ณัฐพล คำถาเครือ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ บมจ. โกลเบล็ก โฮลดิ้ง แมนเนจเม้นท์ เปิดเผยว่าราคาทองคำในตลาดโลกที่ปรับตัวขึ้นมายืนเหนือระดับ1,200เหรียญต่ออออนซ์ซึ่งเป็นตัวเลขจิตวิทยาการลงทุน จะกระตุ้นนักเก็งกำไรระยะสั้นเข้ามาลงทุนทองคำทำให้ราคาน่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นจนถึงช่วงกลางสัปดาห์โดยมีแนวต้านที่ 1,220-1,224 เหรียญต่อออนซ์
สำหรับปัจจัยที่เป็นแรงหนุนสำคัญมาจากการทรุดตัวลงของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (Dollar Index) ที่มีแนวโน้มทรุดตัวต่อเนื่อง คาดว่าการประชุมด้านอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ที่จะมีขึ้นในวันอังคาร(10 สิงหาคม 2553) มีโอกาสที่เฟดจะคงมุมมองเชิงลบต่อภาวะเศรษฐกิจ จากตัวเลขทางเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวไม่ว่าจะเป็นภาคการบริโภค ภาคแรงงาน และภาคอสังหาริมทรัพย์ ทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่ยังมีมุมมองเชิงลบต่อการถือครองเงินสกุลดอลล่าร์สหรัฐฯต่อไป หากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯยังย่ำแย่อยู่ต่อไป อาจไม่ได้เห็นเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้เลยก็เป็นได้
“แต่เรายังไม่อยากให้นักลงทุนไว้ใจกับการฟื้นตัวของราคาทองคำในรอบนี้มากจนเกินไป เพราะปริมาณการซื้อขายยังไม่สนับสนุนเท่าที่ควร ประกอบกับ ทางการสหรัฐฯจะมีการเปิดเผยตัวเลขอัตราเงินเฟ้อของเดือนกรกฏาคมในคืนวันศุกร์ ซึ่งช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ตัวเลขดังกล่าวปรับตัวลดลงต่อเนื่อง จนทำให้ทองคำถูกลดความน่าสนใจในการถือครอง” ณัฐพล กล่าว
ณัฐพล กล่าวอีกว่าคำแนะนำเชิงกลยุทธ์ควรเน้นเก็งกำไรระยะสั้นโดยการเข้าซื้อต้นสัปดาห์และขายกลางสัปดาห์ก่อนหยุดยาว เพื่อคาดหวังผลตอบแทนที่ประมาณ 100-150 บาทต่อบาททอง คาดการณ์กรอบการลงทุนที่ 1,190-1,224 เหรียญต่อออนซ์ หรือ 18,050-18,550 บาทต่อบาททอง ส่วนผู้ที่ถือลงทุนระยะกลางถึงยาวแนะนำทยอยซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวในช่วง1,170-1,180เหรียญต่อออนซ์ เพราะเชื่อว่าราคาได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว ส่วนผู้ที่ถือครองทองคำอยู่แล้ว ยังแนะนำให้ถือครองต่อเนื่องเพื่อรอขายในช่วงไฮซีซั่นตั้งแต่เดือนกันยายนเป็นต้นไป
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
บริษัท เดอะ เวย์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด
จตุพล นาคนิ่ม, ภัณฑิรา สร้อยมงคลศรี
ที่ปรึกษาประชาสัมพธ์
โทร. 02-245-3814, แฟกซ์. 02-245-3815