จากการสืบสวนและเฝ้าติดตามกระบวนการลักลอบค้าสัตว์ป่าที่ผิดกฎหมายของเจ้าหน้าที่ (บก.ปทส.) พบว่ายังมีการลักลอบนำสัตว์ป่าคุ้มครองจำนวนมากมาค้าอย่างผิดกฎหมายในบริเวณตลาดนัดจตุจักร จึงได้นำกำลังเจ้าหน้าที่จำนวน 30 นายเข้าตรวจสอบพื้นที่จนสามารถจับกุมผู้กระผิดข้อหาฝ่าฝืนพ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 ฐานค้าและมีสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครอง ซึ่งผู้ค้าสัตว์ป่ารายนี้อาจต้องรับโทษจำคุกนานถึง 4 ปี หรือถูกปรับจำนวนสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นอกจากนกตามบัญชีสัตว์ป่าคุ้มครองภายใต้กฎหมายไทยที่ยึดได้ครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ยังยึดเต่าดาวและงูไว้เพื่อตรวจสอบใบอนุญาตต่อไป แม้สัตว์ป่าเหล่านี้จะสามารถตีมูลค่าในตลาดมืดเป็นจำนวนเงินได้ แต่หากไม่สามารถตีเป็นมูลค่าความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติของประเทศไทยได้
“การปฏิบัติการนำกำลังเข้าจับกุมครั้งนี้เป็นการเผชิญหน้ากับผู้กระทำผิด เพื่อให้ผู้ค้าตระหนักถึงความเอาจริงเอาจังของผู้บังคับใช้กฎหมาย อย่างไรก็ตาม บทลงโทษของการกระทำผิดประเภทนี้ยังไม่รุนแรงเพียงพอ” พ.ต.อ. เกียรติพงศ์ ขาวสำอางค์ รองผบก.ปทส.ยังกล่าวพร้อมยังเสริมอีกว่า เนื่องจากยังมีความต้องการซื้อของตลาดอยู่จึงทำให้การค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมายไม่หมดไป ซึ่งตรงนี้เป็นหน้าที่ของทุกคนที่จะร่วมกันสร้างจิตสำนึกและหันมาใส่ใจกับปัญหาเรื่องนี้
“พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 ของไทย ควรต้องมีการแก้ไขปรับปรุงให้มีบทลงโทษแก่ผู้กระทำผิดที่รุนแรงขึ้น เพื่อให้การทำงานของตำรวจไม่สูญเปล่า และเพื่อให้ผู้ค้าฯทั้งหลายไม่สามารถกลับมากระทำผิดได้อีก” นายสตีเว่น กาลสเตอร์ ผู้อำนวยการมูลนิธิฟรีแลนด์กล่าว
หนึ่งในจำนวนนกที่ถูกยึดได้คราวนี้คือ นกกรงหัวจุก (Pycnonotus Jocosus) มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า นกปรอดหัวโขนหรือนกพิชหลิว มีถิ่นอาศัยอยู่ในแถบประเทศที่มีอากาศร้อนชื้น ในทวีปเอเซียพบได้ในประเทศจีน มาเลเซีย อินโดนีเซีย อินเดีย เวียดนาม กัมพูชา ลาว และประเทศไทย นกกรงหัวจุกเป็นที่นิยมของคนภาคใต้มายาวนาน โดยได้รับอิทธิพลมาจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างอินโดนีเซีย สิงคโปร์ มาเลเซีย โดยเฉพาะการแข่งขันประชันเสียง ซึ่งนกแต่ละตัวจะมีความสามารถและเสียงร้องแตกต่างกันไป จากนั้นการแข่งขันประชันเสียงของนกกรงหัวจุกก็เริ่มมีผู้นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ จึงได้จัดให้มีการแข่งขันขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อปีพ.ศ.2519 จนทุกวันนี้มีชมรมต่างๆ เกิดขึ้นอย่างมากมาย
สอบถามข้อมูลหรือต้องการรูปภาพเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ มุกด์ มูลนิธิฟรีแลนด์ โทร 02 204 2719 - 21 หรืออีเมล์ [email protected]