อันดับเครดิตของหุ้นกู้สะท้อนถึงการได้รับการค้ำประกันในลักษณะเต็มจำนวน ไม่มีเงื่อนไข และไม่สามารถยกเลิกได้จากเดมเลอร์ โดยอันดับเครดิตสากลระยะยาวของเดมเลอร์อยู่ในระดับต่ำกว่าอันดับเครดิตสากลระยะยาวสกุลเงินในประเทศ (International Long-term Local Currency IDR) ของประเทศไทยซึ่งอยู่ที่ระดับ ‘A-’ อยู่หนึ่งระดับ ฟิทช์กล่าวว่าการเปลี่ยนแปลงอันดับเครดิตของ เดมเลอร์ และของประเทศไทยที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตอาจส่งผลกระทบต่ออันดับเครดิตภายในประเทศของหุ้นกู้ค้ำประกันดังกล่าวได้ โดยที่การปรับเปลี่ยนอันดับเครดิตสากลหนึ่งอันดับอาจนำไปสู่การปรับเปลี่ยนอันดับเครดิตภายในประเทศมากกว่าหนึ่งอันดับได้
อันดับเครดิตของเดมเลอร์สะท้อนถึงความแข็งแกร่งทางธุรกิจของบริษัท ซึ่งได้แก่สถานะความเป็นผู้นำในตลาดโลกทั้งในตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคลระดับบน รถโดยสารขนาดใหญ่ รถตู้และรถบรรทุก การกระจายสินค้าในหลากหลายภูมิภาคที่เพิ่มมากขึ้น และการมีสภาพคล่องทางการเงินที่สูง อย่างไรก็ตามอันดับเครดิตของเดมเลอร์ถูกลดทอนโดยสภาพตลาดของธุรกิจที่บริษัทดำเนินงานอยู่ที่มีความผันผวนสูง นอกจากนี้ภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอยและวัฎจักรขาลงของอุตสาหกรรมที่เกิดขึ้นพร้อมๆ กันทั่วทุกภูมิภาคอย่างไม่ปกติในช่วงที่ผ่านมาได้ส่งผลกระทบต่อทุกหน่วยธุรกิจของเดมเลอร์ โดยแผนกรถยนต์นั่งเมอร์เซเดส-เบนซ์ขาดทุนจากการดำเนินงานคิดเป็นร้อยละ 1.2 ของยอดขายในปี 2552 (เมื่อเทียบกับอัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานร้อยละ 4.4 ในปี 2551และ ร้อยละ 9.1 ในปี 2550) ในขณะที่แผนกรถบรรทุกเดมเลอร์ขาดทุนจากการดำเนินงานร้อยละ 5.5 ของยอดขายในปี 2552 (เมื่อเทียบกับอัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานร้อยละ 5.6 ในปี 2551และร้อยละ 7.5 ในปี 2550) อย่างไรก็ตาม ความสามารถในการทำกำไรและอัตราส่วนต่างๆ ที่ใช้ในการพิจารณาอันดับเครดิตได้ปรับตัวดีขึ้นอย่างมากในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2553 ฟิทช์คาดว่าแนวโน้มดังกล่าวจะยังคงต่อเนื่องในช่วง 12 ถึง 18 เดือนข้างหน้า ซึ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนแนวโน้มอันดับเครดิตเป็นบวก
กระแสเงินสดจากการดำเนินงานต่อหนี้สินที่ปรับปรุงแล้วได้ปรับตัวสูงขึ้นมาอยู่ในระดับที่สอดคล้องกับอันดับเครดิตที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน โดยเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 68 ในปี 2552 จากอัตราส่วนที่ติดลบร้อยละ 20 ในปี 2551 ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2553 อัตราส่วนความสามารถในการทำกำไรปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 7.1 ตามการฟื้นตัวของยอดขายจากทุกหน่วยธุรกิจของเดมเลอร์ ในขณะที่อัตราส่วนหนี้สินที่ปรับปรุงแล้วต่อกระแสเงินสดจากการดำเนินงานลดลงมาอยู่ที่ระดับ 0.7 เท่า ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2553
ในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า การเติบโตของตลาดรถยนต์ระดับบนมีแนวโน้มที่ดีกว่ารถยนต์ระดับล่างที่เน้นปริมาณการขาย เนื่องจากผู้ผลิตรถยนต์ระดับบนได้รับประโยชน์จากโปรแกรมการนำรถเก่าเพื่อเป็นส่วนลดแลกซื้อรถใหม่ซึ่งเป็นโปรแกรมที่รัฐบาลต่างๆใช้ในการกระตุ้นภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ในปี 2552 น้อยกว่าผู้ผลิตรถยนต์ระดับล่าง จึงน่าจะทำให้ตลาดรถยนต์ระดับบนน่าจะมีอัตราการฟื้นตัวที่เร็วกว่า นอกจากนี้เดมเลอร์จะมีการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ๆในช่วงปี 2553 ถึง 2554 ซึ่งน่าจะทำให้อัตราการการเติบโตของยอดขายและความสามารถในการทำกำไรของแผนกรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ดีขึ้น ซึ่งจะช่วยชดเชยกับการที่แผนกมีขนาดการผลิตที่ค่อนข้างเล็ก
ในขณะเดียวกัน ยอดขายของแผนกรถบรรทุกเดมเลอร์น่าจะฟื้นตัวด้วยแรงสนับสนุนจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและค่าขนส่งทางบก นอกจากนี้การปรับโครงสร้างของแผนกรถบรรทุกที่ผ่านมาเมื่อเร็วๆนี้ รวมถึงโครงสร้างต้นทุนที่ดีขึ้นและการเติบโตของยอดขายที่คาดการณ์ไว้ น่าจะทำให้แผนกมีโครงสร้างที่ส่งเสริมให้มีความสามารถในการทำกำไรที่ดีขึ้น
MBTh ถือหุ้นร้อยละ 99.99 โดยเดมเลอร์ MBTh เป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายในลักษณะขายส่งรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2543 รถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์มีชื่อเสียงและเป็นที่นิยมในตลาดรถยนต์ระดับบนในประเทศไทยมานานหลายทศวรรษ เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายการบริการหลังการขายที่ต่ำและมีราคาที่สูงในตลาดรถมือสอง นอกจากนี้ MBTh ยังให้บริการเช่าซื้อและลีสซิ่งสำหรับรถยนต์ผ่านบริษัทย่อยที่บริษัทถือหุ้นทั้งหมดซึ่งได้แก่ บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด
ติดต่อ:
Primary Analyst
เอกพันธ์ พรหมประพันธ์
Analyst
+662 655 4753
บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด
ชั้น 13, อาคารเวฟเพลส, ถนนวิทยุ, แขวงลุมพินี, เขตปทุมวัน
กรุงเทพฯ 10330
Secondary Analyst
เลิศชัย กอเจริญรัตนกุล
Senior Director
+662 655 4760
Committee Chairperson
Jeong Min Pak
Senior Director
+822 3278 8360
Media Relations: Peter Fitzpatrick, London, โทร: + 44 (0)20 7417 4364, อีเมล์: [email protected].
หมายเหตุ: การจัดอันดับเครดิตภายในประเทศ (National Ratings) เป็นการวัดระดับความน่าเชื่อถือในเชิงเปรียบเทียบกันระหว่างองค์กรในประเทศนั้นๆ โดยจะใช้ในประเทศที่อันดับเครดิตแบบสากลของรัฐบาลในประเทศนั้นอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำและเมื่อมีความต้องการใช้อันดับเครดิตภายในประเทศ อันดับเครดิตขององค์กรที่ดีที่สุดของประเทศได้จัดไว้ที่ระดับ “AAA” และการจัดอันดับเครดิตอื่นในประเทศ จะเป็นการเปรียบเทียบความเสี่ยงกับองค์กรที่ดีที่สุดนี้เท่านั้น อันดับเครดิตภายในประเทศได้ถูกจัดทำขึ้นเพื่อใช้ในตลาดในประเทศเป็นหลักและจะมีสัญลักษณ์ที่กำหนดไว้ต่อท้ายจากอันดับเครดิตสำหรับประเทศนั้นๆ เช่น “AAA(tha)” ในกรณีของประเทศไทย ดังนั้นอันดับเครดิตภายในประเทศจึงไม่สามารถใช้เปรียบเทียบระหว่างประเทศได้
ข้อมูลเพิ่มเติมหาได้ที่ www.fitchratings.com
ในการจัดอันดับเครดิตฟิทช์ได้ใช้หลักเกณฑ์ตาม Corporate Rating Methodology ลงวันที่ 16 สิงหาคม 2553 และ National Ratings- Methodology Update ลงวันที่ 18 ธันวาคม 2549 หลักเกณฑ์การจัดอันดับเครดิตดังกล่าวหาได้ที่ www.fitchratings.com
การใช้อันดับเครดิตที่จัดทำโดยฟิทช์เรทติ้งส์มีข้อจำกัดและขอบเขตการใช้ ซึ่งข้อจำกัดและขอบเขตของการใช้อันดับเครดิตดังกล่าวสามารถหาได้จาก HTTP://FITCHRATINGS.COM/UNDERSTANDINGCREDITRATINGS นอกจากนี้คำจำกัดความของอันดับเครดิตและการใช้อันดับเครดิตของ ฟิทช์ เรทติ้งส์ สามารถหาได้จาก www.fitchratings.com อันดับเครดิตที่ประกาศ หลักเกณฑ์และวิธีการจัดอันดับเครดิต ได้แสดงไว้ในเว็บไซต์ดังกล่าวตลอดเวลา หลักจรรยาบรรณ การรักษาข้อมูลภายใน ความขัดแย้งทางผลประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้น แนวทางการเปิดเผยข้อมูลระหว่างบริษัทในเครือ กฎข้อบังคับรวมทั้งนโยบายและกระบวนการที่เกี่ยวข้องอื่นๆของฟิทช์ ได้แสดงไว้ในส่วน ‘หลักจรรยาบรรณ’ ในเว็บไซต์ดังกล่าวเช่นกัน