กระทรวงพลังงานสรุปผลความก้าวหน้าโครงการ “ลดโลกร้อน ถวายพ่อ” พร้อมเปิดตัวภาพยนตร์เชิดชูพระอัจฉริยภาพด้านพลังงานทดแทน

พฤหัส ๓๐ กันยายน ๒๐๑๐ ๑๐:๓๕
กระทรวงพลังงานเปิดตัวภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระอัจฉริยภาพด้านพลังงานทดแทนผ่านฟรีทีวีทุกช่อง พร้อมชูผลงานภายใต้โครงการ “ลดโลกร้อน ถวายพ่อ” ภายหลังโครงการเดินหน้าเกือบ 1 ปี ประสบความสำเร็จเกินเป้าหมาย โดยเฉพาะโครงการปลูกป่า สามารถพลิกผืนดินคืนพื้นที่ป่าสีเขียวได้กว่า 18 ล้านต้น ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้กว่า 100,000 ตันต่อปี

นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และในฐานะที่ปรึกษาประธานกรรมการอำนวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติแห่งการบรมราชาภิเษกปีที่ 60 และการเฉลิมพระชนมพรรษา และนายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ร่วมกันแถลงข่าวความก้าวหน้าการจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแห่งการบรมราชาภิเษกปีที่ 60 และการเฉลิมพระชนมพรรษา และเปิดตัวภาพยนตร์เทิดพระเกียรติในพระอัจฉริยภาพด้านพลังงานทดแทนชุดใหม่ ณ โรงภาพยนตร์ โนเกีย 1 สยามพารากอน เพื่อแสดงถึงพระวิสัยทัศน์อันยาวไกลของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมุ่งมั่นให้คนไทยสามารถพึ่งพาตนเองในการผลิตพลังงานใช้เองได้ และนำพืชผลทางการเกษตรมาใช้ให้เกิดประโยชน์แก้ปัญหาราคาพืชผลตกต่ำ อันเป็นการช่วยลดการนำเข้าพลังงานจากต่างประเทศที่ในแต่ละปีต้องมีการนำเข้าคิดเป็นมูลค่ามหาศาล โดยในปี 2552 คิดเป็นมูลค่าเกือบ 8 แสนล้านบาทต่อปี

นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ เปิดเผยว่า “โครงการลดโลกร้อน ถวายพ่อ” ประกอบด้วยกระทรวงพลังงานและหน่วยงานในสังกัด ทั้งภาคราชการ รัฐวิสาหกิจและภาคเอกชน ตลอดจนองค์กรอิสระ เข้าร่วมรวม 12 หน่วยงาน อาทิ สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ (ชธ.) กรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) บริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน) บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรี โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สกพ.) ได้มีการจัดกิจกรรมต่างๆ จำนวน 6 ด้าน รวม 28 โครงการ ซึ่งสามารถช่วยลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในบรรยากาศได้ถึง 336,000 ตันต่อปี จากเดิมตั้งเป้าหมายไว้ที่ 207,759 ตันต่อปี เนื่องจากการจัดกิจกรรมปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2553 เป็นต้นมา จนถึงปัจจุบัน สามารถจัดหาพันธุ์กล้าไม้ไปแล้ว 18,068,768 ต้น เพื่อปลูกป่าและไม้ยืนต้นทั้งหมด 25,088 ไร่ สามารถช่วยลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในบรรยากาศได้ 100,380 ตันต่อปี

นอกจากนี้ภายใต้โครงการดังกล่าว ยังมีโครงการปรับปรุงคุณภาพก๊าซชีวภาพเพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิง, โครงการรณรงค์ประชาชนตรวจเช็คเครื่องยนต์, โครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนเจ้าพระยาเฉลิมพระเกียรติ 60 ปี, โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด 5 เมกะวัตต์, โครงการทุ่งกันหันลม ณ อุทยานพลังงาน เฉลิมพระเกียรติ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา, โครงการรณรงค์ประชาชนร่วมใจ ล้างแอร์ และใช้หลอดตะเกียบ เบอร์ 5, โครงการแล่นใบข้ามอ่าวไทย ตามรอยพระยุคลบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว, โครงการพะลวย Green Island เป็นต้น

ล่าสุดกับโครงการใหม่ที่เพิ่งตัวเมื่อเร็วๆ นี้ “โครงการหนังสือภาพสายธารแห่งน้ำพระทัย ๘๔ พรรษา” ซึ่งได้ร่วมกับ 14 หน่วยงานจัดงานครั้งนี้ขึ้น จะมีโครงการที่สำคัญ 4 กิจกรรม ประกอบด้วย 1.กิจกรรมอบรมการถ่ายภาพเจ้าหน้าที่โครงการหลวง 2. กิจกรรมจัดทำหนังสือภาพถ่ายและวีซีดีสายธารแห่งน้ำพระทัย ๘๔ พรรษา 3. กิจกรรมจัดทำบัตรถวายพระพร 1 ล้านใบ และ 4. การจัดนิทรรศการกลางแจ้ง “ภาพถ่ายข้างบ้านพ่อ” ระหว่างวันที่ 1-9 ธันวาคม 2553 จึงอยากขอเชิญชวนให้ประชาชนทุกคนได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการเพื่อถวายแด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ในปี 2553 นี้

