอายุ ซึ่งกรมบัญชีกลางได้ ุ เห็ และอนุมัติหลักการยืมเงินอุดหนุนค่าจัดการศพผู้สูงอายุ จากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด (พมจ.) และกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.) เพื่อให้อำเภอและสำนักงานเขตของ กทม. สามารถยืมเงินอุดหนุนไปตั้งจ่ายได้ทันที โดยมีประกาศกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข การคุ้มครอง การส่งเสริม และการสนับสนุนการสงเคราะห์ในการจัดการศพตามประเพณี (ฉบับที่ ๒) พ.ศ.๒๕๕๓ รองรับการปฏิบัติดังกล่าว
นายอิสสระ กล่าวด้วยว่า เพื่อให้การดำเนินงานสงเคราะห์ค่าจัดการศพผู้สูงอายุบรรลุตามเจตนารมณ์ของรัฐบาล กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ กระทรวงมหาดไทย และ กทม. จึงร่วมกันจัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ เรื่อง การสงเคราะห์ค่าจัดการศพผู้สูงอายุตามประเพณีนี้ขึ้น โดยต่อจากนี้ไปผู้ที่รับผิดชอบในการจัดการศพผู้สูงอายุ สามารถนำใบมรณบัตรของผู้สูงอายุพร้อมสำเนา บัตรประจำตัวประชาชนของผู้ยื่นคำขอพร้อมสำเนา และหนังสือรับรองว่าเป็นผู้รับผิดชอบในการจัดการศพผู้สูงอายุตามประเพณี ยื่นคำขอในท้องที่ที่ผู้สูงอายุมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในขณะถึงแก่ความตาย ภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่ออกใบมรณบัตร โดยในเขต กทม. สามารถยื่นที่ศูนย์คุ้มครองสวัสดิภาพชุมชนเขต ๑๒ เขต สังกัด พส. หรือ สำนักงานเขต สังกัด กทม. ส่วนภูมิภาค ยื่นที่ พมจ.ทุกจังหวัด หรือที่ว่าการอำเภอทุกอำเภอ