บมจ. ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) (IFS) เข้าซื้อขาย 10 ส.ค. นี้

จันทร์ ๐๙ สิงหาคม ๒๐๑๐ ๑๑:๒๔
บมจ. ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) พร้อมเข้าจดทะเบียนและซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ 10 ส.ค. 2553 หลังระดมทุน 162 ล้านบาท โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายว่า "IFS"

นายวิเชฐ ตันติวานิช รองผู้จัดการ สายงานผู้ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า บมจ. ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จะเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในกลุ่มธุรกิจการเงิน หมวดเงินทุนและหลักทรัพย์ และเริ่มซื้อขายตั้งแต่วันอังคารที่ 10 สิงหาคม 2553 เป็นต้นไป โดยใช้ชื่อย่อว่า "IFS"

IFS ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมานานเกือบ 20 ปี โดยมีธุรกิจหลักคือ สินเชื่อการรับโอนสิทธิเรียกร้อง (Factoring) ให้บริการสินเชื่อระยะสั้นแก่ผู้ประกอบการกลุ่ม SMEs ในกรุงเทพและปริมณฑล รวมทั้งเขตนิคมอุตสาหกรรม โดยมีฐานลูกค้าและลูกหนี้การค้าที่เป็นผู้ประกอบการจำนวนมาก นอกจากนี้ บริษัทยังประกอบธุรกิจสินเชื่อลีสซิ่งประเภทสัญญาเช่าทางการเงิน (Financial Lease)

และสินเชื่อเช่าซื้อ (Hire Purchase) รวมทั้งบริการเสริมอื่น ๆ ครบวงจร โดยมี บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล จำกัด (สิงคโปร์) ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ (ข้อมูลตามที่ระบุไว้ในหนังสือชี้ชวนของ IFS)

IFS มีทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 470 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 350 ล้านหุ้นและหุ้นสามัญเพิ่มทุน 120 ล้านหุ้น โดยบริษัทเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO: Initial Public Offering) เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม และ 2-3 สิงหาคม 2553 จำนวน 117.5 ล้านหุ้น พร้อมทั้งเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้กรรมการ และ/หรือผู้บริหาร 2.5 ล้านหุ้น ในราคา 1.35 บาทต่อหุ้น มูลค่าการระดมทุนครั้งนี้เท่ากับ 162 ล้านบาท บริษัทจะนำเงินระดมทุนที่ได้ไปใช้ในการขยายการให้บริการสินเชื่อ และเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานของบริษัท โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ เคที ซีมิโก้ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

ทั้งนี้ ระดับราคา IPO ที่ 1.35 บาทต่อหุ้น มีที่มาจากการสำรวจปริมาณความต้องการซื้อหุ้น (Book Building) ของผู้ลงทุนสถาบัน ทั้งนี้ ราคาการเสนอขายในครั้งนี้คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ (P/E) ประมาณ 7.27 เท่า (คำนวณจากประมาณการกำไรสุทธิปี 2553 (Annualization) ที่จำนวนหุ้น 470 ล้านหุ้น) โดย IFS มีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่า 50% ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและสำรองตามกฎหมาย

หลัง IPO ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ IFS ได้แก่บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ถือหุ้น 36.64% และบริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล จำกัด (สิงคโปร์) ถือหุ้น 36.49%

ผู้ลงทุนและผู้สนใจ โปรดดูรายละเอียดได้จากหนังสือชี้ชวนของบริษัทที่เว็บไซต์ของสำนักงาน ก.ล.ต. ที่ www.sec.or.th และข้อมูลทั่วไปของบริษัทที่ www.ifscapthai.com และที่เว็บไซต์ www.set.or.th

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. S-E-T Call Center 0-2229-2222

ติดต่อส่วนประชาสัมพันธ์ ฝ่ายสื่อสารองค์กร

ลดาวัลย์ กันทวงศ์ โทร. 0-2229 — 2036 /

กนกวรรณ เข็มมาลัย โทร. 0-2229 — 2048/

ณัฐยา เมืองแมน โทร. 0-2229-2043

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๑:๐๐ วว. จับมือจังหวัดสระบุรี/อบต.ตาลเดี่ยว ขับเคลื่อนลดก๊าซเรือนกระจก นำ วทน. พัฒนาศูนย์เรียนรู้เทคโนโลยีจัดการขยะชุมชน
๑๑:๐๐ วว.จับมือคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ส่งเสริมวิจัยนวัตกรรม พัฒนาบัณฑิตสมรรถนะสูง ด้วยวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี
๑๑:๓๗ เปลี่ยนธุรกิจคุณให้โตคูณร้อย กับหลักสูตร CMF เปิดรับสมัครรุ่นที่ 21 แล้ววันนี้ !!
๑๑:๒๖ GFC เสิร์ฟข่าวดีรับศักราชใหม่ปี 68 ดีเดย์ให้บริการคลินิกรักษาผู้มีบุตรยาก GFC Ubon เต็มสูบ
๑๑:๐๐ โรงพยาบาลลานนา จัดอบรม ชาวลานนาร่วมใจ ต้านโรคภัยจากภาวะอ้วนลงพุง
๑๑:๑๕ ค้นหา รักแท้ ในมุมมองใหม่กับศูนย์ฯ สิริกิติ์ ในกิจกรรม ธรรมะในสวน ณ สวนเบญจกิติ 1 กุมภาพันธ์ 2568 นี้
๑๑:๑๐ เชฟรอน (ไทย) รุกเจาะตลาดน้ำมันเครื่อง เพื่ออุตสาหกรรมเครื่องจักรกล
๑๑:๐๗ RML เปิดศักราชปี'68 มาแรง! หุ้นกู้มีหลักประกันขายหมดเกลี้ยง 100%
๑๑:๐๐ สมาคมดินโลก ร่วมกับ 4 หน่วยงาน ลงนามความร่วมมือเสริมสร้างการจัดการดินเพื่อเกษตรยั่งยืน
๑๐:๐๐ ศูนย์การค้าเครือเอ็ม บี เค ฉลองเทศกาลตรุษจีนสุดยิ่งใหญ่ CHINESE NEW YEAR 2025