“เหตุผลสำคัญที่ทำให้ราคายางปรับตัวสูงขึ้น เป็นผลจาก ได้รับอิทธิพลจากภาวะน้ำท่วมฉับพลันในหลายพื้นที่ทางภาคใต้ พื้นที่ปลูกยางเสียหายหลายหมื่นไร่ โดยเฉพาะ จ.สุราษฎร์ธานี จ.นครศรีธรรมราช จ.สงขลา และพัทลุง รวมถึงการปรับตัวสูงขึ้นแบบก้าวกระโดดของราคาตลาดล่วงหน้าในญี่ปุ่น สิงคโปร์ และเซี่ยงไฮ้ ที่ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ประกาศอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบภายใต้มาตรการผ่อนคลายทางการเงิน (QE) เพื่อช่วยกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ส่งผลให้สินค้าโภคภัณฑ์หลายรายการในตลาดโลกมีการปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก อยู่ที่บาร์เรล์ละ 86.95 ดอลล่าร์สหรัฐ /บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับที่สูงสุดในรอบปี และมีผลกระทบต่อเนื่อ มายังการปรับตัวของราคายางพารา” นายนิทัศน์ กล่าวในที่สุด
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
คุณอิสราพร กิจไพฑูรย์
ฝ่ายการตลาด
ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย (AFET)
โทร 0-2263-9888, 0-2251-9535 หรือ www.afet.or.th