นายชัยยง กฤตผลชัย เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) กล่าวว่า สมอ.และสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย ในฐานะผู้ดำเนินโครงการฉลากเขียวของประเทศไทย ได้ร่วมกันจัดงานมหกรรมรวมพลังคนรักษ์โลกกับผลิตภัณฑ์ฉลากเขียว “Green Label For Smart Eco Trend” ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าและนิทรรศการผลิตภัณฑ์ฉลากเขียว เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ ได้รู้จัก เข้าใจ และเห็นความสำคัญของการร่วมกันรักษาสิ่งแวดล้อม ผ่านโครงการฉลากเขียว และรู้จักเครื่องหมายฉลากเขียวมากยิ่งขึ้น อีกทั้งให้ประชาชนหันมาเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีฉลากเขียว นอกจากนี้ยังให้ผู้ประกอบการรู้จัก และตระหนักถึงความสำคัญในการผลิตสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ภายในงานจะมีกิจกรรมการออกร้านผลิตภัณฑ์ฉลากเขียว บูธนิทรรศการ “ชุมชนคนรุ่นใหม่ ทันสมัย ห่วงใยสิ่งแวดล้อม” การแสดงดนตรีอันปลั๊ก พร้อมกับมีกิจกรรมให้ร่วมสนุกและลุ้นรับของรางวัลฟรีตลอดทั้งงาน โดยจะเริ่มจัดงานตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคม — วันที่ 14 พฤศจิกายน 2553 ที่ศูนย์การค้าชั้นนำทั่วกรุงเทพมหานคร ทั้ง 6 แห่ง ในวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ อาทิ สยามดิสคัฟเวอรี่ เซ็นทรัล บางนา เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน แฟชั่นไอส์แลนด์ เป็นต้น
เลขาธิการ สมอ. กล่าวเพิ่มเติมว่า ในการจัดงานดังกล่าว สมอ.ได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากศูนย์การค้าสยามดิสคัฟเวอรี่ และ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นองค์กรภาคเอกชนที่มีแนวคิดให้ความสำคัญกับการรักษาสิ่งแวดล้อมและพลังงาน และส่งเสริมการใช้ผลิตภัณฑ์และสินค้าฉลากเขียวอย่างเป็นรูปธรรม โดยศูนย์การค้าสยามดิสคัฟเวอรี่ ได้ดำเนินโครงการคัดแยกขยะรีไซเคิล ภายใน 4 อาคาร คือ สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ อาคารสำนักงานสยามทาวเวอร์ และสยามคาร์พาร์ค รวมทั้งศูนย์คัดแยกขยะรีไซเคิล ซึ่งสามารถคัดแยกขยะได้มากถึง 75 ตัน / ปี
สำหรับธนาคารไทยพาณิชย์ ก็ได้เข้าร่วมประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการและประชาชนตระหนักถึงความสำคัญของโครงการฉลากเขียวและการนำทรัพยากรธรรมชาติไปใช้อย่างคุ้มค่าที่สุด โดยธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ได้ให้ความสำคัญมาโดยตลอดและจะให้ความร่วมมือกับภาครัฐอย่างต่อเนื่อง เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสังคม
ด้าน ดร. ไชยยศ บุญญากิจ รองผู้อำนวยการสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัญหาสิ่งแวดล้อมนั้นหลักๆ นั้น เกิดจากมนุษย์ และเนื่องด้วยปัจจุบันได้จำนวนประชากรเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งส่งผลทำให้มีการบริโภคเพิ่มขึ้นเช่นกัน จึงเกิดปัญหาขยะที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นทุกปี ในปี 2552 ที่ผ่านมา มีปริมาณขยะมากถึง 15 ล้านตัน หรือ ประมาณ 4 หมื่นกว่าตัน/วัน ซึ่งหากไม่มีการกำจัดที่ถูกวิธีก็จะก่อให้เกิดปัญหาส่งกลิ่นเหม็นตามมาด้วยเช่นกัน และเพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงปัญหาขยะที่ส่งผลกระทบอย่างยิ่งต่อสิ่งแวดล้อม จึงได้มีการสนับสนุนให้ผู้ประกอบการได้ผลิตสินค้าและบริการที่มีคุณภาพ มาตรฐาน และส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยกว่าสินค้าอื่นที่มีคุณสมบัติเหมือนกัน หรือที่เรียกว่า “ผลิตภัณฑ์ฉลากเขียว” โดยคำนึงถึงผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมครอบคลุมถึงการออกแบบ การผลิตและการใช้งาน กระทั่งการทิ้งหลังใช้งานที่เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยกว่าผลิตภัณฑ์ทั่วไป พร้อมทั้งประหยัดพลังงานโดยมีการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ดังนั้นผลิตภัณฑ์ที่มีเครื่องหมายฉลากเขียว จึงให้ทั้งคุณภาพและเป็นมิตรกับ สิ่งแวดล้อมด้วย