กรุงไทยขยายฐานสินเชื่อที่อยู่อาศัย จับกลุ่มลูกค้าราชการ รัฐวิสาหกิจ

กรุงเทพฯ--1 ธ.ค.--ธ.กรุงไทย
ธนาคารกรุงไทยปรับกลยุทธ์สินเชื่อบ้าน สวนกระแสช่วงดอกเบี้ยขาขึ้น ให้สิทธิประโยชน์กลุ่มข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ กู้ได้สูงสุดถึง 110% อัตราดอกเบี้ยต่ำเป็นพิเศษ
นายธีรินทร์ เต่าทอง ผู้อำนวยการฝ่าย ผู้บริหารฝ่าย ฝ่ายบริหารผลิตภัณฑ์เพื่อที่อยู่อาศัย บมจ.ธนาคารกรุงไทย กล่าวถึง สถานการณ์ตลาดสินเชื่อที่อยู่อาศัยของธนาคารในช่วงที่ผ่านมาว่า มีการปล่อยสินเชื่อใหม่ เพิ่มขึ้นเดือนละ 2,100 — 2,500 ล้านบาท โดยเป้าหมายในปีนี้คาดว่า ยอดสินเชื่อสิ้นปีจะอยู่ที่ประมาณ 102,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการขยายฐานลูกค้ารายย่อยอย่างต่อเนื่อง และเพิ่มปริมาณสินเชื่อ ธนาคารได้ปรับหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัย สำหรับข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ ซึ่งมีจำนวนรวมกว่า 2.2 ล้านคน และส่วนใหญ่เป็นลูกค้าเงินฝากของธนาคาร เพื่อให้ได้รับสิทธิประโยชน์อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะพนักงานรัฐวิสาหกิจที่แปรรูปแล้วและเตรียมแปรรูป
“ข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจที่สังกัดหน่วยงานที่ดำรงเงินฝากกับธนาคาร จะได้สิทธิกู้สินเชื่อ เพื่อซื้อที่ดินพร้อมบ้าน ทาวน์เฮ้าส์ ห้องชุด และอาคารพาณิชย์ ในวงเงิน สูงถึง 100% ในอัตราดอกเบี้ยบวกส่วนต่างไม่ต่ำกว่า 1.5% ต่อปี สำหรับหน่วยงานที่ไม่ได้เป็นลูกค้าเงินฝากกับธนาคาร ธนาคารจะคิดอัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.5%ในปีที่ 1 หลังจากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ย MLR-0.5% ตลอดอายุสัญญา และในกรณีที่ลูกค้าซื้อบ้านจากโครงการที่ธนาคารให้การสนับสนุนทางการเงิน (Project Finance) จะได้รับอัตราดอกเบี้ยที่ถูกลง โดยปีที่ 1 คิดดอกเบี้ย 3.25% หลังจากนั้นคิดดอกเบี้ย MLR-0.5% ปัจจุบัน MLR เท่ากับ 6.25%”
นอกจากนี้ลูกค้ายังสามารถกู้สินเชื่อ MRTA (Mortgage Reducing Term Assurance) เพื่อชำระค่าเบี้ยประกันชีวิตให้กับบริษัทประกันชีวิต โดยธนาคารให้วงเงินกู้เมื่อรวมกับวงเงินสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยสูงถึง 110% โดยในส่วนของสินเชื่อ MRTA คิดอัตราดอกเบี้ย MLR-0.5% ทั้งนี้ลูกค้าจะได้รับการคุ้มครองตามอายุสัญญา โดยทายาทไม่ต้องรับภาระชำระหนี้ให้ธนาคาร ในกรณีประสบเหตุเสียชีวิตหรือทุพลภาพ
นายธีรินทร์ ได้กล่าวในตอนท้ายว่า นับจากนี้ไปอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย จะปรับตัวสูงขึ้น ขณะเดียวกันสถานการณ์การปล่อยสินเชื่อ มีการแข่งขันที่สูงขึ้น สถาบันการเงินและเจ้าของโครงการต่างเร่งปรับกลยุทธ์ โดยหันมาร่วมมือกันจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายและเสนอเงื่อนไขพิเศษต่างๆ เพื่อกระตุ้นยอดขาย
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
ฝ่ายสื่อสารการตลาดและประชาสัมพันธ์
โทร.0-2208-4174-7--จบ--