ตำรวจบุกจตุจักร ปราบปรามการค้าสัตว์ป่าผิดกฎมายอย่างต่อเนื่อง ร้องปรับกฎหมาย-เพิ่มบทลงโทษ เอื้องานปราบอาชญากรปล้นทรัพยากรไทย

อังคาร ๒๘ กันยายน ๒๐๑๐ ๑๑:๔๐
เมื่อวันเสาร์ที่ 25 กันยายนผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) จับกุมผู้ลักลอบค้านกเถื่อนที่ตลาดนัดสวนจตุจักร พร้อมของกลางคือนกหลากหลายชนิดตามบัญชีสัตว์ป่าคุ้มครองภายใต้กฎหมายไทยจำนวน 179 ตัว

จากการสืบสวนและเฝ้าติดตามกระบวนการลักลอบค้าสัตว์ป่าที่ผิดกฎหมายของเจ้าหน้าที่ (บก.ปทส.) พบว่ายังมีการลักลอบนำสัตว์ป่าคุ้มครองจำนวนมากมาค้าอย่างผิดกฎหมายในบริเวณตลาดนัดจตุจักร จึงได้นำกำลังเจ้าหน้าที่จำนวน 30 นายเข้าตรวจสอบพื้นที่จนสามารถจับกุมผู้กระผิดข้อหาฝ่าฝืนพ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 ฐานค้าและมีสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครอง ซึ่งผู้ค้าสัตว์ป่ารายนี้อาจต้องรับโทษจำคุกนานถึง 4 ปี หรือถูกปรับจำนวนสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นอกจากนกตามบัญชีสัตว์ป่าคุ้มครองภายใต้กฎหมายไทยที่ยึดได้ครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ยังยึดเต่าดาวและงูไว้เพื่อตรวจสอบใบอนุญาตต่อไป แม้สัตว์ป่าเหล่านี้จะสามารถตีมูลค่าในตลาดมืดเป็นจำนวนเงินได้ แต่หากไม่สามารถตีเป็นมูลค่าความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติของประเทศไทยได้

“การปฏิบัติการนำกำลังเข้าจับกุมครั้งนี้เป็นการเผชิญหน้ากับผู้กระทำผิด เพื่อให้ผู้ค้าตระหนักถึงความเอาจริงเอาจังของผู้บังคับใช้กฎหมาย อย่างไรก็ตาม บทลงโทษของการกระทำผิดประเภทนี้ยังไม่รุนแรงเพียงพอ” พ.ต.อ. เกียรติพงศ์ ขาวสำอางค์ รองผบก.ปทส.ยังกล่าวพร้อมยังเสริมอีกว่า เนื่องจากยังมีความต้องการซื้อของตลาดอยู่จึงทำให้การค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมายไม่หมดไป ซึ่งตรงนี้เป็นหน้าที่ของทุกคนที่จะร่วมกันสร้างจิตสำนึกและหันมาใส่ใจกับปัญหาเรื่องนี้

“พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 ของไทย ควรต้องมีการแก้ไขปรับปรุงให้มีบทลงโทษแก่ผู้กระทำผิดที่รุนแรงขึ้น เพื่อให้การทำงานของตำรวจไม่สูญเปล่า และเพื่อให้ผู้ค้าฯทั้งหลายไม่สามารถกลับมากระทำผิดได้อีก” นายสตีเว่น กาลสเตอร์ ผู้อำนวยการมูลนิธิฟรีแลนด์กล่าว

หนึ่งในจำนวนนกที่ถูกยึดได้คราวนี้คือ นกกรงหัวจุก (Pycnonotus Jocosus) มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า นกปรอดหัวโขนหรือนกพิชหลิว มีถิ่นอาศัยอยู่ในแถบประเทศที่มีอากาศร้อนชื้น ในทวีปเอเซียพบได้ในประเทศจีน มาเลเซีย อินโดนีเซีย อินเดีย เวียดนาม กัมพูชา ลาว และประเทศไทย นกกรงหัวจุกเป็นที่นิยมของคนภาคใต้มายาวนาน โดยได้รับอิทธิพลมาจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างอินโดนีเซีย สิงคโปร์ มาเลเซีย โดยเฉพาะการแข่งขันประชันเสียง ซึ่งนกแต่ละตัวจะมีความสามารถและเสียงร้องแตกต่างกันไป จากนั้นการแข่งขันประชันเสียงของนกกรงหัวจุกก็เริ่มมีผู้นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ จึงได้จัดให้มีการแข่งขันขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อปีพ.ศ.2519 จนทุกวันนี้มีชมรมต่างๆ เกิดขึ้นอย่างมากมาย

สอบถามข้อมูลหรือต้องการรูปภาพเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ มุกด์ มูลนิธิฟรีแลนด์ โทร 02 204 2719 - 21 หรืออีเมล์ [email protected]

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version