เผยแบงค์พาณิชย์เตรียมเงินกู้-พร้อมเข้าถือหุ้น กับเอกชนประมูล3G กทช.เสนอรัฐกันงบฯบางส่วนจากแสนล้านให้คนไทยเข้าถึงโทรคมนาคม

จันทร์ ๐๙ สิงหาคม ๒๐๑๐ ๑๐:๒๑
การออกใบอนุญาต 3Gคึกคักเอกชนไทยและต่างประเทศสนใจเข้าร่วมประมูล 30 ส.ค. นี้ เห็นโฉมหน้า ธนาคารพาณิชย์ไทยเตรียมเงินกู้พร้อมเงื่อนไขขอถือหุ้นมีส่วนบริหาร กทช.เสนอรัฐบาลกันงบฯจาก 1 แสนล้านทำบริการโทรคมนาคมทั่วถึง

นายสุรนันท์ วงศ์วิทยกำจร กรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กทช.) ให้สัมภาษณ์ถึงการดำเนินการของ กทช. ในการออกใบอนุญาตใหม่ ระบบโทรศัพท์ 3G ว่าหลังจากที่มีการประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาไปแล้ว ขั้นตอนหลังจากนี้เป็นขั้นตอนที่จะเปิดโอกาสให้บริษัทเอกชนทั้งในประเทศและต่างประเทศได้เตรียมพร้อมในการยื่นข้อเสนอ ส่วนจะมีบริษัทเอกชนไทยและบริษัทต่างชาติจำนวนกี่รายน่าจะรู้ในวันที่ 30 สิงหาคม นี้ จากการประเมินของ กทช.เชื่อว่าบริษัทที่ให้บริการโทรศัพท์มือถือในประเทศไทยทุกกลุ่มน่าจะเข้ามายื่นข้อเสนอส่วนบริษัทโทรคมนาคมต่างชาติก็จะเข้ามาเหมือนกัน ทั้งนี้มีข่าวว่าธนาคารพาณิชย์ในเมืองไทยหลายแห่งได้เตรียมเม็ดเงินเอาไว้จำนวนมากให้บริษัทเหล่านี้ได้กู้และอาจจะมีธนาคารพาณิชย์บางส่วนสนใจเข้าไปถือหุ้นในบริษัทที่มายื่นขอใบอนุญาตเพื่อมีส่วนในการบริหารด้วย

กรรมการ กทช.กล่าวต่อไปว่าจากการประมาณการรายได้ในการออกใบอนุญาตทั้ง 3 ใบครั้งนี้น่าจะอยู่ในวงเงิน 1 แสนล้านบาทโดยรายได้ดังกล่าว กทช.จะมอบให้รัฐบาลทั้งหมดไม่ถือว่าเป็นรายได้ของ กทช. เพราะฉะนั้นนอกเหนือจากการออกพันธบัตรรัฐบาลหลายครั้งที่ผ่านมาเพื่อหาเงินรายได้มาพัฒนาประเทศแล้ว รัฐบาลก็ต้องคิดว่าจะนำรายได้ดังกล่าวจาก กทช.ไปทำอะไรให้เกิดประโยชน์ต่อบ้านเมือง ในความเห็นของ กทช. รัฐบาลอาจจะนำเงินรายได้จาก กทช.ส่วนหนึ่งไปอุดหนุนการบริการโทรคมนาคมอย่างทั่วถึง เป็นการคืนกำไรให้กำประชาชนโดยสนับสนุนงบประมาณผ่านรัฐวิสาหกิจ 2 แห่ง คือ บริษัท กสท.โทรคมนาคม จำกัด(มหาชน)และบริษัท ทีโอที จำกัด(มหาชน) เพื่อขยายบริการและขยายโอกาสให้ประชาชนเข้าถึงบริการโทรคมนาคมด้วย

นายสุรนันท์ กล่าวเพิ่มเติมถึงกรณีที่รัฐบาลต้องการแปลงสัญญาสัมปทานในระบบ 2G มาเป็นการให้ใบอนุญาตแทนในช่วงที่ผ่านมว่า กทช.เคยให้ความเห็นไปแล้วว่ามีประเด็นข้อกฎหมายที่ต้องพิจารณาหลายประเด็น เช่น การยกเลิกสัมปทานจะยกเลิกโดยฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ได้จะต้องเห็นชอบร่วมกันทั้ง 2 ฝ่าย นอกจากนี้ยังมีประเด็นเรื่องรายได้ที่จะต้องคืนให้รัฐในแต่ละปีจะคำนวณกันอย่างไรในระยะเวลาสัมปทานที่เหลือเพราะรายได้ของแต่ละบริษัทก็ไม่เท่ากัน ระยะเวลาสัมปทานก็ไม่เท่ากัน แม้แต่การคำนวณรายได้ที่จะต้องคืนระหว่างรัฐกับเอกชนตัวเลขที่ออกมาก็ไม่เท่ากัน

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๑:๐๐ วว. จับมือจังหวัดสระบุรี/อบต.ตาลเดี่ยว ขับเคลื่อนลดก๊าซเรือนกระจก นำ วทน. พัฒนาศูนย์เรียนรู้เทคโนโลยีจัดการขยะชุมชน
๑๑:๐๐ วว.จับมือคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ส่งเสริมวิจัยนวัตกรรม พัฒนาบัณฑิตสมรรถนะสูง ด้วยวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี
๑๑:๓๗ เปลี่ยนธุรกิจคุณให้โตคูณร้อย กับหลักสูตร CMF เปิดรับสมัครรุ่นที่ 21 แล้ววันนี้ !!
๑๑:๒๖ GFC เสิร์ฟข่าวดีรับศักราชใหม่ปี 68 ดีเดย์ให้บริการคลินิกรักษาผู้มีบุตรยาก GFC Ubon เต็มสูบ
๑๑:๐๐ โรงพยาบาลลานนา จัดอบรม ชาวลานนาร่วมใจ ต้านโรคภัยจากภาวะอ้วนลงพุง
๑๑:๑๕ ค้นหา รักแท้ ในมุมมองใหม่กับศูนย์ฯ สิริกิติ์ ในกิจกรรม ธรรมะในสวน ณ สวนเบญจกิติ 1 กุมภาพันธ์ 2568 นี้
๑๑:๑๐ เชฟรอน (ไทย) รุกเจาะตลาดน้ำมันเครื่อง เพื่ออุตสาหกรรมเครื่องจักรกล
๑๑:๐๗ RML เปิดศักราชปี'68 มาแรง! หุ้นกู้มีหลักประกันขายหมดเกลี้ยง 100%
๑๑:๐๐ สมาคมดินโลก ร่วมกับ 4 หน่วยงาน ลงนามความร่วมมือเสริมสร้างการจัดการดินเพื่อเกษตรยั่งยืน
๑๐:๐๐ ศูนย์การค้าเครือเอ็ม บี เค ฉลองเทศกาลตรุษจีนสุดยิ่งใหญ่ CHINESE NEW YEAR 2025