สำนักผู้แทนการค้าไทย สภาหอการค้าไทย ศูนย์ SEA-LAC Trade Center มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และ ASEAN Foundation ร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ และสถานเอกอัครราชทูตของกลุ่มประเทศลาติน-อเมริกา เป็นเจ้าภาพจัดประชุมสัมมนา หัวข้อ “Latin Business Forum 2010” เป็นครั้งแรกของประเทศไทย โดยการประชุมสัมมนาครั้งนี้จะเป็นการรวมตัวของผู้แทนระดับสูงและผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุนในกลุ่มอาเซียนและลาติน-อเมริกา มาให้ความรู้และข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับความสัมพันธ์ด้านการค้าและการลงทุนระหว่างไทยและกลุ่มประเทศลาติน-อเมริกา โดยหวังว่า การจัดการประชุมสัมมนาครั้งนี้ จะเป็น Annual Platform ต่อไปในอนาคต เพื่อช่วยพัฒนาศักยภาพนักลงทุนไทยในการบุกตลาดลาติน-อเมริกา และสร้างโอกาสในการพลิกฟื้นเศรษฐกิจโลก
ดร.วัชระ พรรณเชษฐ์ ผู้แทนการค้าไทย กล่าวว่า “สำหรับความเป็นมาของการจัดงานประชุมสัมมนา “Latin Business Forum 2010” ในครั้งนี้ เกิดขึ้นจากความสนใจที่ตรงกันของ สำนักผู้แทนการค้าไทย สภาหอการค้าไทย และศูนย์ SEA-LAC Trade Center มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ที่ต้องการส่งเสริมการค้าการลงทุนกับประเทศในกลุ่มลาติน - อเมริกา ทำให้เกิดความคิดในการสร้าง Annual Platform เพื่อสร้างจุดเชื่อมโยงทางการค้าการลงทุนขึ้น จึงเป็นที่มาของการริเริ่มงาน Latin Business Forum ขึ้นในประเทศไทยเป็นครั้งแรก โดยมีวัตถุประสงค์ คือ 1) เพื่อพัฒนาเครือข่ายทางธุรกิจระหว่างสองภูมิภาคในภาครัฐ เอกชน และการศึกษา พร้อมทั้งสร้างความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจแบบยั่งยืน 2) เพื่อร่วมกันสร้างสรรค์แนวคิดใหม่ทางการค้าการลงทุน สำหรับการวางแผนงานและพัฒนาเศรษฐกิจร่วมกันต่อไปในอนาคต 3) เพื่อกระตุ้นความสนใจ ความรู้ ความเข้าใจทางทฤษฎีการค้าระหว่างประเทศ ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการเปิดเสรีทางการค้า และความเป็นไปได้ในการทำการค้าการลงทุนระหว่างกัน ซึ่งกลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ กลุ่มภาครัฐ เอกชน ภาคการศึกษา และสื่อมวลชน 4) เพื่อร่วมกันหาแนวทางในเปิดตลาด และกลยุทธ์ทางการตลาดที่เหมาะสมในการทำการค้าการลงทุนระหว่างกลุ่มประเทศอาเซียนและกลุ่มประเทศลาติน-อเมริกาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และ 5) เพื่อเตรียมความพร้อมกับการเปิดเสรีทางการค้าโลกในระดับภูมิภาคและระดับประเทศระหว่างกลุ่มประเทศอาเซียนและกลุ่มประเทศลาติน-อเมริกาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต”
“ในส่วนรายละเอียดและสาระสำคัญของการจัดงานประชุมสัมมนา “Latin Business Forum 2010” ในครั้งนี้ เราใช้หลักการคิดคล้ายๆ กับธนาคาร Inter-American Development Bank (IDB) และ ASEAN Foundation ซึ่งมีการส่งเสริมการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างภูมิภาคอาเซียนและภูมิภาคลาติน - อเมริกาอยู่แล้ว เราจึงได้หารือกับทั้งสองหน่วยงาน เพื่อขอความร่วมมือในการจัดประชุมสัมมนานี้ขึ้น เพื่อเพิ่มแรงขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจจากอาเซียนไปสู่ตลาดลาติน - อเมริกา เช่นเดียวกันกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจจากกลุ่มลาติน - อเมริกามาสู่อาเซียน ทำให้เกิดการสร้างจุดเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจเป็นผลสำเร็จ ทั้งนี้ เรายังได้เชิญสถานเอกอัครราชทูตของกลุ่มประเทศลาติน — อเมริกา ทั้ง 7 ประเทศในประเทศไทย ได้แก่ อาร์เจนตินา บราซิล ชิลี คิวบา เม็กซิโก ปานามา และเปรู พร้อมกับ หน่วยงานภาครัฐที่ให้การสนับสนุน ได้แก่ กระทรวงการต่างประเทศ กรมส่งเสริมการส่งออก กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย งานประชุมสัมมนาครั้งนี้จึงถือเป็นงานประชุมครั้งแรกที่เป็นการรวมตัวผู้แทนระดับสูงและผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุน และผู้บริหารระดับสูงจากภาครัฐ เอกชน และการศึกษา จากประเทศในกลุ่มลาติน - อเมริกา และ ประเทศในอาเซียน ซึ่งเราได้ให้ความสำคัญในเรื่องของพัฒนาเศรษฐกิจแบบใหม่ร่วมกันในรูปแบบการสร้างความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคการศึกษา