นายกิตติ สมานไทย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมสวัสดิภาพและพิทักษ์เด็กเยาวชน ผู้ด้อยโอกาส และผู้สูงอายุ (สท.) กล่าวว่า งานด้านสวัสดิการสังคม เป็นกลไกหนึ่งในการพัฒนาประเทศ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ซึ่งมีภารกิจดูแลคนทุกกลุ่มเป้าหมายตั้งแต่ เด็ก เยาวชน คนพิการ ผู้ด้อยโอกาส และผู้สูงอายุ ให้เข้าถึงสวัสดิการของภาครัฐทั้งในรูปแบบสงเคราะห์ การเยียวยา เพื่อบรรเทาทุกข์ การศึกษา การวิจัยหามาตรการใหม่ๆ ในการช่วยเหลือในรูปแบบต่างๆ เพื่อให้คนกลุ่มดังกล่าวเข้าถึงสิทธิ และเพื่อลดช่องว่างทางสังคมให้เหลือน้อยที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มคนด้อยโอกาส รัฐบาลโดยกระทรวงการพัฒนาสังคมฯได้มีนโยบายในการพัฒนาสังคมและพัฒนาคุณภาพชีวิต และให้การคุ้มครองส่งเสริม การจัดสวัสดิการทางสังคมที่เหมาะสมแก่ผู้ยากไร้ ผู้พิการหรือทุพพลภาพ และผู้ที่อยู่ในภาวะยากลำบากให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สามารถพึ่งพาตนเองได้ โดยมีภาคประชาสังคม ประชาชน และภาคเอกชนทุกภาคส่วนของสังคมเข้ามามีส่วนร่วม
นายกิตติ กล่าวต่อว่า เพื่อเป็นการสร้างแรงจูงใจให้กับกลุ่มประชาสังคม ประชาชน และภาคเอกชนในการช่วยเหลือกลุ่มผู้ด้อยโอกาสหรือแม้แต่ผู้ด้อยโอกาสเองที่ประพฤติตนเป็นแบบอย่างในการดำรงชีวิตในสังคม กระทรวงฯ โดย สท. ได้ดำเนินการสรรหาบุคคล องค์กร ดังกล่าว เพื่อประกาศเกียรติคุณให้สังคมรับทราบและเป็นต้นแบบในการช่วยเหลือสังคมต่อไป นอกจากนี้ ยังกำหนดยุทธศาสตร์ส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพและคุ้มครองพิทักษ์สิทธิผู้ด้อยโอกาส ๕ ปี (พ.ศ. ๒๕๕๑-๒๕๕๕) เพื่อเป็นแนวทางการดำเนินงานที่เกิดจากการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจากทุกภาคส่วน รวมถึงการนำองค์ความรู้ที่ทันสมัยมาปรับใช้ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ของกลุ่มผู้ด้อยโอกาสที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วภายใต้สังคมโลกาภิวัตน์ เพื่อที่จะช่วยเหลือกลุ่มผู้ด้อยโอกาสได้ทันท่วงที
สำหรับการจัดงานประกาศเกียรติคุณฯ ครั้งนี้ เพื่อประกาศให้สาธารณชนทราบถึงความดีของผู้ได้รับการเชิดชูเกียรติ อันเป็นการสร้างขวัญ กำลังใจแก่ผู้กระทำดี พร้อมทั้งสร้างแรงจูงใจในการทำความดีและปรับเปลี่ยนทัศนคติของบุคคลในสังคม อีกทั้งยังเป็นการปรับเปลี่ยนทัศนคติของผู้อยู่ในภาวะยากลำบาก ให้มองเห็นคุณค่าของตนเองอย่างมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เท่าเทียมคนอื่นและเป็นแบบอย่างในสังคม โดยบุคคล องค์กรที่ได้รับการเชิดชูเกียรติในปี พ.ศ. ๒๕๕๓ รวมทั้งสิ้น ๓๖ รางวัล ได้แก่ ๑.) ประเภทบุคคลที่ทำคุณประโยชน์แก่ผู้อยู่ในภาวะยากลำบาก จำนวน ๗ ราย ๒.) ประเภทองค์กรที่ทำคุณประโยชน์แก่ผู้อยู่ในภาวะยากลำบาก จำนวน ๗ องค์กร ๓.) ประเภทสื่อที่นำเสนอกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อผู้อยู่ในภาวะยากลำบาก จำนวน ๑๓ รายการ และ ๔.) ประเภทบุคคลผู้อยู่ในภาวะยากลำบากที่สามารถดำรงชีวิตเป็นแบบอย่างควรแก่การยกย่องเชิดชูเกียรติ จำนวน ๙ ราย.