สมบูรณ์พร้อมแล้ว เตรียมเดินหน้าเข้าตลาดฯ เคาะราคาที่ 12.90 บาท สุดปลื้มนักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงสถาบันการเงินชั้นนำระดับโลกสนใจอย่างล้นหลาม

ศุกร์ ๒๑ มกราคม ๒๐๐๕ ๑๓:๓๗
กรุงเทพฯ--21 ม.ค.--124 คอมมิวนิเคชั่นส์
นายวีระยุทธ กิตะพาณิชย์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท สมบูรณ์ แอ๊ดวานซ์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) ผู้นำในการผลิตเพลาข้าง แหนบ สปริง กันสะเทือนช่วงล่างรถยนต์ และรถปิกอัพ จานเบรก เบรกดุม และชิ้นส่วนยานยนต์ด้วยประสบการณ์ในตลาด OEM มานานกว่า 40 ปี และมีลูกค้าเป็นบริษัทรถยนต์ชั้นนำของโลก อาทิ มิตซูบิชิ ฮอนด้า โตโยต้า อีซูซุ ฟอร์ด และมาสด้า อีกทั้งเป็นผู้ส่งออกสินค้าโดยตรงไปต่างประเทศ เช่นญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และกลุ่มอาเซียน เปิดเผยว่าบริษัทจะเปิดให้ประชาชนทั่วไปได้จองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทจำนวน 74 ล้านหุ้นระหว่างวันที่ 20-21 มกราคม ศกนี้ ที่ราคา 12.90 บาท ทั้งนี้หุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนนี้มีสถาบันการเงินร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายจำนวน 9 แห่ง ได้แก่ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด บริษัทหลักทรัพย์บัวหลวง จำกัด(มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์โกลเบล็ก จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ทิสโก้ จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรีอยุธยา จำกัด(มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ซีมิโก้ จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาติ จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย พลัส จำกัด(มหาชน)
"จากการ ทำบุ๊คบิ้วกับสถาบันการเงินไปเมื่อวันที่ 17 มกราคมที่ผ่านมาปรากฏว่าหุ้นของบริษัทได้รับความสนใจอย่างมากจากนักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงสถาบันการเงินชั้นนำระดับโลกซึ่งเงินจำนวน 954.60 ล้านบาทที่ได้จากการระดมทุนนี้บริษัทจะนำไปลงทุนใหม่เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตผลิตภัณฑ์เพลาข้างรวมถึงการขยายกำลังการผลิตในอีกหลายผลิตภัณฑ์ของบริษัทย่อย และชำระคืนเงินกู้บางส่วน" นายวีระยุทธกล่าว
นางขนิษฐา สรรพอาษา กรรมการอำนวยการ บริษัท ทรีนิตี้ แอ๊ดไวซอรี่ 2001 จำกัด กล่าวเสริมว่า "การที่นักลงทุนสถาบันให้ความสนใจหุ้นของ SAT อย่างมากนั้นเป็นเพราะว่าบริษัทมีศักยภาพการเจริญเติบโตที่สูงมาก ด้วยส่วนแบ่งการตลาดของผลิตภัณฑ์หลักคือเพลาข้างที่เป็นอันดับ 1 ของประเทศไทย อีกทั้งบริษัทยังได้รับการยอมรับจากผู้ผลิตรถยนต์ และรถปิกอัพชั้นนำของโลกว่าเป็นบริษัทที่มีเทคโนโลยีการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ที่ทันสมัยและมีคุณภาพของสินค้าที่เป็นที่ยอมรับในอุตสาหกรรม ประกอบกับในภาวะปัจจุบันอุตสาหกรรมยานยนต์มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด และเป็นอุตสาหกรรมที่รัฐบาลให้การสนับสนุน และมีนโยบายผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ในภาคพื้นเอเชีย ขณะที่ผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำของโลก เช่นโตโยต้า อีซูซุ และฟอร์ดได้เลือกไทยเป็นฐานการผลิตรถปิกอัพ ซึ่งล้วนแต่ส่งผลดีต่อธุรกิจของสมบูรณ์ทั้งสิ้น
