ก.ล.ต. ร่วมกับสมาคมบริษัทจัดการลงทุนสนับสนุนธุรกิจเงินร่วมลงทุน มุ่งส่งเสริมนวัตกรรมทางเทคโนโลยีในประเทศ

พฤหัส ๐๗ ตุลาคม ๒๐๑๐ ๑๕:๐๗
นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวภายหลังการประชุมประจำไตรมาสกับสมาคมบริษัทจัดการลงทุนถึงความคืบหน้าในเรื่องการพัฒนาธุรกิจจัดการลงทุน การยกระดับหลักเกณฑ์การลงทุนให้เป็นสากล รวมถึงการให้คำแนะนำและการขายหน่วยลงทุน ที่จะเป็นประโยชน์ต่อทั้งผู้ลงทุนและธุรกิจจัดการลงทุนโดยรวม โดยมีเรื่องที่สำคัญดังนี้

1. ปรับปรุงหลักเกณฑ์เพื่อส่งเสริมการทำธุรกิจเงินร่วมลงทุน (Venture Capital: VC) ก.ล.ต. แจ้งให้สมาคมทราบถึงแนวคิดที่จะปรับปรุงหลักเกณฑ์การกำกับดูแลธุรกิจเงินร่วมลงทุน (Venture Capital: VC) เพื่อขจัดอุปสรรคและขยายขอบเขตการลงทุนให้สามารถทำได้กว้างขวางขึ้น ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมให้นวัตกรรมทางเทคโนโลยีในภาคธุรกิจมีการพัฒนาและเติบโต เพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของประเทศ

เนื่องจาก VC เป็นธุรกิจที่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี หลักเกณฑ์เรื่องนี้เดิมจึงจำกัดประเภทธุรกิจที่ VC จะลงทุนได้ว่าต้องเป็น SMEs ที่มีลักษณะตามที่กำหนดเท่านั้น และยังกำหนดเงื่อนไขเรื่องระยะเวลาการลงทุนและการถอนเงินลงทุนไว้อย่างเคร่งครัด ทำให้ธุรกิจ VC ในประเทศไทยไม่เติบโตเท่าที่ควร

สำหรับหลักการที่ ก.ล.ต. แจ้งให้สมาคมทราบในวันนี้ได้ผ่านการหารือกับกรมสรรพากรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาแล้ว โดยต่อไปบริษัทจัดการร่วมลงทุน (บลท.) ที่ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจ VC จะขยายขอบเขตการลงทุนได้กว้างขวางมากขึ้น (ขยายเป็น Private Equity (PE)) โดยหาก VC ลงทุนในกิจการที่รัฐสนับสนุนเกินกว่า 70% VC จะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี ซึ่งในเบื้องต้นได้วางแนวสำหรับกิจการที่รัฐสนับสนุนไว้ ได้แก่ เป็นธุรกิจที่ใช้เทคโนโลยีเป็นฐานและอยู่ในประเภทอุตสาหกรรมที่ภาครัฐต้องการสนับสนุนโดยกองทุนต้องขึ้นทะเบียนกับ ก.ล.ต. ภายในปี 2557 มีขนาดกองทุนขั้นต่ำ 20 ล้านบาท และจะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีไม่เกิน 10 ปี เป็นต้น

2. ปรับปรุงหลักเกณฑ์การลงทุนของกองทุนรวมให้มีการกระจายความเสี่ยงมากขึ้นที่ประชุมได้มีการหารือกันถึงการปรับปรุงหลักเกณฑ์การลงทุนของกองทุนรวม โดยมีเป้าหมายที่จะยกระดับให้เทียบเท่ามาตรฐานสากล โดยในระยะแรก ก.ล.ต. จะปรับปรุงหลักเกณฑ์อัตราส่วนการลงทุนในส่วนของ company limit ให้เกิดการลงทุนที่กระจายตัวมากขึ้น โดยกองทุนรวมจะลงทุนในบริษัทใดบริษัทหนึ่งได้ไม่เกิน 15% ของ NAV (เดิมไม่เกิน 15-25%) และในอนาคตจะมีการทบทวนและพิจารณาให้มีการกระจายการลงทุนยิ่งขึ้นกว่านี้ เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานสากลต่อไป

