นายกิตติ สมานไทย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมสวัสดิภาพและพิทักษ์เด็ก เยาวชน ผู้ด้อยโอกาส และผู้สูงอายุ กล่าวว่า ปัจจุบัน มีเยาวชนจำนวนมาก ที่เข้าศึกษาในระดับอุดมศึกษาทั้งในส่วนกลาง และส่วนภูมิภาค โดยเฉพาะตามจังหวัดใหญ่ๆ ที่มีสถาบันการศึกษาตั้งอยู่ เช่น กรุงเทพมหานครและจังหวัดในเขตปริมณฑล หอพักจึงเปรียบเสมือนเป็นบ้านหลังที่สองและเป็นผู้ปกครองของเด็กที่พักอาศัยด้วยเช่นกัน กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ และมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ร่วมกับจังหวัดนนทบุรี ตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี สถานีตำรวจนครบาลทุ่งสองห้อง และสำนักงานเขตหลักสี่ จึงได้จัดโครงการจัดระเบียบสังคมบริเวณปริมณฑล มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ขึ้น เพื่อเป็นการจัดระเบียบหอพักตามพระราชบัญญัติหอพัก พ.ศ.๒๕๐๗ และปฏิบัติตามพระราชบัญญัติสถานบริการ พ.ศ.๒๕๐๙ เพื่อ สวัสดิภาพความปลอดภัยของนักศึกษาและประชาชน ภายใต้สิ่งแวดล้อมที่ดี ปราศจากสิ่งเสพติดและอบายมุข ซึ่งได้มีการประเมินและมอบรางวัลให้แก่ผู้ประกอบการหอพักเป็นประจำทุกปี เพื่อเป็นการส่งเสริมสร้างขวัญกำลังใจแก่ผู้ประกอบการหอพักที่ตระหนักในเรื่องการคุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก เยาวชน และให้ความร่วมมือดำเนินกิจการให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย อีกทั้งยังเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับผู้ประกอบการหอพักรายอื่นด้วย
นายกิตติ กล่าวต่อว่า เกณฑ์ในการคัดเลือกหอพัก พิจารณาจากสภาพของหอพักในด้านต่างๆ เช่น การปฏิบัติตาม พ.ร.บ.หอพักฯ ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน การให้บริการและสวัสดิการด้านความสะอาดและสุขลักษณะอนามัยของหอพัก เป็นต้น ซึ่งในปีการศึกษา ๒๕๕๒ มีหอพักที่ได้ผลการประเมินหอพักอยู่ในระดับ“ดีมาก” จำนวน ๒๔ แห่ง อยู่ในระดับ “ดี” จำนวน ๓๔ แห่ง โดยเป็นหอพักที่อยู่ในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี จำนวน ๓๗ แห่ง และเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร จำนวน ๒๑ แห่ง
“ พม.ในฐานะเป็นหน่วยงานที่มีภารกิจในการควบคุมดูแลและการดำเนินกิจการหอพักเอกชน จึงอยากขอความร่วมมือให้ผู้ประกอบการหอพักภาคเอกชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินงานตามมาตรฐานการจัดระเบียบหอพัก เพื่อให้เยาวชนได้รับการคุ้มครองสวัสดิภาพในขณะที่พักอาศัยในหอพัก และขอฝากให้ผู้ประกอบการหอพักเอกชนทุกแห่ง ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องและให้ความสำคัญกับการดูแลเยาวชนในหอพัก เปรียบเสมือนลูกหลานของท่านเอง” นายกิตติ กล่าว.