ณัฐพล คำถาเครือ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ บมจ. โกลเบล็ก โฮลดิ้ง แมนเนจเม้นท์ กล่าวว่า คาดว่าราคาทองคำจะมีแนวโน้มอ่อนตัวลงในช่วงต้นสัปดาห์นี้เหตุเพราะราคาทองที่ปรับตัวขึ้น30เหรียญต่อออนซ์หรือเพิ่มขึ้น2.55%ในช่วงหนึ่งสัปดาห์ครึ่งที่ผ่านมาถือว่าตอบรับประเด็นเรื่องความกังวลการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่มีโอกาสทรุดตัวลงอีกรอบไปหมดแล้ว ราคาจึงมีโอกาสพักฐานโดยค่าเงินดอลลลาร์สหรัฐเริ่มฟื้นตัวขึ้นจะกดดันราคาทองให้ลดลง นอกจากนี้ยังมีปัจจัยทางเทคนิคมาสนับสนุนจากราคาที่ไม่สามารถสร้างจุดสูงสุดใหม่ได้ในช่วงสั้น ทำให้มีโอกาสที่ราคาทองช่วงต้นสัปดาห์จะปรับฐานลง โดยคาดว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,210-1,215 เหรียญต่อออนซ์ ส่วนราคาทองคำในประเทศยังมีโอกาสถูกกดดันจากการแข็งค่าของเงินบาท ซึ่งเป็นไปได้ว่ากระแสเงินจะไหลเข้ามาเก็งกำไรในเงินบาทมากขึ้น เพื่อลุ้นผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินในวันพุธที่ 25สิงหาคมนี้
อย่างไรก็ตามคาดว่าราคาทองจะพักฐานช่วงสั้นเท่านั้นและดีดตัวขึ้นได้อีกครั้งในช่วงกลางถึงปลายสัปดาห์ เนื่องจากราคาทองได้ผ่านจุดต่ำสุดที่ระดับ1,157 เหรียญต่อออนซ์ไปแล้ว และกำลังเปลี่ยนเป็นขาขึ้นโดยมีปัจจัยหนุนจากการบริโภคทองคำในประเทศอินเดียและแรงซื้อจากกองทุน SPDR รวมถึงสถิติเก่าระบุว่าราคาทองช่วงสัปดาห์ที่4ของเดือนสิงหาคมจะให้ผลตอบแทนเมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนเฉลี่ย1.38%และสูงสุดที่4.56% มีความน่าจะเป็นสูงถึง 90% ราคาทองสิ้นสัปดาห์น่าจะปิดสูงกว่าสัปดาห์ก่อนที่1,227.55เหรียญต่อออนซ์ รวมถึงปลายสัปดาห์สหรัฐฯจะเปิดเผยยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2 2553 ครั้งที่ 2 ซึ่งช่วงหลังตัวเลขออกมาไม่ดี จึงน่าจะมีกระแสเงินเข้ามาลงทุนทองคำชั่วคราว
“กลยุทธ์การลงทุนให้รอซื้อช่วงต้นสัปดาห์เมื่อราคาอ่อนตัวลง อาจจะเปิดสถานะShort Gold Futures เพื่อเก็งกำไรระยะสั้น แล้วปิดสถานะเปลี่ยนมาเป็น Long Gold Futures คาดกรอบการลงทุนไว้ที่1, 210-1,240 เหรียญต่อออนซ์” ณัฐพล กล่าว
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
บริษัท เดอะ เวย์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด
จตุพล นาคนิ่ม, ภัณฑิรา สร้อยมงคลศรี
ที่ปรึกษาด้านประชาสัมพธ์
โทร. 02-245-3814, แฟกซ์. 02-245-3815
E-mail:[email protected], [email protected]