นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ฯ เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ร่วมกับบริษัทหลักทรัพย์เครดิต สวิส (ประเทศไทย) จำกัด จัดงาน “SET-CS Singapore Roadshow 2010” ขึ้นในวันศุกร์ที่ 27 สิงหาคม 2553 ณ ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งการจัดงานครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 3 ของปีนี้ หลังประสบความสำเร็จในการไปโรดโชว์ที่ญี่ปุ่น และกรุงลอนดอน โดยในครั้งนี้ได้รับเกียรติจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง คุณกรณ์ จาติกวณิช ร่วมเดินทางไปให้ข้อมูลภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศแก่ผู้ลงทุนด้วยตนเอง และมีคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) ร่วมเสนอข้อมูลความคืบหน้าด้านกิจการโทรคมนาคม โดยเฉพาะเรื่องของการดำเนินการระบบ 3 G (Third Generation) ภายในประเทศ พร้อมนำบริษัทจดทะเบียนชั้นนำ 9 บริษัท ซึ่งเป็นตัวแทนใน 5 กลุ่มธุรกิจที่อยู่ในความสนใจของผู้ลงทุนร่วมเดินทางไปให้ข้อมูล ได้แก่ ธุรกิจการเงิน ทรัพยากร เทคโนโลยี บริการ เกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร
“โรดโชว์ครั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะนำเสนอข้อมูลของประเทศไทยทั้งในด้านเศรษฐกิจและโอกาสการลงทุน เพื่อให้ผู้ลงทุนได้เห็นถึงความเข้มแข็งของเศรษฐกิจไทย และบริษัทจดทะเบียนไทยขึ้น รวมทั้งการพัฒนาของตลาดหลักทรัพย์ฯ ในด้านต่างๆ ที่สร้างอุปสงค์ (demand) ด้านการลงทุนมากขึ้น เช่น การเข้าไปมีส่วนร่วมในโครงการ ASEAN Linkage รวมถึงผลิตภัณฑ์ใหม่ๆที่จะเกิดขึ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งจะเป็นการตอกย้ำความมั่นใจแก่ผู้ลงทุน โดยคาดว่าจะมีผู้ลงทุนสถาบันต่างประเทศให้ความสนใจเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้ลงทุนที่ลงทุนในแถบเอเชีย เมื่อผู้ลงทุนเกิดความมั่นใจก็จะทำให้มีการเพิ่มน้ำหนักการลงทุนและมีเงินลงทุนเข้ามาในตลาดหุ้นไทยมาก” นายจรัมพรกล่าว
สำหรับบริษัทจดทะเบียนที่ร่วมเดินทางให้ข้อมูลแก่ผู้ลงทุนสถาบันที่สิงคโปร์ครั้งนี้ มีจำนวน 9 บริษัท เป็นบริษัทขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ โดยมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมกันกว่า 2.1 ล้านล้านบาท คิดเป็น 30% ของมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวม (ณ วันที่ 20 ส.ค. 2553) ได้แก่
กลุ่มธุรกิจการเงิน ได้แก่ บมจ. ธนาคารกรุงเทพ (BBL) บมจ. ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป (TISCO) กลุ่มทรัพยากร ได้แก่ บมจ. ปตท. (PTT) บมจ. ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) บมจ.ไทยออยล์ (TOP) กลุ่มเทคโนโลยีได้แก่ บมจ. แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) กลุ่มบริการ ได้แก่ บมจ. ซีพี ออลล์ (CPALL) กลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร ได้แก่ บมจ. ไทยยูเนียน โฟรเซ่น โปรดักส์ (TUF) บมจ. ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MINT)