“ที่ผ่านมา เอ้าท์ดอร์ อันลิมิเต็ดโซน โดยศูนย์การค้าอัมรินทร์ พลาซ่า ได้สนับสนุนการแข่งขันกีฬาแนวผจญภัยหลากหลายประเภทมาโดยตลอด ในฐานะศูนย์รวมอุปกรณ์กีฬาผจญภัยคุณภาพสูงสำหรับนักกีฬาที่ชื่นชอบความท้าทายในชีวิต และสำหรับในปีนี้ เราได้เล็งเห็นว่า กีฬาปีนหน้าผาเป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยสังเกตจากลูกค้าที่เข้ามาจับจ่ายซื้อสินค้าประเภทนี้ในโซนที่เพิ่มมากขึ้นกว่าแต่ก่อน และด้วยความสำเร็จของการแข่งขันในปีที่แล้ว ซึ่งมีนักกีฬาปีนหน้าผาจากทั่วโลกเข้าร่วมแข่งขันกว่าร้อยคน ดังนั้น เราจึงต้องการจะเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนให้เกินการแข่งขันกีฬาประเภทนี้ ด้วยการเป็นเจ้าภาพจัดงาน Amarin Outdoor Unlimited Master of the Rock Bangkok Open 2010 เพื่อแสดงจุดยืนในการสนับสนุนกีฬาผจญภัยสำหรับคนรุ่นใหม่ และเพื่อเป็นอีกหนึ่งเสียงที่ช่วยส่งเสริม และร่วมประชาสัมพันธ์การแข่งขันกีฬาผจญภัยประเภทนี้ให้เป็นที่รู้จักเพิ่มขึ้นอย่างกว้างขวางในหมู่ชาวไทยมากขึ้น” นายรุ่งยศ จันทภาษา รองประธานฝ่ายพัฒนาธุรกิจ ศูนย์การค้าอัมรินทร์ พลาซ่า กล่าวอธิบาย
“การแข่งขันกีฬาปีนหน้าผาในครั้งนี้จะจัดอย่างยิ่งใหญ่ที่ The Rock@49 ยิมปีนหน้าผาที่ดีและใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยจะเปิดเวทีการแข่งขันให้มือสมัครเล่นและมืออาชีพ ทั้งจากประเทศไทยและต่างชาติได้โชว์ทักษะการปีนหน้าผาอย่างเต็มที่ การแข่งขันในปีนี้จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ Lead Climbing หรือการปีนนำเชือกไปที่จุดสูงสุด โดยต้อง clip เชือก และทำ Anchor ด้วยตัวเอง ซึ่งต้องใช้พลังใจที่เข้มแข็งบวกกับความรอบคอบและการวางแผนที่ดี และ Bouldering คือการปีนก้อนหินหรือหน้าผาเตี้ยๆ สูงไม่เกิน 5 เมตร แต่เส้นทางมีความยากและซับซ้อน ต้องใช้ทักษะและสมาธิอย่างมาก ไม่เช่นนั้นก็จะพลาดได้ง่ายๆ ซึ่งความโหดหินยังไม่สิ้นสุด เพราะจะจัดการแข่งขันอย่างต่อเนื่อง 2 วัน และทำการแข่งขันรอบคัดเลือกและรอบชิงชนะเลิศในแต่ละประเภทในวันเดียว โดยใช้กติกาการแข่งขันของ IFSC ตามมาตรฐานสากล และได้รับเกียรติจากกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากสมาคมกีฬาปีนหน้าผาแห่งประเทศไทยมาเป็นผู้ตัดสิน” คุณชาติชาย เกษมสุข กรรมการผู้จัดการบริษัทไคลม์มิ่ง แฟคตอรี่ จำกัด และผู้จัดงาน กล่าวเสริม
มาร่วมลุ้นกันว่า นักกีฬาปีนหน้าผาทั้งหลายจะสามารถผ่านอุปสรรคสุดโหดและหินทั้งความสูง ความลาดชัน เส้นทางที่ซับซ้อน และเวลาที่จำกัดไปได้อย่างไร และใครจะเป็นผู้คว้าถ้วยรางวัลจากกรุงเทพมหานครและเป็นสุดยอดผู้พิชิตแห่งหน้าผาในการแข่งขันปีนี้
Amarin Outdoor Unlimited Master of the Rock Bangkok Open 2010 จะมีขึ้นในวันที่ 9-10 ตุลาคม
สถานที่จัดการแข่งขัน: The Rock@49
ประเภทการแข่งขัน แบ่งเป็น 2 ประเภทดังนี้