“กิจกรรมต่างๆ ที่จัดขึ้นภายใต้โครงการ “ลดโลกร้อน ถวายพ่อ” มีวัตถุประสงค์เพื่อรณรงค์ ส่งเสริมให้ประชาชนในประเทศเห็นคุณค่าและร่วมกันสนับสนุนพลังงานทดแทนของไทย เพราะเป็นพระราชดำริ และเทิดพระเกียรติในปีมหามงคลแห่งการบรมราชาภิเษกปีที่ 60 และการเฉลิมพระชนมพรรษา นอกจากนี้ ยังต้องการชี้ให้เห็นถึงความสำคัญในการช่วยกันลดภาวะโลกร้อน ซึ่งถือเป็นปัญหาสำคัญของโลกในขณะนี้ ซึ่งการปลูกต้นไม้เป็นวิธีหนึ่ง แต่ทุกคนก็สามารถทำได้ด้วยตนเองกับวิธีประหยัดพลังงานง่ายๆ ในบ้านของตนเอง” นายสุวัจน์ กล่าว

นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า กระทรวงพลังงานได้จัดทำโครงการรณรงค์สร้างการรับรู้(Campaign) “เมืองไทย เมืองแห่งพลังงานทดแทน” เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระอัจฉริยะภาพด้านพลังงานทดแทน และเพื่อสร้างกระแสความสนใจด้านพลังงานทดแทนให้กับประชาชนทุกภาคส่วนของประเทศ ด้ายกระทรวงพลังงานตระหนักดีกว่าหากประเทศไทยมีการใช้พลังงานทดแทนกันอย่างแพร่หลายจะก่อให้เกิดประโยชน์อย่างมากๆ ต่อประชาชนทั้งเกษตรกร ทั้งสิ่งแวดล้อม ทั้งความยั่งยืนและลดการนำเข้าพลังงานอีกด้วย

ส่วนภาพยนตร์เทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ชุด “พระอัจฉริยภาพด้านพลังงานทดแทน” ที่จะมีการฉายเป็นปฐมฤกษ์ในวันนี้ ก็มีเป้าหมายให้ประชาชนเกิดความปลื้มปิติในพระปรีชาสามารถและสายพระเนตรอันยาวไกลของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และจะส่งผลถึงความภูมิใจในการใช้พลังงานทดแทนในทุกส่วนของสังคมไทย

นายแพทย์วรรณรัตน์ กล่าวว่า “ประเทศไทยโชคดีที่มีทรัพยากรมากมาย แต่สิ่งที่ทำให้ประเทศไทยโชคดียิ่งไปกว่านั้นคือ เรามีในหลวงที่เป็นศูนย์รวมดวงใจของคนไทยทั้งประเทศ ด้วยพระอัจฉริยภาพของพระองค์ที่ทรงริเริ่มเรื่องพลังงานทดแทน ตั้งแต่ยังไม่เกิดวิกฤตการณ์ด้านพลังงาน ทำให้วันนี้เราคนไทยมีพลังงานทดแทนใช้ในการแก้ปัญหา และพร้อมที่จะพัฒนาเป็นพลังงานที่ยั่งยืนด้วยการนำทรัพยากรรอบตัวมาผลิตเป็นพลังงาน เพื่อเป็นภูมิคุ้มกันทางพลังงานที่แข็งแกร่งของชาวไทยทุกคน”

สำหรับภาพยนตร์ชุด พระอัจฉริยภาพด้านพลังงานทดแทน มีความยาว 1 นาที มีกำหนดเผยแพร่ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์และโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศ ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2553 เป็นต้นไป และนอกจากนี้ กระทรวงพลังงานยังได้จัดทำสื่อประชาสัมพันธ์กลางแจ้ง เป็นป้ายบิลบอร์ดขนาดใหญ่สะท้อนวิสัยทัศน์ด้านพลังงานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กระจายติดตั้งทั้งในกรุงเทพฯ และส่วนภูมิภาค พร้อมทั้งสื่อประชาสัมพันธ์พระราชกรณียกิจและพระปรีชาสามารถด้านพลังงานทดแทนในสื่อหนังสือพิมพ์และนิตยสารอย่างต่อเนื่องถึงเดือนธันวาคม ศกนี้อีกด้วย

เสนอข่าวในนาม : กระทรวงพลังงาน

รายละเอียดเพิ่มเติม : โกวิท สว่างวารีสกุล ([email protected])

บริษัท โอกิลวี่ พับลิค รีเลชั่นส์ เวิลด์วายด์ จำกัด

โทร. 0 2205 6613

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