ก.ล.ต. กล่าวโทษอดีตเจ้าหน้าที่ดูแลลูกค้าสถาบันของบริษัทหลักทรัพย์ ยูบีเอส (ประเทศไทย) จำกัด กรณีใช้ข้อมูลของลูกค้าเพื่อประโยชน์ของตนและพวก

พฤหัส ๑๑ พฤศจิกายน ๒๐๑๐ ๑๑:๐๘
ก.ล.ต. กล่าวโทษนายนำกฤติ จีรพุทธิรักษ์ อดีตเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบการดำเนินงานของบริษัทหลักทรัพย์ยูบีเอส (ประเทศไทย) จำกัด (“บล.ยูบีเอส”) กรณีกระทำการทุจริตต่อหน้าที่เพื่อแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายเพื่อตนเองหรือผู้อื่น พร้อมทั้งกล่าวโทษนายปวริศ ภัทร์วงศธร นางสาวมีนา กำแพงแก้วนายภัทร ธำรงวิทย์ นางสาวชลาลัย สาลิวรรธนะ นางสาวดวงเดือน ลิ้มสุธาโภชน์ และนางสาวรสธรกิตติคุณธนสาร เนื่องจากให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนการกระทำผิดของนายนำกฤติ

สืบเนื่องจาก ก.ล.ต. ได้รับแจ้งข้อสังเกตจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเกี่ยวกับพฤติกรรมน่าสงสัยของบุคลากรรายหนึ่งของ บล.ยูบีเอส ซึ่งรับผิดชอบการซื้อขายหลักทรัพย์ตามคำสั่งของลูกค้าสถาบันของบริษัทดังกล่าว

จากการตรวจสอบของ ก.ล.ต. พบพยานหลักฐานน่าเชื่อว่า ในช่วงระหว่างวันที่ 5 มกราคม 2552 ถึงวันที่13 ตุลาคม 2552 นายนำกฤติซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่าย International Equity Salesของ บล.ยูบีเอส และรับผิดชอบการให้บริการนายหน้าซื้อขายให้แก่ลูกค้าสถาบันในประเทศและต่างประเทศได้กระทำผิดต่อหน้าที่โดยทุจริต โดยอาศัยโอกาสจากการรู้ข้อมูลคำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์ของลูกค้าสถาบันนัดแนะกับพวกของตนให้เข้ามาจับคู่ซื้อขายกับลูกค้าของ บล.ยูบีเอส ในลักษณะเอาเปรียบและทำให้ลูกค้าเสียหาย โดยลูกค้า บล.ยูบีเอส ต้องซื้อหลักทรัพย์ในราคาแพงหรือขายหลักทรัพย์ได้ในราคาถูก ทั้งที่ในขณะนั้นในกระดานหลักของตลาดหลักทรัพย์ฯ มีผู้ให้ราคาเสนอขายหรือเสนอซื้อที่ดีกว่า แต่นายนำกฤติกับพวกกลับเป็นฝ่ายที่ได้รับประโยชน์จากราคาที่ดีที่สุดในตลาดหลักทรัพย์ฯ นั้นเอง

กล่าวคือ ในกรณีที่ลูกค้า บล.ยูบีเอส ต้องการขายหลักทรัพย์ แทนที่นายนำกฤติจะนำหลักทรัพย์ของลูกค้าไปขายให้กับผู้ให้ราคาเสนอซื้อที่ดีที่สุด (เสนอซื้อแพงสุด) ในกระดานหลักของตลาดหลักทรัพย์ฯ ในขณะนั้น นายนำกฤติกลับนำหลักทรัพย์ดังกล่าวไปจับคู่ขายให้กับพวกของตนโดยวิธี put through บนกระดานรายใหญ่(big lot board) หรือกระดานต่างประเทศ (foreign board) ในราคาที่ต่ำกว่าราคาที่มีเสนอซื้อในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในขณะนั้น และเมื่อจับคู่ซื้อขายแล้ว พวกของนายนำกฤติก็เป็นฝ่ายนำหลักทรัพย์ไปขายทำกำไรในกระดานหลักเสียเอง หรือในทางกลับกัน หากลูกค้า บล.ยูบีเอส ต้องการซื้อหลักทรัพย์ แทนที่นายนำกฤติจะเข้าไปซื้อหลักทรัพย์ดังกล่าวในกระดานหลักของตลาดหลักทรัพย์ฯ จากผู้เสนอขายที่ให้ราคาที่ดีที่สุด (เสนอขายถูกสุด) นายนำกฤติจะให้พวกของตนไปซื้อหลักทรัพย์ที่ราคาดังกล่าวในกระดานหลักแทน แล้วนำหลักทรัพย์นั้น

