โครงการความร่วมมือภายใต้FTA ประโยชน์สองต่อของผู้ประกอบการไทย

พฤหัส ๓๐ กันยายน ๒๐๑๐ ๑๒:๓๙

ทีดีอาร์ไอแนะผู้ประกอบการไทยใช้ประโยชน์โครงการความร่วมมือภายใต้ความตกลงการค้าเสรี เพิ่มประโยชน์สองต่อ ลดทั้งภาษีและได้ความรู้ เทคโนโลยีมาพัฒนาอุตสาหกรรม ยกตัวอย่างโครงการความร่วมมือภายใต้ JTEPA (ไทย-ญี่ปุ่น) มีหลายอุตสาหกรรมได้ประโยชน์แล้ว ทั้งอุตสาหกรรมอาหาร เหล็ก สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม

นายสุนทร ตันมันทอง นักวิจัยจากสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย ผู้วิจัยเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์จากโครงการความร่วมมือและโครงการความตกลงยอมรับร่วม (MRA) เปิดเผยว่า ผลจากความตกลงการค้าเสรีฉบับต่าง ๆ ที่ทยอยบังคับใช้มาต่อเนื่อง โดยในปี 2552 ทำให้ภาคส่งออกและภาคนำเข้าไทยประหยัดภาษีได้เกือบ 8 หมื่นล้านบาท (แม้ยังมีการใช้ประโยชน์ไม่เต็มที่) และนอกจากประโยชน์ด้านภาษี ผู้ประกอบการไทยยังจะได้ประโยชน์มากขึ้นจากโครงการความร่วมมือต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นภายใต้ FTA ซึ่งเป็นความช่วยเหลือด้านความรู้และเทคโนโลยีจากประเทศคู่ค้า จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถให้ทั้งผู้ประกอบการส่งออกในการออกแบบ ผลิต และเจาะตลาดคู่ค้า และผู้ผลิตสินค้าในประเทศที่ต้องปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมที่มีการแข่งขันเพิ่มขึ้น

โครงการวิจัยเรื่อง ““การเพิ่มขีดความสามารถของภาคอุตสาหกรรมภายใต้นโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศของไทย” ซึ่งสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม(สศอ.) ได้มอบหมายให้ทีดีอาร์ไอดำเนินการวิจัย จึงมีการศึกษาครอบคลุม การเก็บเกี่ยวประโยชน์จากโครงการความร่วมมือภายใต้ความตกลงการค้าเสรีและความตกลงยอมรับร่วม (Mutual Recognition Agreement : MRA) เป็นช่องทางเสริมให้ผู้ประกอบการใช้ประโยชน์ในการพัฒนาอุตสาหกรรมในด้านความรู้และเทคโนโลยี เพิ่มเติมจากประโยชน์ทางตรงที่ได้จากการประหยัดภาษี

โดยศึกษานำร่องโครงการความร่วมมือภายใต้ JTEPA (ไทย-ญี่ปุ่น)ใน 4 สาขาอุตสาหกรรม คือ อาหาร เหล็ก ยานยนต์ สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม ความช่วยเหลือจากญี่ปุ่นส่วนใหญ่อยู่ในรูปแบบความช่วยเหลือด้านการเงินและบุคลากร ข้อมูล และเอกสารวิชาการต่าง ๆ ประกอบด้วย โครงการส่งเสริมการค้าและการลงทุนเพื่อ “ครัวไทยสู่ครัวโลก” โครงการความร่วมมืออุตสาหกรรมเหล็กไทย-ญี่ปุ่น โครงการสถาบันพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของอุตสาหกรรมยานยนต์ และโครงการความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม

ผู้วิจัยโครงการนี้ เปิดเผยว่า โครงการความร่วมมือภายใต้ JTEPA เน้นการส่งเสริมการค้าและการลงทุนระหว่างไทยกับญี่ปุ่นให้ใกล้ชิดกันมากขึ้นอีกทางหนึ่ง ซึ่งที่ผ่านมาหลายโครงการมีความคืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรมทุกปี ยกเว้นโครงการของอุตสาหกรรมยานยนต์ที่เพิ่งเริ่มต้น

