นายกฤษฎา ล่ำซำ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า จากการที่ทั่วโลกให้ความสำคัญกับภาวะโลกร้อน และรัฐบาลได้สนับสนุนเอกชนให้ใช้พลังงานทางเลือก (Renewable Energy) มาใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้า ซึ่งถือเป็นพลังงานที่มีความสะอาด ไม่ส่งผลกระทบต่อชุมชน สิ่งแวดล้อม และภาวะโลกร้อน ทำให้มีผู้สนใจลงทุนในการผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานทางเลือกมากขึ้น ในขณะที่ธนาคารกสิกรไทย ก็เป็นผู้นำในการให้คำปรึกษาและสนับสนุนด้านการเงินแก่โครงการผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานทางเลือกมาโดยตลอด
ล่าสุด ธนาคารได้ให้การสนับสนุนทางการเงินแก่กลุ่มบริษัท โซล่า เพาเวอร์ จำกัด เพื่อดำเนินโครงการผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ขนาด 6 เมกกะวัตต์ จำนวน 2 โครงการที่ จังหวัดสกลนคร และนครพนม รวมทั้งสิ้น 12 เมกกะวัตต์ โดยจะเป็นเงินกู้โครงการ (Project Finance) ซึ่งประกอบด้วยวงเงินกู้ระยะยาว วงเงินเพื่อเปิดเอกสารแอล/ซี และวงเงินเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน จำนวนรวม 2,000 ล้านบาท
นายกฤษฎา กล่าวเพิ่มเติมว่า ธนาคารเชื่อว่าจะมีเอกชนให้ความสนใจเข้ามาลงทุนในโครงการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานสะอาดมากขึ้น ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยมีแหล่งผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานที่หลากหลาย ช่วยสร้างความมั่นคงด้านพลังงานไฟฟ้าให้กับประเทศมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะที่ตั้งของประเทศไทยที่อยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตรทำให้มีแสงอาทิตย์และกระแสลมในการผลิตไฟฟ้าได้อย่างไม่จำกัด ซึ่งธนาคารกสิกรไทย ก็พร้อมที่จะสนับสนุนทางการเงินแก่ธุรกิจที่ใช้พลังงานทางเลือกอย่างต่อเนื่อง
ด้านนางสาววันดี กุญชรยาคง กรรมการผู้จัดการ บริษัท โซล่า เพาเวอร์ จำกัด เปิดเผยว่า โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ขนาด 6 เมกกะวัตต์ จำนวน 2 โครงการ ที่จังหวัดสกลนคร และ จังหวัดนครพนม มีกำลังการผลิตรวม 12 เมกกะวัตต์ นับเป็นโซล่า ฟาร์มแห่งที่ 2 และ 3 ของบริษัท โดยบริษัทฯ เลือกใช้เทคโนโลยีแผงเซลล์แสงอาทิตย์แบบ Polycrystalline ประสิทธิภาพดีเยี่ยมจากบริษัท เคียวเซร่า คอร์ปอเรชั่น (Kyocera Corporation) ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งโครงการโซล่าฟาร์มทั้งสองแห่งนี้จะผลิตไฟฟ้าและขายให้แก่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเช่นเดียวกับโครงการแรกที่นครราชสีมา
ทั้งนี้ กลุ่มโซล่า เพาเวอร์ มีแผนก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ ทั้งหมด 34 โครงการ ขนาดกำลังผลิตโครงการละ 6 เมกกะวัตต์ กำลังผลิตรวม 204 เมกกะวัตต์ ให้แล้วเสร็จภายในปี 2555 โดยได้แบ่งแผนพัฒนาโครงการเป็น 3 ระยะ คือ ระยะที่ 1 จำนวน 3 โครงการ ภายในปี 2553 ระยะที่ 2 จำนวน 13 โครงการ ภายในปี 2554 และ ระยะที่ 3 จำนวน 18 โครงการ ภายในปี 2555 และปัจจุบันได้บรรลุขั้นตอนสำคัญสำหรับแผนพัฒนาระยะที่ 1 เป็นที่เรียบร้อย โดยได้รับการสนับสนุนหลักจากสถาบันการเงิน ภาครัฐ และเอกชนทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งรวมถึง ธนาคารกสิกรไทย International Finance Corporation (IFC) ภายใต้ World Bank กระทรวงพลังงานโดยมูลนิธิพลังงานเพื่อสิ่งแวดล้อม การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค กลุ่มไทยฟ้า เพาเวอร์ และกลุ่มเคียวเซร่า คอร์ปอเรชั่นประเทศญี่ปุ่นในความร่วมมือเพื่อผลักดันการพัฒนาโครงการทั้งหมดตามแผนพัฒนาที่ตั้งไว้
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
ส่วนประชาสัมพันธ์ ธนาคารกสิกรไทย
1 ซอยกสิกรไทย ราษฎร์บูรณะ
กทม.10140
โทร.0 2470 2653-8