นางสาวเสาวลักษณ์ ชัยเดชสุริยะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สหการประมูล จำกัด เปิดเผยถึงสถานการณ์ตลาดรถมือสองภาคเหนือว่า ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้จำนวนรถยนต์มือสองในตลาดน่าจะมีสถิติเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะจากการเปรียบเทียบข้อมูลจากไฟแนนซ์ที่เป็นพันธมิตรกับสหการประมูลและได้ส่งรถยึดเข้ามาประมูลขายตลอดทั้งปี พบว่าตั้งแต่ต้นปีนั้นจำนวนรถยนต์ที่ถูกยึดและเข้าสู่กระบวนการขายทอดตลาดนั้นได้เพิ่มจำนวนสูงขึ้นทุกเดือน โดยเฉพาะเดือนกันยายนนี้บริษัทได้รับรายการรถยนต์ที่พร้อมประมูลขายจำนวนกว่า 1,000 คัน ทำให้บริษัทต้องจัดให้มีการประมูลขายรถมือสองทั้งรถจักรยานยนต์ รถยนต์เก๋ง-กระบะที่จังหวัดเชียงใหม่ถึง 4 รอบด้วยกัน เชื่อว่าการเพิ่มขึ้นของรถยึดเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้จำนวนรถยนต์มือสองในตลาดเพิ่มขึ้น นั่นหมายความว่าตลาดยังคงเป็นของผู้บริโภค โดยเฉพาะการซื้อรถจากการประมูลที่ลูกค้าสามารถกำหนดราคาเองได้ จะเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น
“การประมูลขายทั้ง 4 รอบในเดือนเดียวนี้ กลุ่มลูกค้าที่เข้ามาซื้อมีทั้งผู้บริโภคที่ต้องการใช้รถยนต์ รวมทั้งผู้ประกอบการในธุรกิจรถยนต์มือสอง เชื่อว่าการที่ไฟแนนซ์แต่ละแห่งมีตัวเลขยึดรถเพิ่มขึ้น จะทำให้รถยนต์ส่วนหนึ่งไปอยู่ในตลาดรถยนต์มือสอง ดังนั้น การเก็งกำไรจากพ่อค้าอาจมีความเป็นไปได้น้อยมาก เนื่องจากรถยนต์มือสองในตลาดก็มีจำนวนมากอยู่แล้ว ในขณะที่ลูกค้าส่วนใหญ่มีทางเลือกมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญส่วนใหญ่นิยมเลือกซื้อจากการประมูล โดยเฉพาะรถยนต์จากไฟแนนซ์ที่ราคาถูกกว่า” นางสาวเสาวลักษณ์กล่าว และให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า จากนี้ไปการซื้อเพื่อเก็งกำไรจะมีน้อยลง เพราะส่วนใหญ่จะเป็นการซื้อเพื่อใช้เอง เห็นได้จากการประมูลขายทุกครั้งลูกค้าไม่ได้ซื้อทีละหลายคันเหมือนเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา
สำหรับการประมูลขายที่เชียงใหม่ 4 รอบนั้น บริษัทได้จัดขึ้นในวันที่ 17 กันยายน 2553 ประมูลรถจักรยานยนต์ 300 คัน เริ่มประมูลเวลา 11.00 น. วันที่ 24 กันยายน 2553 ประมูลรถยนต์ 200 คัน วันที่ 27 กันยายน 2553 ประมูลรถยนต์ 150 คัน และ วันที่ 29 กันยายน 2553 ประมูลรถยนต์ 250 คัน ณ ห้างสรรพสินค้าคาร์ฟูร์ โดยจะเริ่มต้นประมูลในเวลา 12.00 น. สำหรับผู้ที่ต้องการรายการรถสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้