นายวินิจ แสงอรุณ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานปฏิบัติการ บมจ.ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า จากการที่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว มีการขยายตัวทางเศรษฐกิจการค้าและการลงทุนที่เด่นชัด โดยมีโครงการก่อสร้างสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ ที่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐและเอกชนจากประเทศไทยนั้น ในส่วนของธนาคารกรุงไทย ได้ให้การสนับสนุนสินเชื่อในโครงการสร้างเขื่อนน้ำชนะ สถานีไฟฟ้าย่อยหลวงพระบาง รวมทั้งก่อสร้างสายส่งไฟฟ้าแรงสูงในจังหวัดเซคำหมาน เซกอง และสาละวัน ในวงเงินรวมกว่า 2,400 ล้านบาท
นอกจากนี้ เพื่อเป็นการสนับสนุนการค้าและการลงทุนระหว่าง 2 ประเทศ และเพิ่มความคล่องตัวในการทำธุรกรรมทางการเงินให้กับนักธุรกิจไทย-ลาว ธนาคารจึงได้ขยายการให้บริการรับแลกเปลี่ยนเงินกีบไปยังทุกสาขาทั่วประเทศกว่า 920 แห่ง รวมทั้งจุดบริการแลกเปลี่ยน (Exchange Booth) 83 จุด และรถบริการเคลื่อนที่ KTB on the Move อีก 88 คัน นอกเหนือจากสาขาที่เปิดให้บริการในเขตชายแดน โดยเป็นธนาคารแห่งแรกที่ให้บริการครอบคลุมจุดบริการทั่วประเทศ
นายวินิจ แสงอรุณ กล่าวต่อไปว่า ที่ผ่านมาการรับแลกเปลี่ยนเงินกีบบริเวณชายแดนไทย-ลาวคึกคักมาก ตามปริมาณการค้าขายสินค้าอุปโภคบริโภค และจากกลยุทธ์ของธนาคารในการมีส่วนร่วมพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศเพื่อนบ้าน ธนาคารยังเตรียมเปิดให้บริการรับแลกเปลี่ยนเงินเรียลเขมร โดยก่อนหน้านี้ได้ให้บริการรับแลกเปลี่ยนเงินดองของประเทศเวียดนาม ปัจจุบันธนาคารให้บริการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศมากที่สุดในระบบธนาคารพาณิชย์ โดยมีถึง 33 สกุล และในช่วง 8 เดือน ที่ผ่านมามีปริมาณธุรกรรมซื้อขายธนบัตรต่างประเทศกว่า 15,000 ล้านบาท จากเป้าที่ตั้งไว้ทั้งปีจำนวน 20,000 ล้านบาท
ฝ่ายสื่อสารองค์กรและภาพลักษณ์
โทร.0-2208-4174-7