นายสมพร ธีระโรจนพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีเอสไอ โฮลดิ้ง จำกัด ผู้นำด้านการผลิต และจำหน่ายอุปกรณ์ทีวีดาวเทียมรายใหญ่ในประเทศไทย ภายใต้แบรนด์ พีเอสไอ ( PSI : Poly Satellite Industry ) เปิดเผยว่า พีเอสไอ เจ้าของสโลแกน ชัดล้านเปอร์เซ็นต์ ครองส่วนแบ่งตลาดทีวีดาวเทียมในระบบ ซี แบนด์ เป็นอันดับ 1 ด้วยตัวเลข 80 เปอร์เซ็นต์ จากมูลค่าตลาดรวมประมาณ 7,000 — 8,000 ล้านบาทต่อปี โดยมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในอัตราเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 10 เปอร์เซ็นต์ต่อปี ด้วยอัตราการผลิตถึง 1.2 ล้านเครื่องต่อปี ปัจจุบันมีลูกค้าที่ใช้จานดาวเทียมของ พีเอสไอ อยู่ประมาณ 6 ล้านเครื่อง แบ่งเป็นเครื่องรุ่นเก่า หรือ S7 ประมาณ 4 ล้านเครื่อง และเครื่องรุ่นใหม่ หรือ โอทู ( O2 ) ประมาณ 2 ล้านเครื่อง พีเอสไอมีสำนักงานสาขาจำนวน 25 สาขาทั่วประเทศ มีตัวแทนจำหน่ายกว่า 250 ราย และผู้ให้บริการรายย่อยอีกกว่า 6,000 ราย ทั่วประเทศ
“ ในปีนี้ พีเอสไอ ได้ดำเนินกิจการมาเป็นระยะเวลา 20 ปีแล้ว การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ ถือเป็นการขอบคุณลูกค้า ที่ให้ความไว้วางใจ และเชื่อถือในสินค้า และบริการของ พีเอสไอ ทำให้บริษัทเจริญเติบโตมาอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบัน พีเอสไอ มีความพร้อมสูงสุดด้านบุคลากร และเทคโนโลยี โดยล่าสุดได้ทำการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ที่เรียกว่า OTA ( Over The Air ) เพื่อให้กล่องรับสัญญาณดาวเทียมของลูกค้าแบบเก่า หรือที่เรียกว่า S7 สามารถปรับตัวเอง เพื่อทำการค้นหาช่องสัญญาณและรายการทางทีวีดาวเทียมใหม่ๆได้อย่างต่อเนื่อง จึงทำให้บริษัทจัดแคมเปญนี้ขึ้นมา เพื่อให้ลูกค้ารายเก่าสามารถดูรายการใหม่ๆได้ โดยไม่ต้องลงทุนซื้อเครื่องใหม่ ถือเป็นการรับผิดชอบต่อลูกค้าเก่าในตลาด ซึ่งมีอยู่สูงถึง 4 ล้านกว่าเครื่อง ” นายสมพร กล่าว
ด้านนายภานุวัตน์ ผงสุวรรณกุล กรรมการบริหาร พีเอสไอ กล่าวเพิ่มเติมถึงรายละเอียดในแคมเปญใหญ่แห่งปี “ มหกรรมอัพเกรดฟรีทั่วไทย กล่องรับ PSI 4 ล้านเครื่อง ” ในครั้งนี้ว่า พีเอสไอ จะจัดคาราวานเดินสายแนะนำแคมเปญนี้ให้กับกลุ่มผู้ใช้จานดาวเทียมของ พีเอสไอ ทั่วประเทศ เพื่อรณรงค์ให้ผู้ใช้จานดาวเทียมระบบ ซี แบนด์ รุ่นเก่า ( S7 ) นำกล่องรับสัญญาณดาวเทียมไปอัพเกรดได้ฟรีที่ศูนย์บริการใกล้บ้านโดยเริ่มจากกรุงเทพมหานครก่อนในวันที่ 12 — 19 พฤศจิกายนนี้ และลูกค้าต่างจังหวัดในระหว่างวันที่ 15 — 23 พฤศจิกายนนี้ ลูกค้าสามารถนำกล่องรับสัญญาณไปอัพเกรดได้ที่ศูนย์บริการ หรือตัวแทนจำหน่าย กว่า 6,000 จุดทั่วประเทศฟรี ในช่วงเวลาที่กำหนดไว้ สำหรับลูกค้าที่ต้องการอัพเกรดหลังจากจบแคมเปญนี้แล้ว จะต้องเสียค่าบริการครั้งละประมาณ 200 บาท ซึ่งหวังค่าแคมเปญนี้สามารถทำให้ผู้บริโภคในตลาดประหยัดงบประมาณไปได้โดยรวมประมาณ 800 ล้านบาท นอกจากนี้ สำหรับผู้ที่ยังใช้เสาอากาศแบบเก่าอยู่ สามารถนำเสาอากาศ มาแลกจานดาวเทียมในระบบ OTA ได้ในราคาเพียง 2,900 บาท ในโอกาสนี้ได้อีกด้วย