ผลกระทบของวิกฤตเศรษฐกิจโลกต่อคนไทยกลุ่มต่างๆ

จันทร์ ๑๕ พฤศจิกายน ๒๐๑๐ ๑๓:๒๘
มูลนิธิร็อกกี้เฟลเลอร์ได้ให้ทุนวิจัยแก่สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย(ทีดีอาร์ไอ)ในการศึกษาผลกระทบของวิกฤติเศรษฐกิจโลกต่อคนไทยกลุ่มต่างๆ โดยคณะวิจัยของสถาบันฯ ได้นำเสนอผลการวิเคราะห์ที่โรงแรม ดิ เอมเมอรัล เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2553 โดยมี Ashvin Dayal, Managing Director, Asia Office The Rockefeller Foundation กล่าวนำเกี่ยวกับโครงการและรับฟังผลการศึกษา

ดร.นิพนธ์ พัวพงศกร ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทยเห็นว่า วิกฤติเศรษฐกิจโลกปี 2551-52 มีผลกระทบต่อผลผลิตมวลรวมประชาชาติ น้อยกว่าวิกฤติปี 2540-41 แต่มีผลต่อการส่งออกรุนแรงกว่าปี 2540-41 เพราะในปี 2551-52 ความต้องการของตลาดโลกลดลงทั่วโลก ขณะที่ในปี 2540-41 วิกฤติเกิดขึ้นภายในประเทศไทยเอง ตลาดโลกมิได้ซบเซา และการลอยตัวค่าเงินบาท ช่วยให้การส่งออกฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว

ถึงแม้ว่าการพยากรณ์เศรษฐกิจในกลางปี 2552 จะคาดว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐอาจช่วยให้เศรษฐกิจไทยติดลบน้อยลงเกือบร้อยละหนึ่ง แต่ในความเป็นจริง การเบิกจ่ายเงินกระตุ้นเศรษฐกิจที่ล่าช้า และต่ำกว่าเป้า ทำให้รายจ่ายของรัฐมีผลต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจค่อนข้างน้อย การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยส่วนใหญ่เกิดจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเศรษฐกิจเอเซีย และการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลทั่วโลก

การวิจัยได้สอบถามคนไทยกลุ่มต่างๆ รวมตั้งแต่ผู้ทำงานรับจ้าง ผู้ประกอบอาชีพอิสระ เกษตรกรและผู้ตกงานในจังหวัดชลบุรีและนครราชสีมา พบว่า วิกฤติเศรษฐกิจตอนปลายปี 2551 และต้นปี 2552 ทำให้ลูกจ้างได้รับเงินโอทีลดลง ต้องหยุดงานชั่วคราว และผลประโยชน์เช่นค่าอาหาร ค่ารถ ก็ถูกตัดออกไป ส่วนผู้ประกอบอาชีพอิสระทำมาค้าขายได้ลำบากขึ้น ผู้ที่ได้รับผลกระทบน้อยคือเกษตรกร ซึ่งได้ปรับตัวให้เข้ากับเหตุการณ์ง่ายกว่าลูกจ้าง นอกจากนี้ ภาคเกษตรยังช่วยเลี้ยงดูผู้ตกงานอีกด้วย

ดร. วรวรรณ ชาญด้วยวิทย์ กล่าวว่า ผลของวิกฤติเศรษฐกิจโลกต่อการจ้างงานในภาคอุตสาหกรรมค่อนข้างแรงในไตรมาส 1 และ 2 ของปี 2552 ในปัจจุบันภาวะการจ้างงานและการทำงานโอทีได้กลับเข้าสู่แนวโน้มปกติแล้ว แต่ความเสี่ยงจากเศรษฐกิจโลกก็ยังคงมีอยู่ ดังนั้น ภาคอุตสาหกรรมควรเตรียมพร้อมในการรับมือโดยเฉพาะความเสี่ยงในแต่ละรอบของวิกฤตินั้นมีเส้นทางต่างกัน ในปี 2251 เป็นยอดสั่งซื้อผลผลิตที่ลดลง แต่ในปัจจุบันเป็นความเสี่ยงด้านราคาสินค้าที่ถูกกระทบโดยอัตราแลกเปลี่ยน

