นายถาวร พิมพ์พระ กรรมการบริหาร บริษัท ไดโด สิทธิผล จำกัด ผู้ผลิตโซ่รถยนต์และรถจักรยานยนต์ (ระบบขับเคลื่อน) ซึ่งเป็นบริษัทหนึ่งในกลุ่มสิทธิผล เปิดเผยว่า ในปี 2553 นี้ บริษัทมีความมั่นใจว่าผลประกอบการจะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ คือจะมีอัตราการเติบโตขึ้นจากปีที่แล้วประมาณ 15% หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 1,451 ล้านบาท โดยสัดส่วนรายได้นั้นจะมาจากตลาดในประเทศและตลาดส่งออก แบ่งเป็นสัดส่วนรายได้ 60% และ 40%
“ตลาดในประเทศแบ่งออกเป็น 2 ตลาดหลัก คือ ตลาดรับจ้างผลิต หรือ โออีเอ็ม และ ตลาดทดแทน หรือ Replacement ซึ่งไดโดสิทธิผลจะมีรายได้จากตลาดรับจ้างผลิตอยู่ประมาณ 60 % มีลูกค้าหลักๆ ของ โซ่รถยนต์ ได้แก่ โตโยต้า ฮอนด้า และนิสสัน ส่วนโซ่รถจักรยานยนต์ก็จะมีทั้งฮอนด้า ยามาฮ่า คาวาซากิ และซูซูกิ ส่วนอีก 40% จะมาจากตลาดทดแทน ส่วนใหญ่จะเป็นโซ่รถจักรยานยนต์ โดยในส่วนนี้เราจะส่งให้ บริษัท สิทธิผล 1919 จำกัด เป็นผู้ดูแลและทำการตลาด”
สำหรับตลาดส่งออกนั้น นายถาวรกล่าวว่าในปัจจุบันมีลูกค้าหลัก ได้แก่ ประเทศในแถบอาเซียนทั้งหมด รวมถึงอินโดนีเซีย และเวียดนามด้วย ด้านแผนงานในปี 2554 นี้ เราวางเป้าหมายว่าจะไปตั้งโรงงานที่ประเทศอินเดียอีกแห่งหนึ่ง เพราะที่อินเดียเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง โดยตั้งใจว่าจะรุกเข้าตลาดรับจ้างผลิต หรือ โออีเอ็ม โดยมีเป้าหมายเพิ่มรายได้ในส่วนนี้ประมาณ 70 ล้านบาทต่อปี ปัจจุบัน ไดโด สิทธิผล มียอด การผลิตอยู่ที่ประมาณ 1.2—1.3 ล้านเมตรต่อเดือน ในขณะที่โรงงานสามารถผลิตสูงสุดได้ถึง 1.5 ล้านเมตร ต่อเดือน
?
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 025303218 pmbpr