โครงการที่มีความคืบหน้าได้แก่ โครงการ “ครัวไทยสู่ครัวโลก”ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการส่งออกและการปรับปรุงคุณภาพมาตรฐานของผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อเจาะตลาดญี่ปุ่น ให้ตรงกับคุณภาพและมาตรฐานอาหารที่บังคับใช้ในญี่ปุ่น พบว่ามีการประชาสัมพันธ์เรื่องราวอาหารไทยในสื่อสาธารณะของญี่ปุ่นอย่างต่อเนื่อง มีการถ่ายทอดความรู้ผ่านการอบรม สัมมนา เยี่ยมชมโรงงานและมีผู้เชี่ยวชาญญี่ปุ่นมาให้คำแนะนำในการปรับปรุงคุณภาพและมาตรฐานผลิตภัณฑ์แก่ผู้ประกอบการไทย เนื่องจากญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับมาตรฐานอาหารจึงมีรายละเอียดมากและหลากหลายตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำที่ผู้ประกอบการไทยควรรู้ ที่ผ่านมาผู้ประกอบการไทยหลายรายสนใจเรื่องการปรับปรุงเทคโนโลยีการผลิตมากขึ้น อีกจำนวนหนึ่งมองเห็นช่องทางธุรกิจ แต่ส่วนใหญ่ยังคงต้องการความช่วยเหลือด้านเทคโนโลยีการผลิตจากญี่ปุ่น

โครงการความร่วมมืออุตสาหกรรมเหล็กไทย-ญี่ปุ่น เป็นเรื่องการส่งเสริมความรู้และเทคโนโลยีด้านเหล็กให้แก่ไทย โดยเฉพาะเทคโนโลยีอุตสาหกรรมงานโครงสร้างเหล็ก และเทคโนโลยีด้านสิ่งแวดล้อม ศึกษาการใช้หัวเผาแบบรีเจนเนอเรทีฟ (Regenerative Burner) และการหลอมเหล็กด้วยเตาอาร์คไฟฟ้า (EAF) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยด้านการประหยัดพลังงานในการหลอมเหล็ก มีความสำคัญต่ออุตสาหกรรมเหล็กในอนาคต ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยยังมีความรู้และเทคโนโลยีด้านนี้น้อย โครงการนี้จึงสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยได้นำมาปรับปรุงมาตรฐานการผลิตเหล็กของตนเอง โดยปัจจุบันมี 2โรงงานเหล็กที่เข้าร่วมโครงการได้ติดตั้งเทคโนโลยีดังกล่าว นอกจากนี้ญี่ปุ่นยังได้มอบลิขสิทธิ์ในการแปลเอกสารทางวิชาการด้านวิศวกรรมเหล็กของญี่ปุ่นให้ไทยเพื่อเผยแพร่อีกด้วย

โครงการความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม เพื่อส่งเสริมการตลาดและการพัฒนาขีดความสามารถทางเทคโนโลยีของไทย โครงการมีความคืบหน้าที่เป็นรูปธรรม มีการทำวิจัยทั้งการทำวิจัยเชิงลึกด้านตลาดสิ่งทอของญี่ปุ่น มีการพัฒนาขีดความสามารถทางเทคโนโลยีที่สำคัญ คือ โครงการความร่วมมือด้านการฟอกย้อม และโครงการพัฒนาผ้าผืน/ผ้าสำเร็จรูปสู่ตลาดญี่ปุ่น ที่ผ่านมาผู้ประกอบการใช้ประโยชน์ในระดับที่น่าพอใจ ผู้ประกอบการส่วนใหญ่เห็นว่าความรู้และเทคโนโลยีจากผู้เชี่ยวชาญญี่ปุ่นเป็นประโยชน์แม้ว่าจะยังไม่ก่อให้เกิดผลทางการค้ามากนัก โครงการพัฒนาผ้าผืนเกิดผลเป็นรูปธรรมคือ ชิ้นงานผ้าผืนซึ่งถูกนำไปจัดแสดงในงาน Biff&Bil 2010 มีผู้ซื้อจากญี่ปุ่นเดินทางมาเยี่ยมชม และเป็นกิจกรรมที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้ผลิตคือต้องการให้มีกิจกรรมในลักษณะการจับคู่ธุรกิจ ให้ผู้ซื้อพบผู้ขายโดยตรง เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม โครงการความร่วมมือภายใต้ JTEPA ส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมการเข้าถึงตลาดและเทคโนโลยีอุตสาหกรรม กิจกรรมที่ดำเนินมาส่วนใหญ่มีผู้ประกอบการเข้าร่วมกิจกรรมในระดับที่น่าพอใจ ผู้เข้าร่วมส่วนใหญ่เห็นว่ากิจกรรมเป็นประโยชน์ แต่การนำไปใช้ประโยชน์ต่อเนื่องในธุรกิจของผู้ประกอบการยังมีเพียงบางกิจกรรมเท่านั้น อุปสรรคในการใช้ประโยชน์มาจากทั้งในกระบวนการเจรจาและในการดำเนินโครงการ

ส่วนโครงการความตกลงยอมรับร่วม (Mutual Recognition Agreement : MRA) เป็นอีกส่วนสำคัญที่มาช่วยอำนวยความสะดวกทางการค้าให้แก่ผู้ประกอบการ ผ่านการ ยอมรับร่วมกันในมาตรฐานสินค้าและมีการจัดตั้งหน่วยงานรับรองมาตรฐานกลางดังกล่าวขึ้นมา ทำให้ประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายให้ ผู้ประกอบการได้มีความสะดวกมากขึ้น โดยทำการศึกษาเบื้องต้นกับสินค้ากลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์กับอาเซียน และกับญี่ปุ่น

