ด้วยวิวัฒนาการของโลกปัจจุบัน ทำให้คนเราต้องปรับตัวเองให้เข้ากับสภาวะของโลกที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลาไม่เว้นแม้แต่สิ่งมีชีวิตเล็กๆ ที่อยู่บนโลกก็จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนตัวเองให้เข้ากับสภาวะแวดล้อมของโลกที่เปลี่ยนไปเช่นกัน โดยจะเห็นได้จากการปรับเปลี่ยนพันธุกรรมของเชื้อไวรัส และโรคต่างๆ อยู่ตลอดเวลา ที่นับวันยิ่งเพิ่มความรุนแรงมากขึ้นเป็นเท่าทวี และนั่นถือเป็นภาระหนักของวงการแพทย์ที่จำเป็นต้องมีนักเทคนิคการแพทย์เพื่อวินิจฉัยโดยใช้เทคโนโลยีทางห้อง ปฏิบัติการ เพื่อนำผลการวิเคราะห์ไปใช้ประโยชน์ในการประเมินสุขภาพ การวินิจฉัยโรคการทำนายความรุนแรงของโรค
การติดตามผลการรักษาเพื่อป้องกันโรค ศึกษาวิเคราะห์สารพิษสารปนเปื้อนต่างๆ ในร่างกายมนุษย์และสิ่งแวดล้อมรวมทั้งการควบคุมคุณภาพในการพัฒนาและการวิเคราะห์ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นไป จะเห็นว่าลักษณะงานของนักเทคนิคการแพทย์นั้นต้องปฏิบัติหน้าที่อยู่ภายใต้ความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ แม้ว่าจะอยู่ในห้องปฏิบัติการและมีการป้องกันอย่างมิดชิดก็ตาม ซึ่งทั้งหมดนี้ อาจจะกล่าวได้ว่าพวกเขาเหล่านั้นเปรียบประหนึ่งวีรบุรุษที่มีเกียรติและมีบทบาทในการช่วยเหลือสังคมเป็นอย่างมาก กับการทำงานที่ต้องเผชิญอยู่ในสมรภูมิของโรคชีวภาพ เพื่อทำหน้าที่ป้องกัน และวิเคราะห์หาสาเหตุที่แท้จริงของโรคต่างๆ เพื่อนำไปสู่การหาหนทางการรักษาที่ถูกต้องกับโรคต่างๆ ได้อย่าง
จากการเล็งเห็นความสำคัญดังกล่าว บริษัท พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด จึงร่วมกับสมาคมเทคนิคการแพทย์แห่งประเทศไทย สานต่อโครงการเพื่อสังคมโดยการมอบทุนการศึกษาเป็นจำนวนเงินกว่าสองแสนบาท กับนักศึกษาที่กำลังศึกษาในสาขาวิชาชีพดังกล่าวจำนวน 9 คน จากทั่วประเทศเป็นประจำทุกปี ซึ่งปีนี้ได้จัดมอบทุนต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 15 แล้ว ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการสนับสนุนและเป็นกำลังใจให้กับเยาวชนที่เรียนดีแต่คลาดแคลนทุนทรัพย์ ให้ได้มีกำลังในการศึกษาต่อไปจนจบการศึกษาโดยไม่ต้องชำระคืน เพื่อที่จะได้นำความรู้วิชาชีพที่เล่าเรียนมาไปประกอบอาชีพที่เป็นประโยชน์แก่ผู้อื่นและสังคมต่อไป
นายเมธี จารุมณีโรจน์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการสื่อสารการตลาดและองค์กร บริษัท พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “โครงการทุน สมาคมเทคนิคการแพทย์แห่งประเทศไทย — เซฟการ์ด เป็นโครงการดีๆ โครงการหนึ่งที่ผลิตบุคคลากรด้านเทคนิคการแพทย์สู่สังคมไทย ถือเป็นการให้โอกาสทางการศึกาษาแก่ น้องๆเยาวชน ในมหาวิทยาลัยของทั้งภาครัฐและเอกชนทั่วประเทศ ที่มีความมุ่งมั่นและตั้งใจที่จะศึกษาทางด้านเทคนิคการแพทย์แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ให้ได้มีโอกาสศึกษาไปจนจบการศึกษา โดยไม่ต้องคืนทุนแต่อย่างไร เนื่องจากการศึกษาในด้านนี้จำเป็นอย่างยิ่งที่น้องๆจะต้องใช้ความรู้ความสามารถและความอดทนในการฝึกปฏิบัติอย่างมาก รวมถึงต้องใช้เงินทุนในการศึกษาสูง ซึ่งถือเป็นข้อจำกัดหนึ่งของผู้ที่ใฝ่ฝันอยากศึกษาด้านเทคนิคการแพทย์แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ เราจึงอยากเป็นส่วนหนึ่งที่จะสานฝันให้กับน้องๆ เยาวชนเหล่านั้นพร้อมกับยินดีที่จะสนับสนุนและสานต่อโครงการเพื่อสังคมเช่นนี้อย่างต่อเนื่องเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนไทยในโอกาสต่อๆ ไป”
