นายอิสสระ สมชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า ในอนาคตอันใกล้นี้ คนส่วนใหญ่จะอาศัยอยู่ในเมืองมากขึ้น จึงต้องมีวางแผนและเตรียมการเพื่อรับมือกับปัญหา อันเนื่องมาจากการเติบโตของเมือง เช่น ปัญหาการขาดแคลนสาธารณูปโภค สาธารณูปการ ปัญหาความแออัด ปัญหาสิ่งแวดล้อม ปัญหาสังคมและอาชญากรรม ปัญหาการจราจร สำหรับปัญหาด้านที่อยู่อาศัย รัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับการจัดการเรื่องที่ดิน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการทำมาหากินและการอยู่อาศัยของคนจนทั้งในเมืองและชนบท โดยในส่วนของภาคเมือง รัฐบาลได้จัดที่ดินและอนุมัติงบประมาณการพัฒนาที่อยู่อาศัย จำนวน ๓ พันล้านบาท เพื่อเป็นกองทุนสนับสนุนสินเชื่อโครงการบ้านมั่นคง และปรับปรุงกฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งจัดสรรงบประมาณด้านการพัฒนาระบบสาธารณูปโภค สำหรับในภาคชนบท มีโครงการจัดที่ดินที่ทำกินให้แก่คนจนในรูปของโฉนดชุมชนโดยชุมชนท้องถิ่น เพื่อให้ชุมชนสามารถร่วมกันจัดการที่ดินเพื่อการอยู่อาศัยและประกอบอาชีพ หรือใช้ประโยชน์อื่นๆ ตามบริบทของแต่ละชุมชนนั้นๆ
นายอิสสระ กล่าวต่อว่า ในส่วนของชุมชนเมืองศิลา เป็นชุมชนที่บุกรุกปลูกสร้างบ้านอยู่ในที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย สภาพแวดล้อมเป็นแหล่งเสื่อมโทรมทั้งด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม ชาวบ้านส่วนใหญ่ประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไป กรรมกรก่อสร้าง และเก็บของเก่าขาย ในการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยให้กับชุมชนเมืองศิลาที่ผ่านมา เป็นการดำเนินการในรูปแบบของการปรับปรุงในที่ดินเดิม ซึ่งเป็นที่ดินสาธารณะและการรถไฟ โดยได้ดำเนินโครงการบ้านมั่นคงเมืองศิลา มาตั้งแต่ปี ๒๕๔๘ จำนวน ๘ โครงการ มีผู้เดือดร้อนทั้งหมด ๕๙๑ ครัวเรือน และได้รับการอนุมัติงบประมาณในการพัฒนาปรับปรุงระบบสาธารณูปโภคและงบอุดหนุนพัฒนาที่อยู่อาศัยจากสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) จำนวน ๒๗,๗๒๐,๐๐๐ บาท เพื่อใช้ในการปรับปรุงระบบสาธารณูปโภคและพัฒนาที่อยู่อาศัยให้ดีขึ้น
“สิ่งที่ชาวชุมชนจะต้องทำต่อเนื่องจากนโยบายรัฐบาล คือ การพัฒนาทั้งเมืองและชนบทให้มีประสิทธิภาพ ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือของทุกฝ่ายและความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในการร่วมกันคิด ร่วมกันบริหารจัดการ โดยท้องถิ่นเช่น เทศบาล อบต.จะเป็นกำลังหลักสำคัญในการสนับสนุนให้ชุมชนสามารถยืนได้ด้วยลำแข้งของตนเอง”นายอิสสระ กล่าว