นางสาวจารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายการตลาด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แอสเซท พลัส จำกัด กล่าวว่า ระหว่างวันที่ 18-21 พฤศจิกายน นี้ บริษัทฯ จะร่วมออกบูธในงาน SET in the City ณ รอยัล พารากอน ฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน ซึ่งในปีนี้ บลจ.แอสเซท พลัส ได้ร่วมออกบูธกับ บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) โดยจะอยู่บูธที่ B97-98 บริเวณ Hall 2-3
“ในปีนี้ บริษัทฯ ได้จัดโปรโมชั่นพิเศษให้กับผู้ที่ลงทุนในกองทุน LTF และ RMF เฉพาะกองทุนหุ้นและกองทุนผสม รับบัตรของขวัญจากเซ็นทรัล หรือโลตัส ตามยอดการลงทุนสุทธิสิ้นปี สูงสุด 12,000 บาท
นอกจากนี้ ทางบริษัทฯ ได้เพิ่มความสะดวกในการลงทุนให้กับผู้ลงทุน ด้วยการเปิดบริการชำระค่าซื้อกองทุน LTF และ RMF ผ่านบัตรเครดิตในเครือธนาคารกรุงศรีอยุธยา ได้แก่ บัตรเครดิตธนาคารกรุงศรีฯ บัตรเครดิตกรุงศรี โฮมโปร บัตรเครดิตเซ็นทรัล และ โรบินสัน ทั้งนี้ สำหรับผู้ลงทุนผ่านบัตรเครดิตดังกล่าว นอกจากจะได้รับบัตรของขวัญจากเซ็นทรัล และโลตัส สูงสุด 8,000 บาท แล้วยังได้รับตุ๊กตาน้องหมาจาก DAKS อีกด้วย สำหรับผู้ลงทุนในกองทุนอื่นๆ ในงานดังกล่าว ตั้งแต่ 10,000 บาท ขึ้นไป จะได้รับบัตรของขวัญจากสยามพารากอน สูงสุดมูลค่า 200 บาท เป็นการขอบคุณเพิ่มเติมด้วย ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่บูธในงาน หรือที่ Asset Plus Call Center 02-672-1111” นางสาวจารุลักษณ์ กล่าว
นางสาวจารุลักษณ์ กล่าวว่า แม้ว่า SET Index จะปรับตัวสูงขึ้นไปสู่ระดับ 1,000 จุด จนผู้ลงทุนอาจมองว่าสูงเกินไปหรือไม่นั้น ในแง่การลงทุนแล้วเชื่อว่า แนวโน้มตลาดหลักทรัพย์ยังอยู่ในระดับที่น่าสนใจลงทุนจากภาวะเศรษฐกิจไทยที่คาดว่าจะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในปีหน้า รวมถึงผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่คาดว่าจะขยายตัวตามรวมถึงการลงทุนเป็นการลงทุนระยะยาว และได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีให้กับนักลงทุนก่อนแล้ว ทำให้มูลค่าสินทรัพย์รวมของกองทุน LTF ในปีนี้น่าจะยังมีการเติบโตเช่นเดิม
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีกองทุน LTF และ RMF ให้เลือกลงทุนหลากหลายตามความต้องการของนักลงทุน สำหรับกองทุน LTF บริษัทฯ มีกองทุนเปิดแอสเซทพลัสหุ้นระยะยาว (ASP-LTF) ที่มีนโยบายจ่ายเงินปันผล เน้นลงทุนในหุ้นปัจจัยพื้นฐานดีที่มีขนาดใหญ่ ที่มีกระแสเงินสดสูง และมีศักยภาพในการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง จึงเหมาะกับผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนในหุ้น และสามารถลงทุนได้ระยะยาวตามเงื่อนไขของกองทุน และต้องการได้รับสิทธิประโยชน์ในการลดหย่อนภาษี ทั้งนี้ ผู้ลงทุนมีโอกาสรับผลตอบแทนจากกำไรจากการขายหน่วยลงทุน (Capital Gain) และผลตอบแทนจากเงินปันผลเพื่อเป็นกระแสเงินสดระหว่างช่วงที่ลงทุน