นายวีระยุทธกล่าวต่อไปว่า บริษัท สมบูรณ์ แอ๊ดวานซ์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน)(SAT) ถือหุ้นในบริษัทย่อยในสัดส่วนร้อยละ 99.99 ใน 3 บริษัท ได้แก่ บริษัท เอสเอที แอคเซิล เทคโนโลยี จำกัด (SATAT),บริษัทสมบูรณ์หล่อเหล็กเหนียวอุตสาหกรรม จำกัด (SBM) และบริษัทบางกอกสปริงอินดัสเตรียบ จำกัด (BSK) โดยผลิตภัณฑ์หลักของกลุ่มบริษัท ได้แก่ เพลาข้าง,แหนบแฝน,จานเบรก,เบรกดุม,ท่อไอเสียรวม,จานไฟ และดุมล้อช่วยแรง,เหล็กกันโครง,สปริงขด เป็นต้น และผลิตภัณฑ์อื่นๆของกลุ่มบริษัทอีก 30 รายการ
นายวีระยุทธกล่าวต่อไปว่าในส่วนของลูกค้าหลักนั้นแบ่งออกเป็น ผู้ประกอบยานยนต์ (Original Equipment Manufacturer 'OEM') ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำและมีมาตรฐานของสินค้าในระดับสูงเช่น มิตซูบิชิ,ฮอนด้า,โตโยต้า,อีซูซุ,ฟอร์ด และมาสด้า และผู้จำหน่ายชิ้นส่วนอะไหล่ (Replacement Equipment Manufacturer 'REM') โดยปัจจุบันสัดส่วนรายได้ OEM ต่อ REM เท่ากับ 92:8
นายวีระยุทธกล่าวต่อไปถึงผลการดำเนินของบริษัทว่างบเสมือนรวมของบริษัทในรอบ 9 เดือนของปี 2547 นั้นบริษัทมีรายได้ 2,364 ล้านบาท กำไรสุทธิ 641 ล้านบาท (รวมรายได้จากหนี้สูญรับคืนจำนวน 122.55 ล้านบาท และรายการพิเศษจำนวน 199.95 ล้านบาท) ทั้งนี้หากไม่รวมรายได้จากหนี้สูญรับคืน และรายการพิเศษบริษัทจะมีกำไรสุทธิ 319 ล้านบาท และมีสินทรัพย์รวม 3,341 ล้านบาท
"ที่ผ่านมากองทุนเพื่อการร่วมลงทุน (TEF: Thailand Equity Fund) ได้เข้ามาร่วมลงทุนในบริษัทในสัดส่วนร้อยละ 13.3 ของทุนจดทะเบียน ซึ่งการเข้ามาลงทุนของกองทุนเป็นเพราะว่าสนใจบริษัทสมบูรณ์ แอ๊ดวานซ์ เทคโนโลยี ว่าเป็นบริษัทที่มีพื้นฐานที่มั่นคงแข็งแรง และมีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้การเข้ามาลงทุนของกองทุนจะทำให้บริษัทเติบโตยิ่งขึ้น อีกทั้งยังทำให้กลุ่มบริษัทสามารถใช้ประโยชน์จากเครือข่ายนักลงทุนทั่วโลกได้"นายวีระยุทธกล่าว
อนึ่งบริษัท สมบูรณ์ แอ๊ดวานซ์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) (SAT) และบริษัทย่อย ดำเนินธุรกิจผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ชั้นนำของคนไทย ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ.2484 เริ่มจากธุรกิจค้าอะไหล่รถยนต์ ซึ่งบริษัทฯเป็นผู้บุกเบิกการผลิตภัณฑ์แหนบและสปริงในปี พ.ศ.2505 และต่อมาบริษัทได้ขยายกิจการไปยังอุปกรณ์ชิ้นส่วนยานยนต์ประเภทอื่นๆ เช่นเพลาขับ ระบบเบรก ชิ้นส่วนเครื่องยนต์ และรวมถึงชิ้นส่วนกันสะเทือนช่วงล่างของรถยนต์บรรทุกประเภทขนาดน้ำหนัก 1 ตัน ปัจจุบันบริษัทได้รับรางวัลและกล่าวขวัญยกย่องในผลการปฏิบัติและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมจากกลุ่มผู้ประกอบรถยนต์ อาทิ โตโยต้า ฮอนด้า อีซูซุ และมิตซูบิชิ ปัจจุบันบริษัทมีทุนจะทะเบียน 300 ล้านบาท
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
คุณอินทิรา ใจอ่อนน้อม
ม.ล.ฉัตรามณี เกษมศรี
ดรรชนี นวลเขียว
บริษัท 124 คอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด
02-662-2266--จบ--

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