มหาวิทยาลัยสหประชาชาติจัดสัมมนาเกี่ยวกับสตรี สันติภาพ และความมั่นคง เน้นย้ำความสำคัญของสตรีในการสร้างสันติภาพ

ศุกร์ ๑๐ กันยายน ๒๐๑๐ ๑๒:๒๗
มหาวิทยาลัยสหประชาชาติ (United Nations University: UNU) เป็นเจ้าภาพจัดการสัมมนาในหัวข้อ “Women Making Peace: Where Are We Now? Maximizing the Impact of UN Security Council Resolution 1325, 10 Years On” ในวันที่ 8 กันยายนที่ผ่านมา เพื่อประเมินความก้าวหน้าทั่วโลกในการทำตามมติ UNSCR 1325 ที่เรียกร้องให้มีการยอมรับในคุณค่าและสนับสนุนบทบาทของสตรีในการป้องกันและแก้ไขข้อพิพาทเพิ่มมากขึ้น

การสัมมนาครั้งนี้ร่วมกันจัดขึ้นโดยโครงการปฏิบัติการโลกเพื่อป้องกันการเกิดสงคราม (Global Action to Prevent War: GAPW), สมาคมพุทธศาสนา โซคา งักไก อินเตอร์เนชั่นแนล หรือ เอสจีไอ (Soka Gakkai International : SGI) และกลุ่มเอ็นจีโอ เวิร์คกิ้ง กรุ๊ป เพื่อสตรี สันติภาพ และความมั่นคง (NGO Working Group on Women, Peace and Security: NGOWG) ซึ่งในการสัมมนาประกอบด้วยการประชุมผู้เชี่ยวชาญในช่วงเช้า การประชุมสาธารณะ และการเปิดตัวหนังสือ

ผู้ร่วมการสัมมนาได้ร่วมกันฉลองความสำเร็จของสตรีระดับรากหญ้าที่มีบทบาทสำคัญในเหตุการณ์ต่างๆ ตั้งแต่ในแอฟริกาไปจนถึงตะวันออกกลาง อย่างไรก็ตาม บรรดาผู้ร่วมงานต่างรับไม่ได้ที่มีประเทศสมาชิกเพียง 19 ประเทศที่ดำเนินแผนปฏิบัติการระดับชาติ (National Action Plans) ในการทำตามมติข้างต้น ทั้งที่มติดังกล่าวผ่านการอนุมัติมานานถึง 10 ปีแล้ว ทั้งหมดจึงเห็นพ้องต้องกันว่าจำเป็นต้องสร้างความตระหนักรู้และเปิดเผยความก้าวหน้าของการดำเนินงานให้มากขึ้น

ดร.โนลีน เฮย์เซอร์ (Dr.Noeleen Heyzer) เลขานุการผู้บริหารของคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชาชาติประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (UNESCAP) และอดีตกรรมการบริหารของกองทุนการพัฒนาเพื่อสตรีแห่งสหประชาชาติ (UNIFEM) กล่าวย้ำเตือนกับผู้ร่วมการสัมมนาว่า มติดังกล่าวเปิดโอกาสให้สามารถปกป้องคุ้มครองกลุ่มคนที่อ่อนแอที่สุด ถูกเพิกเฉยที่สุด รวมถึงผู้ที่มีส่วนในการสร้างสันติภาพมากที่สุด

คาโย มาเอตะ (Kayo Maeta) ประธานคณะกรรมาธิการสันติภาพสตรีของโซคา งักไก กล่าวถึงแรงบันดาลใจของเอสจีไอในการสนับสนุนการสัมมนาครั้งนี้ว่า “ในฐานะองค์กรประชาสังคม เราได้พยายามกระตุ้นให้ประชาชนในระดับชุมชนตระหนักถึงความสำคัญของมติ UNSCR 1325 ด้วยการสร้างวัฒนธรรมแห่งสันติภาพซึ่งทุกภาคส่วนของสังคมตระหนักถึงศักยภาพอันเต็มเปี่ยมของสตรี”

