นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ บริษัท โกลเบล็ก โฮลดิ้ง แมนเนจเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ราคาทองคำในสัปดาห์นี้มีโอกาสปรับตัวลง เนื่องมาจากนักลงทุนเริ่มมีความเชื่อมั่นที่จะลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงอย่างเช่น ตลาดหุ้นมากขึ้น ทำให้ทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยถูกลดความสนใจลง แม้ว่าแนวโน้มค่าเงินดอลลาร์สหรัฐจะอ่อนตัวลงจากการกลับมาใช้นโยบายการเงินเชิงผ่อนคลายอีกครั้งของธนาคารกลางสหรัฐซึ่งจะทำให้ราคาทองปรับตัวขึ้น แต่ที่สุดแล้วเชื่อว่านักลงทุนน่าจะโยกเงินไปลงในสินทรัพย์เสี่ยงมากกว่า หากดูจากรอบ 4 สัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาทองคำที่ปรับตัวขึ้นมาแล้ว7% ขณะที่ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลดลง 4%
“แม้ว่าคืนวันศุกร์จะมีแรงซื้อให้ราคากลับมาปิดที่ราคา 1,238 ดอลล่าร์สหรัฐฯต่อทรอยออนซ์แต่มูลค่าซื้อขายเบาบางเมื่อเทียบกับแรงขายก่อนหน้านี้ บรรยากาศการลงทุนทองคำในช่วงสั้นจึงยังดูไม่ดีเท่าที่ควร” นายณัฐพล กล่าว
อย่างไรก็ตามปัจจัยที่ต้องจับตาในสัปดาห์นี้ได้แก่ ตัวเลขรายได้ส่วนบุคคลและค่าใช้จ่ายส่วนบุคคลของสหรัฐฯ ตัวเลขอัตราการว่างงานของยูโรโซน ดัชนีราคาบ้านของสหรัฐฯ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรภาคเอกชนที่จัดทำโดย ADP และดัชนีภาคการผลิต ISM ของสหรัฐฯ การประชุมธนาคารกลางยุโรป ตัวเลขยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรและตัวเลขอัตราการว่างงานของสหรัฐฯ หากตัวเลขทั้งหมดออกมาดีจะส่งผลลบกับราคาทองคำ แต่ถ้าออกมาแย่จะส่งผลบวกกับราคาทองคำ
โกลเบล็ก มองว่าราคาทองคำน่าจะพักฐานระยะสั้นเท่านั้น คาดตัวเลขทางเศรษฐกิจดังกล่าวจะออกมาไม่ดีทำให้ราคาทองคำจะปรับตัวขึ้นอีกครั้งในช่วงกลางถึงปลายสัปดาห์ กลยุทธ์การลงทุนสัปดาห์นี้แนะนำให้รอซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวลงมาอยู่ที่1,210 ดอลล่าร์สหรัฐฯต่อทรอยออนซ์ หรือประมาณ 17,950 บาทต่อบาททอง ถ้าลงทุนระยะสั้นให้ขายที่ปลายสัปดาห์ หากลงทุนระยะยาวรอขายช่วงเดือนกันยายนจนถึงปลายปีที่เป็นไฮซีซั่น คาดการณ์กรอบการเคลื่อนไหวสัปดาห์นี้ไว้ที่ 1,210-1,250 ดอลล่าร์สหรัฐฯต่อทรอยออนซ์ หรือประมาณ 17,950-18,550 บาทต่อบาททอง