มาจับคู่ขายให้กับลูกค้า บล.ยูบีเอส ในราคาที่สูงขึ้นโดยวิธี put through บนกระดานรายใหญ่ หรือกระดานต่างประเทศ ด้วยเหตุนี้นายนำกฤติกับพวกจึงได้กำไรในทุกรายการที่เกี่ยวข้องกับการจับคู่ซื้อขายกับลูกค้าบล.ยูบีเอส โดยไม่มีความเสี่ยง

ก.ล.ต. ตรวจสอบพบพฤติกรรมข้างต้นของนายนำกฤติกับพวกรวมกว่า 600 รายการ ผ่านรายการซื้อขายที่มีมูลค่ากว่า 3,000 ล้านบาท และทำให้นายนำกฤติกับพวกได้รับกำไรเฉพาะจากส่วนต่างของราคาซื้อขายหลักทรัพย์ราว 37 ล้านบาท

ก.ล.ต. จึงได้กล่าวโทษนายนำกฤติกับพวก คือ นายปวริศ ภัทร์วงศธร นางสาวมีนา กำแพงแก้ว นายภัทรธำรงวิทย์ นางสาวชลาลัย สาลิวรรธนะ นางสาวดวงเดือน ลิ้มสุธาโภชน์ และนางสาวรสธร กิตติคุณธนสารซึ่งสมรู้ร่วมคิดหรือช่วยเหลือสนับสนุนกระทำการดังกล่าว อันเข้าข่ายเป็นความผิดตามมาตรา 311 และมาตรา 315 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษและเนื่องจากนายนำกฤติ จีรพุทธิรักษ์ นางสาวชลาลัย สาลิวรรธนะ นางสาวดวงเดือน ลิ้มสุธาโภชน์และนางสาวรสธร กิตติคุณธนสาร มีฐานะเป็นบุคคลที่ขึ้นทะเบียนเป็นบุคลากรในธุรกิจตลาดทุนอยู่ด้วยจึงต้องห้ามมิให้เข้ามาทำหน้าที่เป็นบุคลากรในตลาดทุนในระหว่างที่ถูกกล่าวโทษ โดย ก.ล.ต. ได้เพิกถอนการขึ้นทะเบียนของบุคคลทั้งสี่รายข้างต้นแล้ว

สำหรับ บล. ยูบีเอส ในกรณีนี้ เนื่องจากระบบของบริษัทไม่พบข้อผิดปกติแม้ว่ารายการข้างต้นจะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน ก.ล.ต. จึงได้สั่งให้บริษัททบทวนกลไกการกำกับดูแลภายในให้มีประสิทธิภาพและรัดกุมยิ่งขึ้น ซึ่ง ก.ล.ต. จะพิจารณาดำเนินการตามควรต่อไป ส่วนผู้ลงทุนสถาบันที่ได้รับผลกระทบจากการกระทำโดยทุจริตของนายนำกฤติ มีสิทธิที่จะเรียกร้องให้ บล.ยูบีเอส รับผิดชอบในการชดเชย

ความเสียหายอย่างเป็นธรรมได้ ซึ่ง ก.ล.ต. ได้รับแจ้งจาก บล.ยูบีเอสว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าวให้แก่ลูกค้า

นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า “ธุรกิจหลักทรัพย์เป็นธุรกิจที่ดำรงอยู่ได้บนความไว้วางใจของผู้ใช้บริการ การที่บุคลากรในธุรกิจหลักทรัพย์ซึ่งได้รับความไว้วางใจจากสาธารณชนกระทำทุจริตต่อหน้าที่เพื่อแสวงหาประโยชน์ให้กับตนเองหรือพวกพ้อง จึงเป็นพฤติกรรมที่ยอมรับไม่ได้เพราะการกระทำดังกล่าวมีผลมิใช่เพียงแค่ทำลายบ้านที่อาศัยของตนเองเท่านั้น แต่ยังกระทบต่อความน่าเชื่อถือของตลาดทุนโดยรวมด้วย จึงเป็นหน้าที่ของบริษัทหลักทรัพย์แต่ละแห่งที่จะต้องดูแลรักษาบ้านของตัวเองให้เรียบร้อยอยู่เสมอ และต้องไม่ละเลยหรือเพิกเฉยต่อการกระทำผิดของเจ้าหน้าที่ของตนเพื่อดำรงไว้ซึ่งมาตรฐานจรรยาบรรณในการดำเนินธุรกิจด้วยความซื่อสัตย์สุจริต”

ทั้งนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดกรณีดังกล่าวขึ้นอีก ก.ล.ต. ได้มีหนังสือเวียนกำชับบริษัทหลักทรัพย์ทุกแห่งให้เพิ่มความระมัดระวังและต้องมีระบบในการกำกับดูแลการปฏิบัติงานที่รัดกุมเข้มงวดมากยิ่งขึ้น

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