- Lead Climbing หรือการปีนนำเชือกไปที่จุดสูงสุด โดยต้อง Clip เชือก และทำ Anchor ด้วยตัวเอง
- Bouldering การปีนก้อนหินหรือหน้าผาเตี้ยๆ (สูงไม่เกิน 5 เมตร) เส้นทางมีความยากและซับซ้อน
รุ่นการแข่งขัน
- รุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี ทั้งชายและหญิง
- รุ่นทั่วไป ทั้งชายและหญิง
เงินรางวัลการแข่งขัน
สำหรับรุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี
รางวัลที่ 1 ถ้วยรางวัลจากกรุงเทพมหานครและของที่ระลึก
รางวัลที่ 2 ถ้วยรางวัลจากกรุงเทพมหานครและของที่ระลึก
รางวัลที่ 3 ถ้วยรางวัลจากกรุงเทพมหานครและของที่ระลึก
สำหรับรุ่นทั่วไป
รางวัลที่ 1 เงินรางวัล 5,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัลจากกรุงเทพมหานครและของที่ระลึก
รางวัลที่ 2 เงินรางวัล 3,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัลจากกรุงเทพมหานครและของที่ระลึก
รางวัลที่ 3 เงินรางวัล 2,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัลจากกรุงเทพมหานครและของที่ระลึก
การสมัครและลงทะเบียน
นักกีฬาที่สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมแข่งขันได้บริเวณโซนเอาท์ดอร์ อันลิมิเต็ด
ศูนย์การค้าอัมรินทร์ พลาซ่า ชั้น 2
ปิดรับสมัครวันที่ 6 ตุลาคม 2553
เกี่ยวกับมูลนิธิกองทุนเพื่อสิ่งแวดล้อมไทย
Thai Environmental Corporation Foundation
เมล็ดพันธุ์เล็กๆ ที่เติบโตขึ้นเป็นไม้ใหญ่ที่ชื่อ มูลนิธิกองทุนเพื่อสิ่งแวดล้อมไทย มีพันธกิจอันสำคัญคือการสร้างเมล็ดพันธุ์ที่ดีของสังคมในทุกอณูทั่วประเทศ เพราะต้นไม้หลายๆ ต้น... เมื่อรวมกันก็เป็นป่าใหญ่อันสมบูรณ์ ยังประโยชน์ให้มนุษย์ทุกคน
ปรัชญา
เราตระหนักดีว่าปัญหาสิ่งแวดล้อมเริ่มต้นจากตัวมนุษย์ การแก้ปัญหาที่ยั่งยืนคือให้มนุษย์คืนความสมดุลให้กับธรรมชาติ
เป้าหมาย
สร้างและพัฒนาคนรุ่นใหม่เพื่อสนับสนุน ส่งเสริม และพัฒนาให้ชุมชนเข้มแข็งและสามารถรักษาจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืน
วิสัยทัศน์
สร้างพลังแห่งการอนุรักษ์ สำนึกแห่งสาธารณะ เพื่อสิ่งแวดล้อมยั่งยืน
วัตถุประสงค์
1. จัดกองทุนเพื่อการอนุรักษ์ และพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม
2. รณรงค์ปลูกจิตสำนึกแก่สาธารณชนในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม
3. สร้างหลักสูตรสิ่งแวดล้อมศึกษาสำหรับเยาวชน
4. เป็นศูนย์กลางในการเผยแพร่ข่าวสารสิ่งแวดล้อมแก่สาธารณชน
5. สร้างความร่วมมือในการจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
6. ช่วยเหลือเร่งด่วนแก่ผู้ประสบภัยธรรมชาติ
โครงการต่างๆ ของมูลนิธิฯ
โครงการรณรงค์แก้ไขภาวะโลกร้อน แม้ไทยจะเป็นประเทศเล็กๆ แต่ก็ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ปมากที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ดังนั้นพวกเราต้องร่วมลดภาวะโลกร้อนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ มูลนิธิฯ ดำเนินงานแบบการมีส่วนร่วมของสาธารณชนในการช่วยกันแก้ไขปัญหาโลกร้อน ผ่านการรณรงค์ในรูปแบบต่างๆ โดยเฉพาะการสร้างศูนย์ข้อมูลบนเว็บไซต์ วิจัยสภาวะสิ่งแวดล้อม และส่งเสิมการปลูกป่าทั่วประเทศ
