จากการศึกษาพบว่า 81% ของจำนวนผู้ใช้งาน social network จำนวนมาก โดยเฉพาะในกลุ่มเจ้าหน้าที่ IT ของบริษัทต่างๆ จะตอบรับคำขอเป็นเพื่อนและเปิดเผยความลับให้กับสาวๆ โดยปราศจากความระมัดระวัง ในเรื่องนี้ BitDefender จึงขอย้ำเตือนไปยังผู้คลั่งไคล้ใน social network ให้ระวังเมื่อมีการส่งคำขอร้องการเป็นเพื่อนจากสาวๆ ในเน็ทเวิร์ค อย่าตอบรับหรือแบ่งปันให้กับคนอื่นที่ไม่รู้จัก
เพราะตามรายงานการทดสอบของทาง บิทดีเฟนเดอร์ แลป พบว่าผู้ใช้งาน social network จะไม่แสดงตัวตนที่เกี่ยวกับบุคลิกที่แท้จริงต่อบุคคลอื่นที่พบในสังคมออนไลน์ หรือเกี่ยวกับรายละเอียดที่พวกเขาเปิดเผยกับคนแปลกหน้าในขณะที่พวกเขากำลังสนทนา การควบคุมนี้เป็นไปมากกว่า 2 สัปดาห์ ได้ผลออกมาว่า 94% ได้รับคำขอเป็นเพื่อนจากหญิงสาว โดยที่พวกเขาไม่ทราบเลยว่าใครเป็นผู้ส่งมา
การทดสอบนี้ควบคุมกลุ่มผู้ถูกทดสอบทั้งหมด 2,000 คน จากทั่วโลกที่เป็นสมาชิกใน social network ที่เป็นที่นิยมที่สุด โดยจะสุ่มเลือกผู้ใช้งานเพื่อให้ครอบคลุมทุกกลุ่ม เช่น เพศ (ชาย 1,000 คน หญิง 1,000 คน) อายุ (ช่วงอายุระหว่าง 17 — 65 ปี อายุเฉลี่ยประมาณ 27.3 ปี) อาชีพ ความสนใจ ฯลฯ ในขั้นตอนแรกผู้ที่ถูกสุ่มเลือกนั้นจะได้รับคำร้องขอเป็นเพื่อนจากหญิงสาว ขั้นตอนที่สอง บทสนทนาที่หลากหลายโดยการสุ่มเลือกผู้ถูกทดสอบ โดยจุดประสงค์ คือ ผู้ที่ถูกทดสอบจะเปิดเผยข้อมูลใดให้แก่หญิงสาวบ้าง
การทดสอบแสดงให้เห็นว่ามีมากกว่า 86% ของผู้ถูกทดสอบที่ไว้ใจตอบรับคำร้องขอเป็นเพื่อนจากโปรไฟล์สมมุติที่สร้างมาเพื่อทำการทดสอบ โดยมาจากกลุ่ม IT Industry 31% จากกลุ่มอาชีพ IT Security ความน่าดึงดูดเป็นเหตุผลที่พบบ่อยที่สุดสำหรับการตอบรับสาวผิวขาวที่ไม่รู้จักกันมาก่อนเป็นเพื่อน (53%)
การตอบสนองที่น่าสงสัยของเจ้าหน้าที่ IT โดยนำมาเปรียบเทียบกับการให้ข้อมูลที่เสี่ยงต่อการคุกคามความเป็นส่วนตัว เช่น เล่าเรื่องการทดสอบ ความขัดแย้ง ขอบเขต ทัศนะคติทั่วไปต่อประเด็นดังกล่าว ความปลอดภัของบริษัทเกือบทั้งหมดจะกำหนดความสำคัญที่เกี่ยวกับความเสี่ยงที่จะเกิดจาก social network พูดง่ายๆ ก็คือ คล้ายกับนโยบายและกฎข้อบังคับพื้นฐานที่ไม่ปรากฏอย่างแน่ชัดในสภาพแวดล้อมในที่ที่พวกเขาคิดว่ามันเข้มงวดมากว่าที่อื่นๆ Sabina Datcu — BitDefender E-Threat and Communication Sepecialist เจ้าของการทดสอบในครั้งนี้
นอกจากนั้น การทดสอบก็เปิดเผยว่าผู้ใช้เองมีช่องโหว่คล้ายกับเจ้าหน้าที่ IT เช่นเดียวกัน — หลังจากสนทนาไปครึ่งขั่วโมง 10% จากจำนวนทั้งหมดก็เปิดเผยข้อมูลออกมา เช่น ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ ชื่อบิดา มารดา ฯลฯ ข้อมูลเหล่านี้มักจะถูกใช้เป็นคำตอบในการกู้คืนพาสเวิร์ด 2 ชั่วโมงต่อมา เป็นขั้นตอนการล้วงความลับเกี่ยวกับข้อมูลจากที่ทำงานของพวกเขา เช่น กลยุทธ์ในอนาคต แผนงานต่างๆ
อะไรคือเหตุที่แท้จริงที่ผู้ใช้งานไม่เคยเปิดเผยข้อมูลที่แท้จริง หรือการปิดบังชื่อใน social network ความคิดในการ ‘ไม่เปิดเผย’ ‘เป็นความลับ’ หรือแม้กระทั่ง ‘ความเป็นส่วนตัว’ แต่ทุกอย่างจะถูกโยนทิ้งไป เมื่อพวกเขาสนทนาออนไลน์กับคู่สนทนา โดยเฉพาะเมื่อคุยกับผู้หญิงสาว
สามารถสอบถามปัญหาไวรัสข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Call center 02-982-3545