ปัจจุบันในอาเซียนมีห้องปฏิบัติการที่ผ่านการรับรองเพียง 13 แห่ง โดยเป็นห้องปฏิบัติการที่อยู่ในประเทศไทย 5 แห่ง ในทางปฏิบัติผู้ประกอบการยังมาใช้ประโยชน์น้อย เนื่องจากยังเป็นกรอบความร่วมมือยังไม่ครอบคลุมมากเท่าใดนัก แต่ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญและจำเป็น เนื่องจากในปี 2554 ในอาเซียนจะมีการบังคับใช้ความตกลง “AHEEER” ซึ่งก้าวไปอีกขั้น นั่นคือ การผสานกรอบมาตรฐานกลางกว้าง ๆ ที่ต้องการให้ประเทศในอาเซียนได้ใช้ประโยชน์ร่วมกันได้มากขึ้น ขณะเดียวกันในส่วนของความตกลง JTEPA ผู้ประกอบการยังไม่ได้ใช้ประโยชน์จากห้องปฏิบัติการเนื่องจากหน่วยงานรับรองของไทยยังไม่ได้รับการรับรองจากประเทศญี่ปุ่น

นายสุนทร กล่าวด้วยว่า หากผลประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรีด้านภาษีเหมือนเป็นหน้าบ้านเพราะผลประโยชน์เป็นตัวเลขที่เห็นชัด แต่โครงการความร่วมมือเป็นเหมือนหลังบ้านที่ต้องพัฒนาคู่กันไป เป็นโอกาสที่จะทำให้เราได้ประโยชน์ซึ่งหากไม่มี FTA แล้วก็ไม่แน่ใจว่า เราจะได้รับความช่วยเหลือแบบนี้หรือไม่ โครงการความร่วมมือจึงจำเป็นและควรต้องได้รับการส่งเสริม.

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๗ มี.ค. กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จับมือ วิทยาลัยเซาธ์อีสท์บางกอก ปั้นแรงงานโลจิสติกส์ พร้อมลุยตลาดงาน
๐๗ มี.ค. คปภ. จับมือเครือข่ายพันธมิตรประกันภัย เปิดเวทีเสวนา ตื่นรู้ ปรับเปลี่ยน รับความเสี่ยงภัยจากสภาพภูมิอากาศในโลกใหม่ที่ต้องเผชิญ
๐๗ มี.ค. Carbon Markets Club ร่วมขับเคลื่อนตลาดคาร์บอนอาเซียน ผสานพลังภาครัฐและพันธมิตร สู่โครงสร้างมาตรฐานสากล
๐๗ มี.ค. เคอี กรุ๊ป ร่วมแสดงความยินดี คุณอัจฉรา บุรารักษ์ เนื่องในโอกาสเปิดร้านรส'นิยม (Ros'niyom)
๐๗ มี.ค. จังซีลอน ร่วมสนับสนุนการจัดงานมหกรรมกีฬาและดนตรี Air Sea Land Phuket 2025
๐๗ มี.ค. อาจารย์ภาควิชาธรณีวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ สำรวจพบร่องรอย เมืองโบราณอีกเมือง ตั้งซ้อนทับ เมืองเก่านครราชสีมา
๐๗ มี.ค. กทม. นำร่องติดตั้งเสากั้นหน้าแพลตตินัม ประตูน้ำ ลดปัญหารถรับจ้างจอดแช่-แก้ปัญหาการจราจรติดขัด
๐๗ มี.ค. Lady Gaga ทวงบัลลังก์ราชินีป็อปแดนซ์ในอัลบั้มใหม่ MAYHEM ที่ทุกคนรอคอย ชวน Little Monsters ชาวไทย ฉลองคัมแบ็กสุดยิ่งใหญ่ ในงาน LADY GAGA - MAYHEM PARTY IN BANGKOK 19 มีนาคม ที่ BEEF
๐๗ มี.ค. DITP จัดกิจกรรมส่งเสริมภาพลักษณ์ด้านการค้าระหว่างประเทศของไทย พร้อมเปิดตัวโลโก้ใหม่ภายใต้แนวคิด 3E CREATE POSSIBILITIES สร้างโอกาสการค้าไทยสู่ตลาดโลก 12
๐๗ มี.ค. Metal Valley จับหุ่นยนต์สุดน่ารัก ขุดแร่ สร้าง NFT เกมเรือธงจากความร่วมมือของ Extend Games, Bitkub Chain และ JFIN Chain เปิด Early Access แล้ววันนี้ บน Windows, Android และ