รวบแก๊งค์ขายใบกำกับภาษีทางอินเทอร์เน็ต

พฤหัส ๓๐ กันยายน ๒๐๑๐ ๑๐:๕๔
ด้วยกรมสรรพากรโดย นายวินัย วิทวัสการเวช อธิบดีกรมสรรพากร นางวณี ทัศนมณเฑียร รองอธิบดีกรมสรรพากร ได้ร่วมกับ พล.ต.ท. ไถง ปราศจากศัตรู ผบช.ก. พล.ต.ต.ปัญญา มาเม่น รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.สุรพล หอมชื่นชม ผบก.ปอท. และพล.ต.ต.โกวิทย์ วงศ์รุ่งโรจน์ ผบก.ปอศ. พร้อมกำลังได้ร่วมกันดำเนินการสืบสวนเกี่ยวกับขบวนการผู้ออกใบกำกับภาษีปลอม โดยได้ลงประกาศขายให้ประชาชนทั่วไปผ่านทางเว็บไซต์ ผลการสืบสวนสอบสวนทราบว่าหนึ่งในขบวนการดังกล่าวคือ น.ส.สิริยากร โสมทรัพย์ และได้หลักฐานการกระทำผิดของ น.ส.สิริยากรฯ โดยมีพฤติการณ์เปิดบริษัทค้าวัสดุก่อสร้างของตนเอง ออกใบกำกับภาษีโดยไม่มีการซื้อขายสินค้าจริง และไม่สามารถนำไปใช้แสดงต่อกรมสรรพากรเพื่อเป็นเครดิตภาษีหรือเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีได้แต่อย่างใด นอกจากนี้ ยังแอบอ้างชื่อบริษัทผู้อื่นออกใบกำกับภาษีอีกด้วย

ต่อมาเมื่อวันที่ 28 กันยายน 2553 เจ้าหน้าที่กรมสรรพากร เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปอท. และ บก.ปอศ. จึงได้ยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดธัญบุรีเพื่อขอหมายจับ น.ส.สิริยากรฯ ซึ่งศาลฯ ได้อนุมัติหมายจับตามหมายจับที่ 967/2553 ในความผิดฐาน ออกใบกำกับภาษีโดยไม่มีสิทธิออก ตามประมวลรัษฎากร ตามมาตรา 90/4(3) ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามเดือนถึงเจ็ดปี และปรับตั้งแต่สองพันถึงสองแสนบาท นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14(1) ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งการกระทำดังกล่าวยังต้องรับผิดทางแพ่งโดยต้องรับผิดชำระภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามจำนวนที่ปรากฏในใบกำกับภาษีพร้อมเบี้ยปรับและเงินเพิ่ม

หลังจากนั้นกรมสรรพากรและเจ้าหน้าที่ตำรวจของ บก.ปอท. และ บก.ปอศ. ได้แบ่งกำลังเป็น 6 ชุดปฏิบัติการ กระจายกันเข้าตรวจค้นตามจุดต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับผู้ต้องหาใช้สำหรับออกใบกำกับภาษีปลอมดังกล่าวเพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน และสามารถจับกุมตัว น.ส.สิริยากรฯ ผู้ต้องหาหนึ่งในขบวนการขายใบกำกับภาษีปลอมได้ที่บริเวณหมู่ที่ 6 ตำบลคูคต อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี พร้อมทั้งสามารถยึดเอกสารใบกำกับภาษีปลอมได้เป็นจำนวนมาก และยึดเครื่องคอมพิวเตอร์จำนวน 6 เครื่อง ในเบื้องต้นคิดมูลค่าสินค้า ที่ซื้อขายตามใบกำกับภาษีปลอมได้กว่าหนึ่งพันล้านบาท ส่งให้พนักงานสอบสวน บก.ปอท. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายและจะสืบสวนสอบสวนเพื่อติดตามจับกุมขบวนการดังกล่าวที่เหลือต่อไป

สำหรับผู้ที่นำใบกำกับภาษีปลอมดังกล่าวไปใช้ในการเครดิตภาษี เพื่อขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือเสียภาษีมูลค่าเพิ่มให้น้อยลง หรือนำไปใช้เป็นรายจ่ายเท็จในการคำนวณภาษีเงินได้ มีความผิดตามประมวลรัษฎากร โดยต้องรับผิดทางแพ่งตามจำนวนภาษีที่นำไปเครดิตภาษีหรือเป็นรายจ่ายเท็จพร้อมเบี้ยปรับ เงินเพิ่ม และมีโทษทางอาญากรณีใช้ใบกำกับภาษีที่ออกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายตามมาตรา 90/4(7) และกรณีหลีกเลี่ยงภาษีอากรตามมาตรา 37(2) ซึ่งมีระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามเดือนถึงเจ็ดปี และปรับตั้งแต่สองพันถึงสองแสนบาท เช่นเดียวกับผู้ออกใบกำกับภาษีโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายอีกด้วย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