เอ็น.ซี.ซี. เอ็กซิบิชั่น ออกาไนเซอร์ หรือนีโอ ทุ่มงบ ดึงต่างชาติร่วมงาน VIV Asia 2011

นายฤกษมัย สุขุม ประธานบริษัท เอ็น.ซี.ซี. เอ็กซิบิชั่น ออกาไนเซอร์ จำกัด กล่าวว่า “ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยบริษัท เอ็น.ซี.ซี. เอ็กซิบิชั่น ออกาไนเซอร์ จำกัด ในฐานะผู้จัดงาน VIV Asia ร่วมกับบริษัท วีเอ็นยู เอ็กซิบิชั่น ยุโรป ประเทศเนเธอแลนด์ มุ่งหวังให้งาน VIV Asia เป็นงานแสดงสินค้าและสัมมนาวิชาการเกี่ยวกับเทคโนโลยีด้านปศุสัตว์ก้าวหน้านานาชาติเป็นงานที่ได้รับการยอมรับมากขึ้นในระดับนานาชาติ ซึ่งงาน VIV Asia จะจัดทุกๆ 2 ปี ณ กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย และถูกจัดขึ้นในหลายภูมิภาค คือ VIV Turkey, VIV China, VIV India, VIV Europe, VIV Russia ซึ่งในการจัดงาน VIV ในแต่ละภูมิภาคนั้น ก็เปรียบเสมือนเวทีให้ผู้แสดงงาน และผู้เข้าร่วมงานที่อยู่ในแวดวงปศุสัตว์ ได้มาปรึกษาหารือ ซื้อขายและแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีใหม่ๆ นอกจากนี้ ยังเป็นการกระตุ้นตลาดและเศรษฐกิจ ให้มีความตื่นตัวและเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง สำหรับการจัดงาน VIV Asia 2011 ในปีหน้านี้ จะเป็นการจัดงาน VIV Asia ครั้งที่ 10 หรือ ก้าวสู่ปีที่ 18 ของการจัดงาน และเพื่อแสดงให้เห็นว่างาน VIV Asia เป็นงานแสดงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีด้านปศุสัตว์ก้าวหน้าที่ทันสมัยและใหญ่ที่สุดในเอเชีย ทางผู้จัดงาน จึงได้จัดโซนพิเศษ อาทิ Lap@VIV Asia 2011, Feed Technology and Crop Technology (FCA) และการมี Country pavilion จากประเทศต่างๆ กว่า 12 ประเทศ นอกจากนี้ ยังมีการจัดงาน Aquatic Asia 2011 แยกออกจากงาน VIV Asia เป็นครั้งแรกโดยเป็นงานแสดงอุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงและการผลิตเชิงสัตว์น้ำ ซึ่งจะจัดอยู่ภายในวันเวลา และสถานที่เดียวกับ VIV Asia เพื่อความสะดวกของผู้เข้าชมงาน และจากความยิ่งใหญ่ที่กล่าวมานี้ ทำให้ VIV Asia 2011 ขยายพื้นที่การจัดงานเต็มทั้ง 6 ห้องของศูนย์การประชุมและจัดแสดงสินค้านานาชาติกรุงเทพฯ (ไบเทค) หรือประมาณ 15,500 ตารางเมตร เพื่อรองรับผู้ประกอบการทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งคาดว่าจะมีมากกว่า 650 บริษัท จาก 40 ประเทศ และผู้เข้าชมงานกว่า 93 ประเทศ จากทั่วภูมิภาคของโลก ซึ่งในขณะนี้ พื้นที่การแสดงงานถูกจับจองแล้วกว่า 90% อย่างไรก็ตาม จากปัญหาการก่อความไม่สงบในช่วง 2 — 3 เดือนที่ผ่านมา ทำให้ภาพลักษณ์ ของกรุงเทพมหานคร และประเทศไทย ไม่สู้ดีนัก ในสายตาชาวต่างชาติ ไม่เพียงจะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศเท่านั้น หากแต่อุตสาหกรรมการประชุมและการแสดงสินค้าก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้แสดงสินค้าและผู้ชมงาน VIV Asia ต่างพากันวิตกกังวลกับสถานการณ์และความปลอดภัย หากเดินทางมาเข้าร่วมงานที่ประเทศไทย จนถึงขั้นมีแนวคิดต้องการย้ายสถานที่จัดงาน VIV Asia 2011 ไปยังประเทศอื่น ซึ่งหากเกิดขึ้นจริง จะสร้างความเสียหายให้กับประเทศไทยเป็นอย่างมาก เพราะจากสถิติของสสปน. (TCEB) นั้น ในช่วงงาน VIV Asia ได้สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศกว่า 2,400 ล้านบาท และสร้างรายได้ให้อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการจัดประชุมและงานแสดงสินค้ากว่า 796 ล้านบาท เราจึงได้หากลยุทธ์เชิงรุก เพื่อสร้างความเชื่อมันให้กับผู้แสดงสินค้า ผู้ชมงาน รวมถึงนักลงทุนจากต่างประเทศ อาทิ ริเริ่มโครงการ VIV Asia Get Together Campaign เดินสายแถลงข่าวไปยังประเทศต่างๆ อาทิ มาเลเซีย อินโดนีเซีย เวียดนาม ไต้หวัน ฟิลิปปินส์ เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และอินเดีย เปิดตัวเพลง Get Together เป็นครั้งแรก เพื่อสื่อถึงบรรยากาศที่ดี และการต้อนรับของคนไทย ตลอดจนความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของงาน VIV Asia 2011 และ จัดงานเปิดตัวแคมเปญที่ทุกท่านมาเข้าร่วมในวันนี้ คือ VIV Asia Key Buyer Appreciation Program ที่ทางผู้จัดงาน ได้เตรียมห้องพักกว่า 5,000 ห้องใน 41 โรงแรม ให้ผู้ชมงาน VIV Asia เข้าพักในคืนที่ 9 และ 10 มีนาคม 2554 รวมจำนวน 10,000 คืน กำหนดท่านละ 2 คืน โดยไม่คิดมูลค่า เริ่มการจองผ่านระบบออนไลน์ในวันที่ 1 ตุลาคม 2553 เป็นต้นไป”