ที่เกิดขึ้นในหลายจังหวัดทำให้เกิดความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สิน เช่น บ้านเรือน เรือกสวนไร่นาของพี่น้องเกษตรกร รวมถึงสภาพแวดล้อมต่างๆ ด้วยเหตุนี้คณะทำงานบูรณาการบทบาทหญิงชาย ธ.ก.ส. จึงได้เชิญชวนให้พนักงานไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในลักษณะจิตอาสา ซึ่งมีพนักงานให้ความสนใจสมัครเข้าร่วมเดินทางไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยเป็นจำนวนมาก โดยครั้ แรกได้จัดกิจกรรมไปช่วยฟื้นฟูสภาพสิ่งแวดล้อมด้วยการทำความสะอาด เก็บกวาดเศษขยะปฏิกูลต่างๆ ที่โรงเรียนวัดน้อยและโรงเรียนวัดทอง ในเขตอำเภอนครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ในส่วนของ ธ.ก.ส. ได้ดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยไปแล้วหลายด้าน เช่น การมอบถุงยังชีพไปแล้วจำนวน 44,455 ครัวเรือน มูลค่ากว่า 9 ล้านบาท และการมอบเงินช่วยเหลือผ่านโครงการรัฐช่วยราษฎร์ จำนวน 1 ล้านบาท เป็นต้น ส่วนแนวทางในการแก้ไขปัญหาหลังน้ำลด ธ.ก.ส. จะเข้าไปสำรวจความเสียหายและให้ความช่วยเหลือตามความเดือดร้อน เช่น กรณีลูกค้าเสียชีวิตจากอุทกภัย ธ.ก.ส.จะจำหน่ายลูกหนี้ออกจากบัญชีเป็นหนี้สูญโดย ธ.ก.ส. รับภาระเอง กรณีลูกค้าประสบภัยร้ายแรง จะพักชำระหนี้เป็นระยะเวลา 3 ปี ตั้งแ ต่ปี 2553 — 2555 พร้อมงดคิดดอกเบี้ยในช่วงที่พักชำระหนี้ โดย ธ.ก.ส.จะขอชดเชยดอกเบี้ยดังกล่าวจากรัฐบาลแทนเกษตรกร ในอัตรา MRR-1 ซึ่งขณะนี้เท่ากับ ร้อยละ 5.75 ต่อปี นอกจากนี้จะให้เงินกู้ใหม่เพื่อไปฟื้นฟูการผลิตและพัฒนาคุณภาพชีวิตรายละไม่เกิน 100,000 บาท โดยลดอัตราดอกเบี้ยจากเงินกู้ปกติลงอีกร้อยละ 3 ต่อปี เป็นระยะเวลาไม่เกิน 3 ปี โดย ธ.ก.ส.จะขอชดเชยดอกเบี้ยดังกล่าวจากรัฐบาลร้อยละ 3 ต่อปี พร้อมกับการลดหย่อนหลักประกันการกู้เงิน เช่น ใช้อสังหาริมทรัพย์
เป็นประกัน จะขยายวงเงินให้กู้ได้ไม่เกินวงเงินจดทะเบียนจำนอง กรณีใช้กลุ่มลูกค้ารับรองรับผิดอย่างลูกหนี้ร่วมตั้งแต่ 5 คน ขึ้นไป จากเดิมกู้ได้ไม่เกิน 150,000 บาท เป็นไม่เกิน 200,000 บาท และมาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติมล่าสุด คือ การให้สินเชื่อใหม่แก่เกษตรกรลูกค้าชั้นดีเพื่อซ่อมแซมบ้าน/ยุ้งฉาง เครื่องมือก ารเกษตร ปีที่1-3 ดอกเบี้ย MRR-2 คิดเป็นร้อยละ 4.75ต่อปี โดยไม่คิดดอกเบี้ยใน 3 เดือนแรก ปีที่4-5 คิดดอกเบี้ย MRR-1 คิดเป็นร้อยละ 5.75 ต่อปี ปีที่ 6 ขึ้นไปคิดดอกเบี้ย MRR เท่ากับร้อยละ 6.25 ต่อปี นอกจากนี้ยังให้สินเชื่อแก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อซ่อมแซมปัจจัยพื้นฐานที่ถูกน้ำท่วมเสียหาย เช่น ถนน ประปา อาคาร เป็นต้น โดยคิดดอกเบี้ยในอัตราพิเศษ MLR-2.25 คิดเป็นร้อยละ 2.50 ต่อปี
สำหรับสถานการณ์ความเสียหายเบื้องต้นของเกษตรกรลูกค้า ธ.ก.ส. ณ วันที่ 8 พฤศจิกายน 2553 มีพื้นที่ประสบอุทกภัยทั้งสิ้น 52 จังหวัด จำนวนครัวเรือนที่ประสบภัย 494,638 ครัวเรือน การเกษตรที่ได้รับความเสียหาย เป็นนาข้าว 6,335, 868 ไร่ พืชอื่นๆ 1,678,168 ไร่ พื้นที่ประมง 25,477 ไร่ และสัตว์จำนวน 1,374,846 ตัว ทั้งนี้ได้มีเกษตรกรลูกค้า ธ.ก.ส. เสียชีวิต จำนวน 9 ราย ในพื้นที่ จังหวัด นครนายก 1 ราย นครราชสีมา 3 ราย สุพรรณบุรี 1 ราย นครสวรรค์ 1 ราย เพชรบูรณ์ 1 ราย และชัยภูมิ 2 ราย รวมต้นเงินกู้ 581,105 ดอกเบี้ย 43,922 บาท