และนี่คือความรู้สึกของนางสาวรื่นฤดี บุญพึ่ง จากมหาวิทยาลัยรังสิต หนึ่งในเก้านักเรียนทุน โครงการทุน สมาคมเทคนิคการแพทย์แห่งประเทศไทย — เซฟการ์ด ที่เผยความรู้สึกหลังได้รับเลือกเป็นหนึ่งในผู้ที่ได้รับทุนประจำปีการศึกษา 2553 นี้ กล่าวว่า “การได้รับทุนนี้เป็นการเปลี่ยนชีวิตจากหน้ามือเป็นหลังมือของหนูเลย เพราะที่บ้านหนูลำบากมาก มีเพียงแม่คนเดียวที่ดูแลรับผิดชอบครอบครัวทุกอย่าง ส่งเสียทั้งหนูและน้องชายเพื่อให้ได้เรียนสูงๆ แม้ว่าแม่หนูจะเป็นเพียงกระเป๋ารถเมล์ มีรายได้ไม่มากนัก อีกทั้งยังต้องขายของเพื่อหารายได้เสริมแต่หนูก็ภูมิใจที่ได้เกิดเป็นลูกแม่ และหนูก็อยากทำให้แม่ได้ภูมิใจว่าลูกของแม่คนนี้ ที่ได้รับทุนอันทรงเกียรตินี้ จะตั้งใจเรียน และจะนำสิ่งที่เรียนมานำไปใช้ให้เป็นประโยชน์และคืนสิ่งดีๆ กลับคืนสู่สังคม เพราะวิชาชีพนี้เป็นสิ่งที่หนูรัก และเมื่อเราได้ทำในสิ่งที่เรารักเราก็จะทำออกมาได้ดีที่สุด เงินทุนสองแสนที่หนูได้รับมานี้ จะเปลี่ยนอนาคตของหนูให้มีโอกาสเรียนในสาขาที่หนูใฝ่ฝันไว้จนจบการศึกษา และหนูสัญญาว่าจะประกอบวิชาชีพ ในสาขาเทคนิคการแพทย์นี้ให้ดีที่สุดค่ะ”
รองศาสตราจารย์ ดร.รัชนา ศานติยานนท์ นายกสมาคมเทคนิคการแพทย์แห่งประเทศไทย ในฐานะพันธมิตรผู้ร่วมจัดโครงการทุน “สมาคมเทคนิคการแพทย์แห่งประเทศไทย — เซฟการ์ด” กล่าวว่า “ปีนี้เป็นปีที่ 15 แล้วที่ทางสมาคมเทคนิคการแพทย์แห่งประเทศไทยได้ร่วมกับบริษัทพรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล ประเทศไทย เทรดดิ้ง จำกัด ให้ความช่วยเหลือแก่เด็กที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ทางการศึกษา ต้องขอขอบคุณ พี แอนด์ จี และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่าน ที่มีส่วนช่วยในการผลักดันให้เด็กไทยมีโอกาสทางการศึกษามากขึ้น วิชาการทางด้านเทคนิคการแพทย์นั้น เป็นวิชาชีพที่มีความสำคัญอย่างมาก และทุกวันนี้เรายังคงต้องการบุคลากรในสาขานี้เพิ่มขึ้น เพื่อที่จะมาช่วยเหลือวิเคราะห์ และพัฒนาวงการแพทย์ให้มีมาตรฐานคุณภาพยิ่งๆ ขึ้นไปอีกในอนาคต”
ทุนการศึกษาที่ผู้ได้รับทุนได้รับจากโครงการนี้ คือ ค่าหน่วยกิจ ค่าธรรมเนียมการศึกษา, ค่าที่พักอาศัย และ ค่าใช้จ่ายประจำเดือน ตลอดทั้งหลักสูตร 4 ปี รวมค่าใช้จ่ายจะอยู่ที่ประมาณ 200,000 บาท ต่อผู้ที่ได้รับทุน 1 คน ซึ่งตลอดระยะเวลา 15 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2539 - 2553 ได้มีการมอบทุน “สมาคมเทคนิคการแพทย์แห่งประเทศไทย — เซฟการ์ด” ให้แก่ นิสิตนักศึกษาไปแล้วทั้งสิ้นกว่า 127 ทุน รวมเป็นเงินกว่า 25,150,000 ล้านบาท ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นเพราะบริษัทได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการศึกษาที่จะสามารถนำมาซึ่งการพัฒนาของบุคลากร สังคมและประเทศชาติให้มีความเจริญก้าวหน้าต่อไปในอนาคต
น่ายินดีที่น้องๆ เหล่านี้ได้รับโอกาสทางการศึกษาจากผู้ที่เล็งเห็นถึงความสำคัญ ที่จะช่วยสานต่อเจตนารมณ์ของพวกเขาให้สมบูรณ์และเป็นจริงขึ้นมา เพื่อที่จะได้มีโอกาสนำทักษะความรู้ความสามารถ ไปใช้เพื่อช่วยเหลือสังคม ช่วยเหลือผู้ป่วย รวมถึงพัฒนาและสร้างคุณภาพชีวิตของคนไทยให้ดีขึ้น จากการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะของ”นักเทคนิคการแพทย์ ของวงการการแพทย์ไทย”