โดยชาคริตเล่าถึงการเข้ามารับบทบาทสำคัญในครั้งนี้ว่า “ตอนแรกผมก็ลังเลใจมากครับ ว่าจะรับเล่นดีหรือเปล่า เพราะตารางงานผมแน่นมาก ทั้งละคร ทั้งซิตคอม งานพิธีกร ผมเลยปฏิเสธงานนี้ก่อนเลย เพราะเกรงใจและกลัวว่าจะทุ่มเทให้ไม่ได้เต็มที่ แต่พอได้อ่านบทแล้วชอบมาก ผมชอบแก่นของเรื่องที่หยิบเอาปรัชญามาเล่าในมุมเอ็นเตอร์เทน อย่างมนุษย์คือผู้สร้าง มนุษย์คือผู้ทำลาย ซึ่งมันคือความเป็นจริงที่เกิดขึ้นอยู่ทุกวันนี้ และยิ่งได้รู้ว่าหนังเรื่องนี้ทุ่มเทด้านโปรดักชั่นเต็มที่ ผมเลยลองพยายามเคลียร์คิวอีกครั้งจนลงตัว แต่ที่สำคัญที่สุดคือการที่ครั้งหนึ่งในชีวิตผมได้มีโอกาสถวายงานให้กับทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญาฯ ซึ่งผมถือว่าเป็นเกียรติสูงสุด และภูมิใจที่สุดในชีวิตครับ”
บทที่ผมได้รับในมายเบสท์ บอดี้การ์ด คือนักฆ่า ที่ต้องเชี่ยวชาญในการใช้อาวุธและการต่อสู้ทุกรูปแบบ เพราะฉะนั้นผมต้องทำการบ้านเพิ่มมากขึ้น ต้องเข้ามาเวิร์คช็อปศิลปะการต่อสู้กับนักออกแบบคิวบู๊จากฮ่องกง (ดีดี๋) ต้องฝึกใช้อาวุธทุกชนิดให้เป็น ไล่ไปตั้งแต่ปืนสั้น ปืนก๊อก สไนเปอร์ ไปจนถึงระเบิด และต้องฟิตร่างกายให้พร้อม เพื่อให้การแสดงออกมาดูสมจริงที่สุด เพราะแต่ละฉากในหนังเรื่องนี้ เป็นการบู๊แอ็คชั่นที่แรงมาก ไม่ว่าจะเป็นฉากที่ผมปะทะกับชอน ยู หรือสู้กันตัวต่อตัวกับพี่ตุ้ย ถือได้ว่าเป็นฉากแอ็คชั่นที่หนักที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอมา แต่ไม่หนักใจเพราะทางโอเรียนทัล อายส์มีทีมคิวบู๊ และทีมสตั๊นท์ระดับอินเตอร์มาช่วยดูแล ช่วยลดความเสี่ยงในฉากต่อสู้ได้เยอะ และมั่นใจในความปลอดภัยได้เต็มที่”
ติดตามชม “ชาคริต แย้มนาม” สลัดคราบนักรัก เป็น นักฆ่า บู๊ระห่ำ ใน
“มายเบสท์ บอดี้การ์ด” ( My Best Bodyguard )
21 ตุลาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์เท่านั้น