นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมาทั่วทุกภาคของประเทศไทยมีฝนตกชุกหนาแน่นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่งผลให้เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ ๖ จังหวัด ๙ อำเภอ ๑๗ ตำบล ได้แก่ จังหวัดระยอง ในพื้นที่อำเภอเมืองระยอง รวม ๓ ตำบล ได้แก่ ตำบลพะพง ราษฎรเดือดร้อน ๓๐๐ คน ๑๐๐ ครัวเรือน ตำบลทับมา ราษฎรเดือดร้อน ๓๓๐ คน ๑๑๐ ครัวเรือน และตำบลเพ ความเสียหายอยุ่ระหว่างการสำรวจ จังหวัดตราด ในพื้นที่ ๓ อำเภอ ได้แก่ อำเภอเกาะกูด รวม ๒ ตำบล ราษฎรเดือดร้อน ๕๐ ครัวเรือน ปัจจุบันสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว อำเภอเกาะช้าง ราษฎรเดือดร้อน ๔๐ คน บ้านเรือนเสียหาย ๑๐ หลังคาเรือน และอำเภอบ่อไร่ ราษฎรเดือดร้อน ๑๐๐ คน บ้านเรือนเสียหาย ๓๐ ครัวเรือน ความเสียหายอยู่ระหว่างการสำรวจ จังหวัดแพร่ ในพื้นที่อำเภอเด่นชัย ช่วง กม.๑๕๑ ถนนทางเบี่ยงถูกน้ำพัดขาด รถยนต์ไม่สามารถสัญจรไป-มาได้ ผู้ใช้รถใช้ถนนต้องเปลี่ยนไปใช้เส้นทางสายเด่นชัย- ศรีสัชนาลัย จังหวัดอุตรดิตถ์ ในพื้นที่อำเภอลับแล ตำบลแม่พูล ราษฎรเดือดร้อน ๔๙ หลังคาเรือน ความเสียหายอยู่ระหว่างการสำรวจ จังหวัดลำปาง ในพื้นที่อำเภอเมืองลำปาง ๒ ตำบล ได้แก่ ตำบลบ้านแล้ง และตำบลบ้านเสด็จ อำเภอแจ้ห่ม ๓ ตำบล ได้แก่ ตำบลแจ้ห่ม ตำบลบ้านสา และตำบลเมืองมาย ความเสียหายอยู่ระหว่างการสำรวจ จังหวัดน่าน น้ำจากลำน้ำสมุนเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรและบ้านเรือนริมน้ำบางส่วนในพื้นที่อำเภอเมืองน่าน ๓ ตำบล ได้แก่ ตำบลสะเนียน ตำบลถืมตอง และตำบล ไชยสถาน ความเสียหายอยู่ระหว่างการสำรวจ
สำหรับการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ประสานสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งให้ความช่วยเหลือ โดยนำสิ่งของและเครื่องอุปโภคบริโภคไปแจกจ่ายบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประสบภัยในเบื้องต้นแล้ว นอกจากนี้ เพื่อเตรียมความพร้อม
ในการรับมือสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย ดินถล่ม และคลื่นลมแรงในระหว่างวันที่ ๓ - ๕ สิงหาคม ๒๕๕๓ กรมป้องกันและบรรเทา
สาธารณภัย ได้ประสานให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต ๒ สุพรรณบุรี เขต ๕ นครราชสีมา เขต ๘ กำแพงเพชร เขต ๙ พิษณุโลก เขต ๑๐ ลำปาง เขต ๑๒ สงขลา เขต ๑๔ อุดรธานี เขต ๑๕ เชียงราย เขต ๑๗ จันทบุรี เขต ๑๘ ภูเก็ต และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำปาง ลำพูน เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ ตาก สุโขทัย พิษณูโลก เพชรบูรณ์ อุตรดิตถ์ กำแพงเพชร อุทัยธานี นครสวรรค์ กาญจนบุรี ราชบุรี นครราชสีมา ชัยภูมิ เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรังและสตูล เตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้นจากภาวะฝนตกหนัก โดยจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์ภัยในพื้นที่อย่างต่อเนื่องตลอด ๒๔ ชั่วโมง รวมทั้งจัดเตรียมเครื่องมืออุปกรณ์ให้พร้อมช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้ในทันทีที่เกิดภัย สุดท้ายนี้ หากประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากภาวะฝนตกหนัก สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย ๑๗๘๔ ตลอด ๒๔ ชั่วโมง เพื่อประสานและให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป