การลงนามบันทึกความตกลงครั้งนี้เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งและความร่วมมือในการกำกับดูแลภาคการเงินของประเทศไทยโดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคตลาดทุนให้มีเสถียรภาพ โดยมีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อไม่ให้ผู้ประกอบการตัวกลางในตลาดทุนตกเป็นเครื่องมือในการกระทำความผิด ภายใต้บันทึก
ความตกลงดังกล่าว สำนักงาน ก.ล.ต. จะดำเนินการกำกับดูแลและตรวจสอบการปฏิบัติตามนโยบายเชิงป้องกันด้านการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินของธุรกิจภายใต้การกำกับดูแลในขอบเขตอำนาจหน้าที่ของสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อให้มีระบบและมีการปฏิบัติตามมาตรการในเรื่องดังกล่าวอย่างเพียงพอ
นายธีระชัย กล่าวว่า “สำนักงาน ก.ล.ต. ได้ให้ความร่วมมือกับสำนักงาน ปปง. มาโดยตลอดในการกำกับดูแลและผลักดันให้ผู้ประกอบการตัวกลางในตลาดทุนมีระบบในการป้องกันการใช้บริการธุรกิจหลักทรัพย์เป็นช่องทางในการฟอกเงินและการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย การลงนามบันทึกความตกลงนี้ นอกจากจะเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาระบบการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและการต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายของประเทศไทยให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากลแล้ว ยังแสดงให้เห็นถึงความร่วมมือของหน่วยงานภาครัฐในการดำเนินการดังกล่าวอย่างจริงจัง ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยมีระบบการกำกับดูแลที่โปร่งใสและมีประสิทธิภาพอย่างแท้จริง”
พันตำรวจเอก สีหนาท กล่าวว่า “ ขณะนี้ประเทศไทยกำลังดำเนินการในเชิงยุทธศาสตร์ด้านการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและการต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากลของ Financial Action Task Force หรือ FATF ซึ่งเป็นองค์กรที่ได้รับการยอมรับจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก ซึ่งหากประเทศใดมีการปฏิบัติที่ไม่สอดคล้องกับมาตรฐานสากลดังกล่าวอย่างเพียงพออาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือของประเทศ และกระทบต่อการประกอบธุรกิจของสถาบันการเงินในประเทศนั้นๆ เนื่องจากประเทศคู่ค้าบางประเทศที่มีข้อกำหนดที่เข้มงวดในการปฏิบัติตามมาตรฐานสากลจะปฏิเสธการทำธุรกิจกับประเทศคู่ค้าที่ไม่มีการปฏิบัติตามมาตรฐานสากล ซึ่งจะเป็นอุปสรรคต่อการประกอบธุรกิจของภาคเอกชน ”
อนึ่ง บริษัทหลักทรัพย์ตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เป็นสถาบันการเงินตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 ซึ่งมีหน้าที่ต้องรายงานธุรกรรมเงินสด ธุรกรรมที่เกี่ยวกับทรัพย์สินและธุรกรรมที่มีเหตุอันควรสงสัย และดำเนินการตามนโยบายเชิงป้องกันด้านการป้องกันปราบปรามการฟอกเงิน ซึ่งกำหนดให้สถาบันการเงินต้องกำหนดนโยบายการรับลูกค้า มีการบริหารความเสี่ยงที่อาจเกี่ยวกับการฟอกเงินของลูกค้า ต้องจัดให้ลูกค้าแสดงตนก่อนการทำธุรกรรม ดำเนินการตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้า และเก็บรักษารายละเอียดเกี่ยวกับการแสดงตน
และการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้า