โดยจะเน้นถึงวิธีรับมือกับวิกฤตเศรษฐกิจโลกที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน พร้อมกับการให้ความรู้เกี่ยวกับกลยุทธ์ที่เหมาะสมของการเปิดตลาดในลาติน — อเมริกา และกลยุทธ์ ในการแข่งขันเพื่อเพิ่มการขับเคลื่อนทางการค้า ซึ่งวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิจะประกอบด้วย ผู้นำเศรษฐกิจจากประเทศกลุ่มลาติน - อเมริกา และประเทศกลุ่มอาเซียน โดยจะการประชุมสัมมนาเป็น 4 ส่วนหลัก ๆ ได้แก่ ส่วนที่ 1) ผู้นำทางด้านเศรษฐกิจการค้าการลงทุนจากทั้งฝั่งลาติน-อเมริกา และอาเซียน จะมาเปิดเผยถึงนโยบายทางเศรษฐกิจและความสัมพันธ์ระหว่างภูมิภาค และแนวโน้มทางเศรษฐกิจการค้าการลงทุน ส่วนที่ 2) ผู้เชี่ยวชาญทางนโยบายการค้าเสรีจากทั้งอาเซียนและลาติน-อเมริกา จะมาให้มุมมองถึงการปรับใช้FTA กับการพัฒนากลยุทธ์การค้า พร้อมกับโอกาสและอุปสรรคที่สามารถเกิดขึ้นในการทำการค้าระหว่างสองภูมิภาค ส่วนที่ 3) การให้ความรู้ศักยภาพทางการลงทุนระหว่างสองภูมิภาค ที่นักลงทุนไม่ควรมองข้าม และส่วนที่ 4) นักธุรกิจชั้นนำผู้ผ่านประสบการณ์ทางการค้าระหว่างสองภูมิภาคจะมาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ของการพัฒนาธุรกิจ นอกจากนี้ เรายังได้รับเกียรติจาก ฯพณฯ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี มาเป็นประธานในพิธีเปิดงาน ทั้งนี้ เราหวังว่า การประชุมสัมมนาครั้งนี้จะไม่เพียงแต่ผู้เข้าร่วมจะได้รับความรู้จากการสัมมนาเท่านั้น แต่เราหวังว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้าง business network ระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และการศึกษา ของสองภูมิภาคอีกด้วย โดยงานประชุมสัมมนาดังกล่าวจะจัดขึ้นในวันที่ 18 พฤศจิกายน 2553 ระหว่างเวลา 09.00 น. - 17.00 น. ณ โรงแรมเชอราตัน แกรนด์ สุขุมวิท และกลุ่มเป้าหมายของผู้ร่วมงานฯ มี 5 กลุ่ม คือ ตัวแทนจากภาครัฐ ตัวแทนจากภาคเอกชน ตัวแทนจากภาคการศึกษา ตัวแทนจากองค์กรระหว่างประเทศ และสื่อมวลชน ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมและดาวน์โหลดใบสมัครได้ที่ www.utcc.ac.th/latinforum”
“สำหรับประโยชน์ที่จะได้รับจากการจัดงานในครั้งนี้ คือ 1) การพัฒนาเศรษฐกิจของสองภูมิภาคจะมีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น โดยกลุ่มเป้าหมายจะร่วมกันหาแนวทางการพัฒนาการค้าการลงทุนระหว่างภูมิภาค สร้างกลยุทธ์ที่เหมาะสม และสร้างเครือข่ายการค้าการลงทุนระหว่างกัน 2) กิจกรรมต่างๆ จะช่วยสร้างการมีส่วมร่วมในกลุ่ม และกระตุ้นกลุ่มเป้าหมายให้สนใจและเห็นถึงโอกาสการค้าการลงทุน โดยอาศัยความรู้และความเข้าใจเพื่อสามารถนำไปปรับเป็นกลยุทธ์ในการพัฒนาการค้าการลงทุนระหว่างประเทศต่อไป 3) เป็นการริเริ่มการสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจของสองภูมิภาค รวมทั้งความสัมพันธ์ด้านสังคม วัฒนธรรม และการศึกษา เพื่อนำไปสู่การวางแผนการค้าในอนาคต และเพื่อเตรียมพร้อมต่อสถานการณ์เปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลก 4) เป็นการสร้างความร่วมมือระหว่างองค์กรในกลุ่มเป้าหมาย เพื่อนำไปสู่การพัฒนาการค้าการลงทุนแนวใหม่ และการหากลยุทธ์ร่วมกันในการวางรากฐานเศรษฐกิจและสังคม และ 5) เป็นการเผยแพร่ความรู้ และสร้างความสนใจต่อภาครัฐ เอกชน การศึกษา และประชาชนทั่วไป เกี่ยวกับแนวทางเศรษฐกิจของตลาดเกิดใหม่ภายในกลุ่มประเทศอาเซียน และกลุ่มประเทศลาติน - อเมริกา โดยผ่านสื่อต่างๆ เพื่อสร้างความพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลก”
“เราคาดหวังว่า งานประชุมสัมมนาครั้งนี้ จะเป็น Annual platform ระหว่างกลุ่มประเทศลาติน - อเมริกา และกลุ่มประเทศอาเซียน ซึ่งจะทำให้เกิดการพัฒนากิจกรรมด้านการค้าและการลงทุนต่อไปในทุกๆ ปี และคาดหวังว่า จะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยพลิกฟื้นเศรษฐกิจของโลกและประเทศไทย รวมทั้งพัฒนาศักยภาพนักลงทุนไทยในการบุกตลาดลาติน — อเมริกา เพื่อให้เกิดการพัฒนาทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืนของประเทศต่อไป” ดร.วัชระ กล่าวทิ้งท้าย
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท เอ็ม โอ ชิค จำกัด โทร. 0-2512-5848 ต่อ 24, 31
ชมนาด ตันติเสรี / บุญทะนิกา หงษ์สวัสดิ์