ไทยโต้โผใหญ่จัดการประชุมสัมมนา “Latin Business Forum 2010” ครั้งแรกในประเทศไทย

อังคาร ๑๙ ตุลาคม ๒๐๑๐ ๑๕:๒๔
อาเซียนสานสัมพันธ์การค้ากับกลุ่มลาตินอเมริกา ไทยโต้โผใหญ่จัดการประชุมสัมมนา “Latin Business Forum 2010” ครั้งแรกในประเทศไทย หวังช่วยพลิกฟื้นเศรษฐกิจ และพัฒนาศักยภาพนักลงทุนไทยเพื่อบุกตลาดลาติน-อเมริกา

สำนักผู้แทนการค้าไทย กระทรวงการต่างประเทศ และศูนย์ SEA-LAC Trade Center มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ร่วมกันเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสัมมนา หัวข้อ “Latin Business Forum 2010” เป็นครั้งแรกของประเทศไทย โดยการประชุมสัมมนาครั้งนี้จะเป็นการรวมตัวของผู้แทนระดับสูงและผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุนในกลุ่มอาเซียนและลาติน-อเมริกา เพื่อให้ความรู้และข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับความสัมพันธ์ด้านการค้าและการลงทุนระหว่างไทย อาเซียน และกลุ่มประเทศลาติน-อเมริกา โดยหวังว่า การประชุมสัมมนาครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มในการพัฒนาเป็น Annual Platform ต่อไป เพื่อเป็นเวทีส่งเสริมให้ภาครัฐและภาคเอกชนไทยได้ตระหนักถึงความสำคัญของภูมิภาคลาตินอเมริกา ในฐานะเป็นภูมิภาคที่มีศักยภาพสูงที่จะเป็นแหล่งทรัพยากร ตลาดการค้าการลงทุนแห่งใหม่ของไทย และเป็นสะพานเชื่อมทางเศรษฐกิจต่อภูมิภาคอื่นที่มีความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับภูมิภาคลาตินอเมริกา รวมทั้งมีส่วนช่วยในการพลิกฟื้นเศรษฐกิจโลก

การจัดงานครั้งนี้จะจัดขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ ระหว่างเวลา ๐๘.๓๐ น. — ๑๘.๑๕ น. ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล โดยได้รับเกียรติจาก ฯพณฯ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดงาน เวลา ๐๙.๐๐น.-๐๙.๑๕ น. ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสำคัญที่ไทยมีต่อภูมิภาคลาตินอเมริกา และความตั้งใจจริงในการพัฒนาความสัมพันธ์เชิงลึกด้านการค้าและการลงทุนกับประเทศในภูมิภาคนี้ ทั้งนี้ ได้กำหนดกลุ่มเป้าหมายของผู้ร่วมงานฯ ไว้ ๕ กลุ่ม ได้แก่ ตัวแทนจากภาครัฐ ตัวแทนจากภาคเอกชน ตัวแทนจากภาคการศึกษา ตัวแทนจากองค์กรระหว่างประเทศ และสื่อมวลชน

วัตถุประสงค์หลักของการจัดงานสัมมนาครั้งนี้ คือ ๑) เพื่อพัฒนาเครือข่ายทางธุรกิจระหว่างสองภูมิภาคในภาครัฐ เอกชน และการศึกษา พร้อมทั้งสร้างความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจแบบยั่งยืน ๒) เพื่อร่วมกันสร้างสรรค์แนวคิดใหม่ทางการค้าการลงทุน สำหรับการวางแผนงานและพัฒนาเศรษฐกิจร่วมกันต่อไปในอนาคต ๓) เพื่อกระตุ้นความสนใจ ความรู้ ความเข้าใจทางทฤษฎีการค้าระหว่างประเทศ ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการเปิดเสรีทางการค้า และความเป็นไปได้ในการทำการค้าการลงทุนระหว่างกัน ซึ่งกลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ กลุ่มภาครัฐ เอกชน ภาคการศึกษา และสื่อมวลชน ๔) เพื่อร่วมกันหาแนวทางในเปิดตลาด และกลยุทธ์ทางการตลาดที่เหมาะสมในการทำการค้าการลงทุนระหว่างกลุ่มประเทศอาเซียนและกลุ่มประเทศลาตินอเมริกาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และ ๕) เพื่อเตรียมความพร้อมกับการเปิดเสรีทางการค้าโลกในระดับภูมิภาคและระดับประเทศระหว่างกลุ่มประเทศอาเซียนและกลุ่มประเทศลาตินอเมริกาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต”