ดร.จัสมิน เอ็น.กาลาซ (Dr.Jasmin N. Galace) รองกรรมการศูนย์เพื่อการศึกษาสันติภาพแห่งวิทยาลัยมีเรียม (Center for Peace Education at Miriam College) ในฟิลิปปินส์ ได้เปิดเผยความก้าวหน้าของการวิจัยและการดำเนินแผนปฏิบัติการระดับชาติ ซึ่งทำให้กลุ่มสตรีและหน่วยงานรัฐได้มาพบปะพูดคุยกัน ทั้งยังสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้กับสตรีด้วย

มิคิโกะ โอทานิ (Mikiko Otani) ทนายความด้านสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ กล่าวเสริมว่า มติ UNSCR 1325 ไม่เพียงเกี่ยวข้องกับประเทศที่มีส่วนในความขัดแย้งโดยตรงเท่านั้น แต่การสร้างศักยภาพให้กับสตรีมีความสำคัญสำหรับทุกประเทศ เนื่องจากสันติภาพจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อบุรุษและสตรีมีสิทธิในการมีส่วนร่วมอย่างเท่าเทียมกันเท่านั้น

แนวคิดดังกล่าวได้รับการตอบรับจาก ไดซาขุ อิเคดะ (Daisaku Ikeda) ประธานเอสจีไอ ซึ่งกล่าวว่า “สิ่งที่มติดังกล่าวต้องการจะสื่อคือ ทัศนคติและสิทธิของสตรี ซึ่งจนถึงปัจจุบันยังไม่ได้รับความสนใจเท่าที่ควร ต้องได้รับการเอาใจใส่และสะท้อนออกมาผ่านการมีสิทธิมีเสียงในการตัดสินใจเรื่องต่างๆ ในสังคม”

ซาร่าห์ เทย์เลอร์ (Sarah Taylor) ผู้ประสานงานผู้บริหารของกลุ่มเอ็นจีโอ เวิร์คกิ้ง กรุ๊ป เน้นย้ำว่า ประสบการณ์พิเศษของสตรีต้องถูกนำมาใช้ในการอภิปรายเรื่องสันติภาพและความมั่นคงทุกครั้ง ขณะที่ผู้ร่วมการสัมมนาเห็นด้วยว่าจุดมุ่งหมายสูงสุดควรเป็นการสร้างวัฒนธรรมแห่งสันติภาพ ซึ่งสตรีและบุรุษได้รับการส่งเสริมให้แสดงความคิดเห็นและลงมือแก้ปัญหาการข่มเหงและแก้ไขข้อพิพาทต่างๆ ที่เกิดขึ้น

นอกจากนั้น คาวิธา สุธันธิราราช (Kavitha Suthanthiraraj) และ คริสติน่า อาโย (Cristina Ayo) ยังได้ร่วมกันเปิดตัวหนังสือ “Promoting Women's Participation in Conflict & Post-Conflict Societies: How women worldwide are making & building peace” ซึ่งทั้งคู่ได้ร่วมกันเขียนขึ้นเพื่อเน้นให้เห็นถึงการมีส่วนร่วมของสตรีในการเจรจาด้านสันติภาพ ด้านการเมือง และการปฏิรูปด้านความมั่นคง หนังสือเล่มนี้ผลิตโดย GAPW, NGOWG และสหพันธ์สตรีนานาชาติเพื่อสันติภาพและอิสรภาพ (Women's International League for Peace and Freedom) ซึ่งสามารถติดต่อขอรับได้ที่ [email protected]

โซคา งักไก อินเตอร์เนชั่นแนล เป็นสมาคมพุทธศาสนาที่มีสมาชิกกว่า 12 ล้านคนทั่วโลก ทางสมาคมดำเนินกิจกรรมด้านการส่งเสริมสันติภาพ วัฒนธรรม การศึกษา และการสร้างศักยภาพ ผ่านแนวคิดเรื่องมนุษยธรรมตามหลักของพุทธศาสนาที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน

แหล่งข่าว: โซคา งักไก อินเตอร์เนชั่นแนล

ติดต่อ :

โจน แอนเดอร์สัน

สำนักงานข้อมูลสาธารณะ

โซคา งักไก อินเตอร์เนชั่นแนล

โทรศัพท์: +81-3-5360-9475

โทรสาร: +81-3-5360-9885

อีเมล: janderson[at]sgi.gr.jp

--เผยแพร่โดย เอเชียเน็ท ( www.asianetnews.net ) --

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