พร้อมกันนี้ ยังได้ริเริ่มจัดสัมมนา “การวิเคราะห์สถานการณ์ปิโตรเลียมประจำปี ครั้งที่ 1” (1st PTT Group Annual Petroleum Outlook) ขึ้นเป็นครั้งแรก เพื่อเปิดตัวหน่วยงานดังกล่าว พร้อมกับเป็นช่องทางในการนำเสนอ
ผลงานและบทวิเคราะห์ต่างๆ ซึ่งจากนี้ไป จะมีการจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี
สำหรับกิจกรรมในปีแรกนี้ ได้จัดสัมมนาในหัวข้อ “ถอดรหัสราคาน้ำมัน ปี 2554” หรือ “2011 Decrypting The Oil Trend” ซึ่งประกอบด้วยการนำเสนอการวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์ตลาดน้ำมัน ปี 2554 โดยหน่วยวิเคราะห์สถานการณ์น้ำมันกลุ่ม ปตท. และการเสวนาโดยกูรูด้านเศรษฐกิจและพลังงานของประเทศ ได้แก่ ดร.ณอคุณ สิทธิพงศ์ ปลัดกระทรวงพลังงาน ดร.ปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด(มหาชน) นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน) และดร.เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เพื่อระดมสมองและแลกเปลี่ยนมุมมองสำหรับจัดเตรียมความพร้อมรองรับผลกระทบและความผันผวนของราคาน้ำมันสำหรับทิศทางราคาน้ำมันในปี 2554 หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์น้ำมันกลุ่ม ปตท. คาดว่า ราคาน้ำมันดิบในปี 2554 จะปรับเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มจะขยายตัวอย่างต่อเนื่องและไม่น่าจะกลับมาสู่ภาวะถดถอยอีก หลังจากรัฐบาลต่างๆ มีการออกมาตรการทั้งด้านการเงินและการคลัง เพื่อสร้างเสถียรภาพและกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันของโลกมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยความต้องการที่เพิ่มขึ้นนั้นกว่าครึ่งมาจากภูมิภาคเอเชีย โดยเฉพาะจากจีนและอินเดีย สวนทางกับความต้องการใช้น้ำมันของกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วที่อาจจะกลับไปหดตัวอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม แม้อุปสงค์น้ำมันโลกจะปรับเพิ่มขึ้น แต่อุปทานก็มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยเฉพาะปริมาณการผลิตน้ำมันดิบจากกลุ่มนอกโอเปกและก๊าซธรรมชาติของกลุ่มโอเปกที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น ส่งผลให้กลุ่มโอเปกยังจำเป็นต้องควบคุมกำลังการผลิตให้ใกล้เคียงกับปริมาณที่ผลิตได้ในปัจจุบัน เพื่อสร้างสมดุลทางด้านการตลาดนอกจากนั้น ปัจจัยแวดล้อมอื่นๆ ได้แก่ ปัจจัยเสี่ยงทางด้านเศรษฐกิจ การเคลื่อนย้ายเงินลงทุน ภูมิศาสตร์การเมืองระหว่างประเทศ กฎระเบียบข้อบังคับต่างๆ รวมถึงฤดูกาลที่ผันแปร ก็ล้วนเป็นตัวแปรสำคัญที่จะส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบในปี 2554 จะมีความผันผวนยิ่งขึ้นจากปัจจัยข้างต้น ทีมวิเคราะห์สถานการณ์น้ำมันกลุ่ม ปตท. ได้คาดการณ์ว่า น้ำมันดิบดูไบจะมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 83 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบราคา 75 — 90 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรลแต่อาจจะมีโอกาสแตะระดับ 100 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรลในระยะสั้นๆ หากมีปัจจัยอื่นที่ไม่คาดคิดหรือเกิดเหตุการณ์ที่รุนแรงกว่าที่คาดไว้ เช่น ภัยธรรมชาติ สงครามในตะวันออกกลาง เป็นต้น เข้ามาเกี่ยวข้อง
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02-649-7285 ฝ่ายสื่อสารองค์กร บมจ.ไออาร์พีซี