แคนนอนเล็งเห็นว่า ตลาดโลกของอิงค์เจ็ทพริ้นเตอร์ ที่โรงงานแห่งใหม่จะดำเนินการผลิตนั้น มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก จึงเร่งมือในการสร้างระบบการผลิตอิงค์เจ็ทพริ้นเตอร์ที่สามารถรองรับความต้องการที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
มร.คาซูฮิโระ คิตามูระประธานกรรมการบริษัท แคนนอน ไฮ-เทค (ประเทศไทย) จำกัดกล่าวว่า “จากการที่ บริษัท แคนนอน ไฮ-เทค (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งมีโรงงานแห่งแรกตั้งอยู่ที่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้กำหนดสร้างโรงงานแห่งที่ 2 ณ จังหวัดนครราชสีมานั้น ถือเป็นอีกหนึ่งย่างก้าวสำคัญในการขยายการดำเนินธุรกิจในเชิงรุกอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง ของตลาดโลกที่มีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว”
บริษัทหวังเป็นอย่างยิ่งว่า โรงงานแห่งที่ 2 นี้ จะช่วยประสาน เพิ่มพูนผลประโยชน์ร่วมกันกับโรงงานในปัจจุบัน เช่น ในเรื่องการจัดหาชิ้นส่วน การใช้ประโยชน์จากสาธารณูปโภคพื้นฐานอย่างเต็มที่ ด้วยแรงงานฝีมือคุณภาพดีที่มีอย่างสมบูรณ์ครบครัน
โรงงานอิงค์เจ็ทพริ้นเตอร์แห่งใหม่นี้ ตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่า 160 ไร่ (257,000 ตารางเมตร) ณ อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา มีกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ภายใต้ระบบและกระบวนการผลิตที่ทันสมัยระดับโลกของแคนนอน โดยผลิตเพื่อส่งออก 100% มีกำลังการผลิตอยู่ที่ 5,500,000 เครื่องต่อปี
ประโยชน์ในเชิงเศรษฐกิจต่อประเทศไทย
การลงทุนของ บริษัท แคนนอน ไฮ-เทค (ประเทศไทย) จำกัด ไม่เพียงแต่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังเอื้อประโยชน์ในด้านต่างๆ เช่น การจัดหาชิ้นส่วน การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึง การเพิ่มอัตราการว่าจ้างที่จะช่วยสร้างรายได้ให้กับชุมชนท้องถิ่นทั่วประเทศ โดยมีแผนจ้างแรงงานท้องถิ่นสูงถึง 5,000 อัตรา
บริษัท แคนนอน ไฮ-เทค (ประเทศไทย) จำกัด ผลิต และส่งออกอิงค์เจ็ตพริ้นเตอร์ไปทั่วโลก และหลังจากสภาวะเศรษฐกิจมีแนวโน้มดีขึ้น ส่งผลให้ความต้องการอิงค์เจ็ตพริ้นเตอร์ในตลาดโลกเพิ่มสูงขึ้น โดยปลายปี พ.ศ. 2554 แคนนอนมีแผนที่จะเพิ่มขีดความสามารถในการผลิตและส่งออกพริ้นเตอร์ให้สูงยิ่งขึ้น