3. เน้นย้ำ บลจ. และผู้ขายหน่วยลงทุนเตรียมความพร้อมการขายหน่วยลงทุนที่เหมาะสมกับลูกค้า (suitability) เนื่องด้วยหลักเกณฑ์การขายหน่วยลงทุนที่มีความเหมาะสมกับผู้ลงทุนจะมีผลใช้บังคับในวันที่ 1 กรกฎาคม 2554 ก.ล.ต. และสมาคมจึงขอเน้นย้ำให้ บลจ. และผู้ขายหน่วยลงทุนทั้งบริษัทหลักทรัพย์และบริษัทที่ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจ LBDU ซึ่งได้แก่ ธนาคารพาณิชย์และบริษัทประกัน เร่งเตรียมความพร้อมเกี่ยวกับระบบงานและบุคลากร ทำความเข้าใจเกี่ยวกับแนวทางในการเปิดเผยระดับความเสี่ยง (risk spectrum) ของกองทุนรวม หลักเกณฑ์ในการจัดระดับความเสี่ยงของการลงทุนในกองทุนรวมประเภทต่าง ๆ ทำความเข้าใจและจัดทำแบบสอบถาม รวมถึงหลักเกณฑ์ในการประเมินผลจากแบบสอบถาม เพื่อทำความรู้จักลูกค้าและประเมินความสามารถในการรับความเสี่ยงของลูกค้า (suitability) ได้อย่างถูกต้อง ซึ่งจะช่วยในการให้คำแนะนำและขายหน่วยลงทุนให้แก่ลูกค้าได้อย่างเหมาะสม

นายธีระชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า “ก.ล.ต. ได้แจ้งให้สมาคมทราบถึงนโยบายของ ก.ล.ต. ที่จะยกระดับหลักเกณฑ์ให้เทียบเท่ามาตรฐานสากลและส่งเสริมให้สามารถขยายการประกอบธุรกิจได้มากขึ้น เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในการจัดการและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของ บลจ. รองรับการเปิดเสรีใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ ก.ล.ต. จึงได้แก้ไขหลักเกณฑ์การประกอบธุรกิจเงินร่วมลงทุนและจะนำหลักเกณฑ์มาตรฐานสำหรับกองทุนที่สามารถเสนอขายข้ามประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรป (Undertakings for Collective Investment in Transferable Securities: UCITS) มาใช้เป็นแนวทางในการปรับปรุงหลักเกณฑ์ ซึ่งหลักเกณฑ์ดังกล่าวมุ่งคุ้มครองผู้ลงทุน มีความเป็นสากล และได้รับความนิยมจากหน่วยงานกำกับดูแลหลายแห่งในเอเชีย ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมและเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจแก่ บลจ. ก.ล.ต. จึงจะจัดอบรมความรู้ให้แก่ บลจ. ในเร็ว ๆ นี้ด้วย”

นางวรวรรณ ธาราภูมิ นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน กล่าวว่า “ สมาคมเห็นด้วยกับการปรับปรุงหลักเกณฑ์การกำกับดูแลให้เหมาะสมกับสภาพตลาดของไทยและเป็นมาตรฐานสากลที่ดีในที่สุด ซึ่งจะรองรับการเชื่อมโยงตลาดทุนในภูมิภาค การซื้อและขายหลักทรัพย์ข้ามชาติ และโอกาสที่จะมากับการเปิดเสรีใบอนุญาตการประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ที่กำลังมาถึง และสำหรับการทำความรู้จักลูกค้า และการขายหน่วยลงทุนให้เหมาะสมกับลูกค้า สมาคมได้เห็นประโยชน์และให้ความสำคัญอย่างมาก จึงได้ทำการซักซ้อมความเข้าใจกับสมาชิกตลอดมา และโดยที่กระบวนการเตรียมตัวในเรื่องนี้จะต้องใช้เวลา ดังนั้น บลจ. และ LBDU ที่ยังไม่ได้ดำเนินการจึงควรเริ่มเตรียมความพร้อมได้แล้ว เพื่อให้มีระบบงานและเอกสารที่พร้อมรวมถึงบุคลากรที่มีความเข้าใจในเรื่องดังกล่าวทันก่อนวันที่ 1 กรกฎาคม 2554 ทั้งนี้ สมาคมก็ได้มีการหารือกันถึงวิธีดำเนินการที่จะทำให้ผู้ลงทุนตระหนักถึงประโยชน์ของการให้ข้อมูลเพื่อประกอบการประเมิน suitability และรู้สึกว่าไม่เป็นภาระแก่ผู้ลงทุนจนเป็นอุปสรรคต่อการตัดสินใจลงทุน”

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version