การประชุมสัมมนาฯ จะแบ่งเป็น ๔ ส่วนหลัก ได้แก่ ส่วนที่ ๑) ผู้นำทางด้านเศรษฐกิจการค้าการลงทุนจากทั้งฝั่งลาตินอเมริกา และอาเซียน จะมาเปิดเผยถึงนโยบายทางเศรษฐกิจและความสัมพันธ์ระหว่างภูมิภาค และแนวโน้มทางเศรษฐกิจการค้าการลงทุน ส่วนที่ ๒) ผู้เชี่ยวชาญทางนโยบายการค้าเสรีจากทั้งอาเซียนและลาตินอเมริกา จะมาให้มุมมองถึงการปรับใช้ FTA กับการพัฒนากลยุทธ์การค้า พร้อมกับโอกาสและอุปสรรคที่สามารถเกิดขึ้นในการทำการค้าระหว่างสองภูมิภาค ส่วนที่ ๓) การให้ความรู้ศักยภาพทางการลงทุนระหว่างสองภูมิภาค ที่นักลงทุนไม่ควรมองข้าม และส่วนที่ ๔) นักธุรกิจชั้นนำผู้ผ่านประสบการณ์ทางการค้าระหว่างสองภูมิภาคจะมาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ของการพัฒนาธุรกิจการศึกษา โดยจะเน้นถึงวิธีรับมือกับวิกฤตเศรษฐกิจโลกที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน พร้อมกับการให้ความรู้เกี่ยวกับกลยุทธ์ที่เหมาะสมของการเปิดตลาดในลาตินอเมริกา และ กลยุทธ์ในการแข่งขันเพื่อเพิ่มการขับเคลื่อนทางการค้า

ผลที่คาดว่าจะได้รับจากการจัดการสัมมนาครั้งนี้ คือ ๑) จะมีความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุนระหว่างสองภูมิภาคนี้มากขึ้น บนพื้นฐานของการพัฒนาเศรษฐกิจร่วมกันอย่างสร้างสรรค์และยั่งยืน ๒) เกิดเครือข่ายทางธุรกิจระหว่างสองภูมิภาค ๓)มีการแลกเปลี่ยนกิจกรรมและความร่วมมือด้านสังคม วัฒนธรรม และการศึกษาระหว่างสองภูมิภาคมากขึ้น ๔) มีการแลกเปลี่ยนและเผยแพร่ความเรู้ในด้านต่างๆ ระหว่างสองภูมิภาคมากขึ้นในทุกระดับได้แก่ ระดับรัฐ ระดับองค์กร ระดับธุรกิจ และ ระดับประชาชน

หน่วยงานที่ให้การสนับสนุนการจัดงานครั้งนี้ ได้แก่ สถานเอกอัครราชทูตของกลุ่มประเทศลาตินอเมริกา จำนวน ๗ ประเทศ ได้แก่ อาร์เจนตินา เม็กซิโก ปานามา คิวบา บราซิล ชิลี และเปรู กระทรวงการต่างประเทศ กรมส่งเสริมการส่งออก กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าไทย ASEAN Foundation และธนาคาร Inter-American Development Bank (IDB) นอกจากนี้ยังได้รับการสนับสนุนจากภาคเอกชน ได้แก่ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย บริษัท Hunton&Williams ประจำสำนักงานกรุงเทพฯ บริษัทเบทาโกร ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม บริษัทสมบูรณ์ แอ๊ดวานซ์ เทคโนโลยี จำกัด บริษัทโอสถสภา อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด บริษัทแอร์โรคลาส จำกัด บริษัทง่วนสูน จำกัด บริษัทสแปน มารีน จำกัด บริษัท Kovic Kate (international) จำกัด และบริษัทไท้เฮง แมชชีนนารี จำกัด

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