นายโดนอลด์ คาร์ดีน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. ไทยพาณิชย์นิวยอร์คไลฟ์ประกันชีวิต เปิดเผยถึง ผลประกอบการงวดไตรมาส 2/2553 ว่า บริษัทมีผลการดำเนินงานที่น่าพอใจ สามารถขยายตัวได้ตามเป้าหมาย โดยฐานะการเงินหลักๆ เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีรายได้รวมทั้งสิ้น 6,642.75 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,450.5 ล้านบาท คิดเป็น 27.94% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วที่ทำได้ 5,192.19 ล้านบาท รายได้จากการลงทุนสุทธิเพิ่มจาก 516 ล้านบาท ในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว เป็น 647 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 25.38% และมีกำไรสุทธิรวม 565.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 35.91% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันในปีที่แล้ว ที่ทำได้ 416.4 ล้านบาท คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 8.51 บาท เพิ่มจาก 6.26 บาท จากงวดเดียวกันของปีที่แล้ว
นายโดนอลด์ กล่าวว่า ผลประกอบการที่เติบโตอย่างโดดเด่นในไตรมาสที่ 2 มาจากยอดขาย โดยเฉพาะเบี้ยประกันรับสุทธิ และรายได้จากการลงทุนซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง สะท้อนถึงคุณภาพของธุรกิจเป็นอย่างดี นอกจากนี้ บริษัทสามารถปรับตัวให้สอดคล้องกับสภาวะของตลาดที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างทันท่วงที และพลิกวิกฤตจากเหตุการณ์ไม่สงบให้เป็นโอกาสในการขยายตลาดได้เป็นอย่างดี เนื่องจากผู้บริโภคตระหนักถึงความไม่แน่นอนในชีวิต และตื่นตัวถึงความจำเป็นของการสร้างหลักประกันประกันที่มั่นคงให้ตนเองและครอบครัว
สำหรับผลประกอบการงวด 6 เดือนแรกของปี 2553 นั้น มีการขยายตัวในทิศทางที่ดีเช่นกัน โดยตัวเลขฐานะการเงินหลักๆ ได้แก่ รายได้รวม รายได้จากการลงทุน กำไรสุทธิ และสินทรัพย์รวมต่างปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดยรายได้รวมปรับขึ้นเป็น 13,428.62 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,000.6 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 10,428.17 ล้านบาท หรือเติบโต 28.77% มีรายได้จากการลงทุนสุทธิ 1,256 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.03% จาก 981 ล้านบาท ในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ กำไรสุทธิทั้งสิ้นทำได้ 1,121 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 42.07% จาก 789 ล้านบาท ในงวดเดียวกันของปีที่แล้ว โดยมีกำไรสุทธิต่อหุ้น16.86 บาท เพิ่มจาก 11.86 บาท ด้านสินทรัพย์รวมปรับเพิ่มเป็น 58,158 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8,152 ล้านบาท จาก ณ สิ้นปี 2552 และเงินสำรองประกันชีวิตเพิ่มขึ้นจาก 43,667 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2552 เป็น 50,780 ล้านบาท
นายโดนอลด์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ผลประกอบการงวด 6 เดือนของปีนี้ นับว่าดีที่สุดในรอบ 10 ปีของบริษัท ส่งผลให้ฐานะการเงินของเรามั่นคงยิ่งขึ้น และมีศักยภาพในการให้บริการ และขยายตลาดเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในทุกช่องทางตามเป้าหมาย เรามองว่าผลประกอบการในครึ่งปีหลัง น่าจะเติบโตต่อเนื่อง และมีทิศทางเป็นบวก โดยตั้งเป้าว่าเบี้ยรับปีแรกจะเติบโต 10% ขณะที่เบี้ยรับรวมจะเพิ่มขึ้น 15% จากปีก่อน หากรัฐบาลอนุมัติให้มีการเพิ่มสิทธิประโยชน์การลดหย่อนภาษีให้แก่ผู้ทำประกันชีวิตแบบบำนาญ เพิ่มเติมอีก 1 แสนบาท หรือไม่เกิน 15% ของเงินได้ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ ก็จะช่วยกระตุ้นให้ตลาดประกันชีวิตโดยรวมคึกคัก และเติบโตได้เป็นอย่างดี
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ส่วนสื่อสารองค์กรนันทวัน กิจธนาเจริญ / ชนกนาถ ไพฑูรย์มงคลโทร. 02-655-4000 ต่อ 3839, 3424 / 081-835-6540, 089-202-2401