ดร. ดิลกะ ลัทธพิพัฒน์ ศึกษาว่าการช่วยเหลือของรัฐด้วยโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจช่วยกระตุ้นการบริโภคได้พอควร จากการศึกษาพบว่าเงินที่อัดฉีดโดยตรงเข้าสู่คร้วเรือนผ่านโครงการเบี้ยผู้สูงอายุและเงินช่วยเหลือแบบให้เปล่า ทุกๆ 100 บาท จะช่วยเพิ่มการบริโภคครัวเรือนถึงประมาณ 60 บาท อย่างไรก็ตาม ครัวเรือนที่ยากจนได้รับประโยชน์จากโครงการอัดฉีดเงินเหล่านี้น้อยกว่าครัวเรือนฐานะปานกลาง เหตุผลสำคัญอย่างหนึ่งเป็นเพราะเงินช่วยเหลือแบบให้เปล่า เช่น เช็ค 2,000 บาท เข้าไปไม่ถึงผู้ที่มีรายได้น้อยซึ่งส่วนใหญ่ไม่อยู่ในระบบประกันสังคม นอกจากนั้นผลกระทบของนโยบายเรียนฟรี 15 ปี ซึ่งเริ่มใช้ในปี 2552 มีผลช่วยให้ค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาของครัวเรือนลดลงประมาณร้อยละ 13 การศึกษายังพบอีกว่าครัวเรือนที่มีรายได้ต่ำได้รับประโยชน์คิดเป็นสัดส่วนที่สูงกว่าครัวเรือนที่มีฐานะดี (ครัวเรือนจนที่สุด 10% ค่าใช้จ่ายลดลงประมาณร้อยละ 25 ในขณะที่ครัวเรือนรวยที่สุด 10% ลดลงประมาณร้อยละ 8)

ดร. ปัทมาวดิ ซูซูกิ คณบดี คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เห็นว่า นโยบายแก้ปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจในปี 2540 นั้นมีการพัฒนาระบบประกันสังคมและการลงทุนเพื่อสร้างความเข้มแข็งของชุมชน เพื่อรองรับคนตกงานจากวิกฤติ แต่ในปี 2551-52 มีความยากลำบากจากปัญหาทางการเมือง ความขัดแย้ง การคอร์รัปชั่น ทำให้นโยบายในการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างไปจากปี 2540 คือ มุ่งผลเร็วในการแก้ปัญหาโดยเน้นการใช้จ่ายในรูปเงินโอนและเงินอุดหนุน ซึ่งส่งผลเพียงระยะสั้น แม้จะมีการลงทุนในโครงการไทยเข้มแข็ง แต่โดยลักษณะโครงการก็จะส่งผลต่อสาขาการผลิตคือการก่อสร้าง ปูนซีเมนต์ การขนส่ง มากกว่าสาขาอื่นๆ

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๕ พ.ย. ดิ เอราวัณ กรุ๊ป เปิดตัว HOP NextGen ชวนนักศึกษาเยี่ยมชม ฮ็อป อินน์ เรียนรู้เทคนิคบริการแบบ Consistency is Yours พร้อมพัฒนาบุคลากรรุ่นใหม่
๑๕ พ.ย. คิง เพาเวอร์ ต้อนรับเทศกาลแห่งความสุขส่งท้ายปี เปิดแคมเปญ THE POWER OF FUNTASTIC CELEBRATION 2025 ฉลองทุกความสุข สนุกไม่รู้จบ
๑๕ พ.ย. พันธุ์ไทย ชวนแฟนด้อม คัลแลนและพี่จอง จุ่ม การ์ดพันธุ์ไทยใจฟู ลิมิเต็ด อิดิชั่น
๑๕ พ.ย. BAM ทรานส์ฟอร์มองค์กรสู่ DIGITAL ENTERPRISE ตอกย้ำผู้นำ AMC ยุค 4.0 วางเป้าหมายยกระดับองค์กรสร้างโอกาสเติบโตอย่างยั่งยืน เตรียมส่ง อิสระ เดอะซีรีส์ ชวนลูกหนี้ BAM
๑๕ พ.ย. บางจากฯ ได้รับการประเมินด้านความยั่งยืนอันดับสูงสุดของโลก จาก SP Global 2024 ในกลุ่มอุตสาหกรรม Oil Gas Refinery and
๑๔ พ.ย. ซีเอเค อินเตอร์เนชั่นแนล ออกบูธให้ความรู้เรื่องการใช้งานระบบดับเพลิงนร. พระหฤทัยนนทบุรี
๑๒ พ.ย. พนักงานซีเอเค อินเตอร์เนชั่นแนล รับรางวัลเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานดีเด่น
๑๕ พ.ย. PROSPECT REIT ชูไตรมาส 3/67 โตเกินเป้า อัตราการเช่าพุ่งนิวไฮ หนุนจ่ายปันผลเด่น 0.2160 บาท
๑๕ พ.ย. CHAO ประกาศงบ Q3/67 กำไรพุ่งกว่า 62% รับตลาดส่งออกพีค จีนโตเด่น แย้ม Q4 เดินหน้าบุกตลาดในประเทศ สินค้าใหม่หนุนยอดขายปลายปี
๑๕ พ.ย. ฉลองเทศกาลลอยกระทงประจำปี 2567 ณ โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