โครงการกองทุนฉุกเฉินช่วยเหลือผู้ประสบภัยธรรมชาติ โครงการกองทุนฉุกเฉินเพื่อผู้ประสบภัยธรรมชาติ ดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัยธรรมชาติอย่างเร่งด่วน เพื่อลดความสูญเสียในด้านต่างๆ และเพื่อแก้ปัญหาในระยะยาวจึงมีการรณรงค์เผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับภัยธรรมชาติแก่สาธารณชน และร่วมกับองค์กรอื่นๆ และชุมชนในการซักซ้อมเมื่อเกิดภัยธรรมชาติ และค้นคว้าสาเหตุ เพื่อป้องกันชีวิตของมนุษย์ต่อภัยธรรมชาติในรูปแบบอื่นๆ ในอนาคต
โครงการห่มผ้าให้น้อง มุ่งในการสนับสนุนเครื่องนุ่มห่ม ยารักษาโรค ที่อยู่อาศัย และส่งเสริมอุปกรณ์การเรียนให้แก่ชุมชนห่างไกล และด้อยโอกาส ซึ่งได้มีการสำรวจความต้องการของชุมชนที่เห้นว่าขาดแคลนและต้องการปัจจัยต่างๆ ทั้งนี้ซึ่งได้ดำเนินงานร่วมกับชุมชนรวมถึงการสร้างความมั่นคงในชีวิต โดยการส่งเสริมอาชีพที่ใช้ทรัพยากรท้องถิ่นเป็นสำคัญ
มูลนิธิฯ ได้ดำเนินโครงการในชุมชนกว่า 20 ชุมชนในพื้นที่เขตภาคเหนือ เพื่อต้านภัยหนาว รวมไปถึงการปลุกจิตสำนึกให้ชุมชนร่วมกันอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม
โครงการห้องสมุดสีเขียวเพื่อน้อง “ปัจจุบันคนไทยอ่านหนังสือ 7 บรรทัดต่อปีเท่านั้น” จากข้อมูลสำนักงานสถิติแห่งชาติปี 2547
เพื่อมุ่งที่จะสร้างหรือปรับปรุงห้องสมุดในโรงเรียนที่ห่างไกลและขาดแคลนอย่างหนัก โดย ทำงานร่วมกับ พร้อมทั้งนำกระบวนการกิจกรรมที่จะกระตุ้นให้เกิดนิสัยรักการอ่าน และสร้างแกนนำโดยการทำงานร่วมกับชุมชนเพื่อให้ชุมชนสามารถจัดการบริหารห้องสมุดของตนเอง ได้อย่างยั่งยืน และสิ่งสำคัญคือการให้ชุมชนร่วมกันลงแรงสร้างห้องสมุดเพื่อให้เป็นห้องสมุดของชุมชน เพื่อชุมชน โดยชุมชน
โครงการอนุรักษ์พะยูน มูลนิธิฯ ร่วมกับองค์กรชุนชนและหน่วยงานต่างๆ ในการหาแนวทางในการอนุรักษ์พะยูนโดยให้ชุมชนเป็นกำลังหลัก โดย อีกทางยังจัดเวทีพะยูนสัญจรไปตามโรงเรียนต่างๆ เพื่อสอนเรื่องสิ่งแวดล้อมศึกษา ความสำคัญของระบบนิเวศน์ และปลุกจิตสำนึกให้ร่วมอนุรักษ์พะยูน รวมถึงจัดทำสื่อรณรงค์ต่างๆ
โครงการอาสาสมัครสีขียว อาสาสมัครสีเขียวคือ การรวบรวมกลุ่มคนที่มีใจรักสิ่งแวดล้อม ห่วงใยโลก ร่วมกันเดินทางศึกษาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ชุมชน ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากมนุษย์ ทั้งทางตรงและทางอ้อม รวมทั้งแลกเปลี่ยนความรู้ในวิชาแขนงต่างๆ ให้แก่เด็กๆ ในชุมชนห่างไกล เพื่อสร้างคนรุ่นใหม่ที่มีจิตใจสัมพันธ์กับธรรมชาติ และพร้อมจะดูแลธรรมชาติดุจดั่งบ้านของตนเอง
(บริษัท ชมรม กลุ่ม หรือบุคคล สนใจเป็นอาสาสมัครสีเขียว ติดต่อที่ 02-379-1075)