“กบข. ได้ลงนามรับหลักปฏิบัติการลงทุนด้วยความรับผิดชอบที่สหประชาชาติสนับสนุนมาตั้งแต่ปี 2549 และกำหนดกรอบการลงทุนว่าจะไม่ลงทุนในกิจการประเภทใดบ้าง และได้พิจารณาเรื่องธรรมาภิบาลของบริษัทแล้ว โดยจะขยายให้มีการพิจารณาเรื่องสิ่งแวดล้อมและสังคมในอนาคต”นางสาวโสภาวดีกล่าว
กบข. ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) และสมาคมบริษัทจัดการลงทุน จึงตกลงร่วมมือกันที่จะผลักดันให้นักลงทุนสถาบันในประเทศไทยมีการพิจารณาการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม สังคมและธรรมาภิบาลของบริษัทจดทะเบียนในกระบวนการตัดสินใจลงทุน ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการกำหนดแนวทางการทำงานร่วมกันต่อไป
ขณะที่นางวรวรรณ ธาราภูมิ นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน กล่าวว่า นักลงทุนและกิจการในประเทศไทยต้องให้ความสำคัญกับปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล เพราะนักลงทุนสถาบันในต่างประเทศส่วนใหญ่มีการพิจารณาปัจจัยดังกล่าวในการตัดสินใจลงทุนแล้ว และที่ผ่านมาก็ปรากฎหลักฐานอย่างชัดเจนว่า บริษัทที่มีธรรมาภิบาลให้ผลตอบแทนต่อผู้ลงทุนสูงกว่าบริษัทที่ไม่มีธรรมาภิบาลถึง 80% สมาคมบริษัทจัดการลงทุนจึงเชื่อว่าหากสมาชิกได้พิจารณาปัจจัยเหล่านี้ในการลงทุนจะช่วยสร้างผลตอบแทนที่ดีและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของกิจการด้วย
ด้านนายพันธ์ศักดิ์ เวชอนุรักษ์ รองกรรมการผู้อำนวยการ สถาบันกองทุนเพื่อพัฒนาตลาดทุน ตลท. กล่าวว่า ตลท. ยินดีให้ความร่วมมือกับ กบข. และสมาคมบริษัทจัดการลงทุนในการสนับสนุนให้บริษัทจดทะเบียนเปิดเผยข้อมูลการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม สังคมและธรรมาภิบาลอย่างถูกต้องตรงไปตรงมาทั้งที่เป็นแง่บวกและแง่ลบ เพื่อที่ผู้ลงทุนจะได้มีข้อมูลอย่างครบถ้วนเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจของบริษัทและใช้ในการตัดสินใจลงทุนต่อไป
ฝ่ายสื่อสารสมาชิก : ปุณยนุช จันทศร /เรืองอุไร เพชรสังข์ / ปิยะณัฐ สวนอภัย โทร. 02 636 1000 ต่อ263 /267 /254