นางรมยกร สุวิสิทฐ์ กรรมผู้จัดการ บริษัท แพน โฟ จำกัด เปิดเผยถึงตลาดการศึกษาทั้งในและนอกหลักสูตรปัจจุบันพบว่า มีแนวโน้มการเติบโตที่สูงขึ้นและขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มการศึกษาในระบบการศึกษาตามหลักสูตรพื้นฐาน ทำให้มูลค่าโดยรวมของตลาดธุรกิจกวดวิชาในปี 2552 พุ่งสูงถึง 6,900 ล้านบาท และคาดว่าในปี 2553 จะเพิ่มขึ้นถึง 7,400 ล้านบาท ส่วนการศึกษาอบรมนอกหลักสูตร อาทิ การฝึกอบรม การสัมมนา เสริมทักษะของหน่วยงานบริษัทเอกชนและหน่วยงานภาครัฐ ก็มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องเช่นกัน โดยปัจจุบันมีมูลค่าสูงกว่า 1,000 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตถึงปีละ 20-30% ซึ่งตลาดการศึกษานอกหลักสูตรของไทยนั้น ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านอย่าง มาเลเซีย หรือ สิงค์โปร ทั้งที่ประเทศไทยมีความพร้อมกว่าในหลายๆ หากได้รับการสนับสนุนอย่างจริงๆ จะทำให้ธุรกิจฝึกอบรมของไทยสามารถแข่งขันกับประเทศต่างๆ ได้ไม่ยาก
สำหรับประเทศไทยตลาดของธุรกิจฝึกอบรมและเสริมทักษะปัจจุบันได้รับการสนับสนุนจากองค์กรภาครัฐและเอกชนมากขึ้น เนื่องจากทุกองค์กรต่างๆ ให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากร เห็นได้จากงบประมาณที่ใช้ในการฝึกอบรมและเสริมทักษะพนักงานประจำปีที่เพิ่มขึ้นอยู่ที่ประมาณ 2,000 บาท/คน/ปี โดยกลุ่มลูกค้าที่เป็นตลาดหลักสำหรับธุรกิจนี้จะเป็นกลุ่มราชการ รัฐวิสาหกิจ ผู้ประกอบการธุรกิจ และบริษัทเอกชนขนาดกลางและขนาดใหญ่ที่มีอยู่กว่า 5 แสนบริษัท มีพนักงานรวมกันไม่ต่ำกว่า 9 ล้านคน รวมถึงค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรมและเสริมทักษะพิเศษเฉพาะบุคคลทั้งในและนอกหลักสูตรยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นด้วย
นอกจากนั้นธุรกิจฝึกอบรมและเสริมทักษะยังได้รับอานิสงค์จากการสนับสนุนของภาครัฐ ซึ่งบริษัทและองค์กรต่างๆ ที่จัดฝึกอบรมและเสริมทักษะให้แก่พนักงาน สามารถนำใบเสร็จรับเงินจากการอบรมมาแสดงเพื่อรับสิทธิประโยชน์ทางภาษีจากกรมสรรพากรได้ถึง 200% และปีนี้ (2553) ภาครัฐได้จัดทำมาตรการภาษีพิเศษขึ้นเพื่อบรรเทาภาระและฟื้นฟูผลกระทบจากการชุมนุมในภาพธุรกิจท่องเที่ยว โดยค่าใช้จ่ายในการจัดสัมมนาภายในประเทศ ทั้งกรณีดำเนินการเองหรือกรณีใช้บริการผู้ประกอบธุรกิจฝึกอบรม สามารถได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีหักได้ 2 เท่าของต้นทุนที่จ่ายจริง 2 รอบระยะเวลาบัญชี (2553-2554) อีกด้วย
จากปัจจัยสนับสนุนดังกล่าว บริษัท แพน โพ จำกัด ซึ่งเป็นผู้มีประสบการณ์และเป็นบุกเบิกตลาดการจัดการฝึกอบรมและเสริมทักษะทั้งในและต่างประเทศ จึงได้มีการจัดงานมหกรรมความรู้ทางเลือก Learning Expo 2010 ขึ้น ระหว่างวันที่ 7-10 ตุลาคม 2553 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เพื่อเป็นศูนย์รวมและแสดงศักยภาพของธุรกิจฝึกอบรมและเสริมทักษะในประเทศไทย ภายใต้แนวคิด “แหล่งรวมความรู้สู่ความสำเร็จ ที่โรงเรียนไม่ได้สอน” โดยเปิดโลกแห่งการเรียนรู้ทางเลือกและรวบรวมสุดยอดมืออาชีพในทุกสาขาอาชีพ ทั้ง วิทยากร ผู้เชี่ยวชาญ สถาบันการเรียนรู้ทางเลือกและการเรียนรู้เพื่อเพิ่มทักษะการพัฒนาศักยภาพสู่ความสำเร็จ ซึ่งกลุ่มเป้าหมายผู้เข้าชมงานนั้นจะเป็นกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจ ฝายพัฒนาบุคคลขององค์กรต่างๆ นักธุรกิจ และประชาชนทั่วไปที่สนใจการเรียนรู้ใหม่ๆ โดยคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมชมงานมากถึง 10,000 คน
ภายในงานประกอบด้วย 3 งานสัมมนาที่น่าสนใจได้แก่ สัมมนาและเวริค์ช้อปสำหรับผู้ปกครองและเด็ก "กลยุทธ์ วัดแววลูกสู่ความสำเร็จ", สัมมนา “รวย 360 องศา สุดยอดกลยุทธ์สร้างเงิน” และสัมมนา “พลิกชีวิต ลิขิตความมั่งคั่ง” โดยวิทยากรผู้มีชื่อเสียง อาทิ คุณตัน ภาศกรนที ผู้ก่อตั้งและอดีตผู้บริหาร โออิชิ กรุ๊ป คุณศุภกิจ รุ่งโรจน์ นักสร้างแรงบันดาลใจมือหนึ่งของเมืองไทย คุณประภาส ตันพิบูลย์ศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อยุธยา จำกัด หมอการเงินหนึ่งเดียวของเมืองไทย คุณสมคิด ลรางกูล จากเด็กวัดถึงนักเขียน 100 ล้าน คนแรกของประเทศไทย ฯลฯ พร้อมด้วยผู้ประกอบการธุรกิจเสริมทักษะและฝึกอบรมร่วมออกงานกว่า 90 บูธ โดยแบ่งเป็นโซนต่างๆ 5 โซน ได้แก่ โซนการพัฒนาจิตใจและความคิดสร้างสรรค์ โซนการงาน การสร้างความสัมพันธ์และโอกาส โซนการเงินและการลงทุน โซนสุขภาพ และโซนบันเทิง ผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร 02 955 5492-3 หรือ www.learning-expo.com