อีกหนึ่งกองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดแอสเซทพลัสหุ้นระยะยาวทวีกำไร (ASP-GLTF) ที่เน้นลงทุนในหุ้นปัจจัยพื้นฐานดีที่มีศักยภาพในการเพิ่มขึ้นของราคาสูงเมื่อเทียบกับตลาด (High beta stocks) โดยบางช่วงจังหวะอาจลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ที่มีกระแสเงินสดสูง และนโยบายการลงทุนที่มีความยืดหยุ่นจากการที่ผู้จัดการกองทุนสามารถพิจารณาใช้อนุพันธ์ในจังหวะที่เหมาะสม เพื่อช่วยลดความเสี่ยงของพอร์ตในภาวะตลาดหุ้นขาลง ทั้งนี้ กองทุนไม่มีนโยบายจ่ายเงินปันผล จึงเหมาะกับผู้ลงทุนที่ต้องการรับผลตอบแทนในรูปกำไรจากการขายหน่วยลงทุน (Capital Gain) ในระยะยาว
“กองทุน LTF ของบริษัท เน้นการบริหารกองทุนให้ได้ผลตอบแทนที่สม่ำเสมอ จากการเลือกลงทุนในหุ้นคุณภาพในจังหวะเวลาที่เหมาะสม และการบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสมกับแต่ละกองทุน ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานกองทุนนับตั้งแต่ต้นปี ณ วันที่ 29 ตุลาคม 2553 ของกองทุน ASP-LTF อยู่ที่ 35.11%* ต่อปี กองทุน ASP-GLTF อยูที่ 33.88%* ต่อปี ขณะที่ SET Index อยู่ที่ระดับ 34.04% ต่อปี” นางสาวจารุลักษณ์กล่าว
นางสาวจารุลักษณ์ กล่าวว่า สำหรับผู้ลงทุนที่เน้นการเก็บออมหลังเกษียณควรเลือกลงทุนในกองทุน RMF โดย กองทุนเปิดแอสเซทพลัสตราสารหนี้เพื่อการเลี้ยงชีพ (ASP-FRF) เป็นกองทุนตราสารหนี้ที่เน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล และตราสารหนี้เอกชนที่มีคุณภาพ จึงเหมาะกับผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงจากการลงทุนได้ต่ำ และต้องการโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีกว่าเงินฝาก
“ที่ผ่านมากองทุนเน้นการสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้นกู้เอกชนคุณภาพ ซึ่งช่วยเพิ่มผลตอบแทนในระยะยาวให้กับกองทุนเมื่อเปรียบเทียบกับการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลเพียงอย่างเดียว ส่งผลให้กองทุนมีผลการดำเนินงานย้อนหลัง ณ วันที่ 29 ตุลาคม 2553 นับตั้งแต่ต้นปี (YTD) ที่ระดับ 2.72% ต่อปี* ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่น่าสนใจ” นางสาวจารุลักษณ์กล่าว
สำหรับผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ในระดับปานกลางขอแนะนำให้ลงทุนใน กองทุนเปิดแอสเซทพลัสหุ้นผสมตราสารหนี้เพื่อการเลี้ยงชีพ (ASP-MRF) ซึ่งเป็นกองทุนผสมมีความยืดหยุ่นในการครองสัดส่วนในหุ้นและตราสารหนี้ได้ระหว่าง 0-100% ปัจจุบันพอร์ตการลงทุนเน้นลงทุนในหุ้นเพื่อเพิ่มผลตอบแทนให้กับกองทุนในระยะยาว โดยกองทุนสามารถกระจายการลงทุนในตราสารหนี้เพิ่มได้หากตลาดหุ้นไม่เอื้ออำนวยต่อการลงทุน ทั้งนี้ กองทุนมีผลการดำเนินงานย้อนหลัง ณ วันที่ 29 ตุลาคม 2553 นับตั้งแต่ต้นปี (YTD) ที่ระดับ 35.48% ต่อปี*
สำหรับผู้ลงทุนที่สามารถรับความเสี่ยงจากการลงทุนในหุ้นได้ ขอแนะนำลงทุนใน กองทุนเปิดแอสเซทพลัสตราสารทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ (ASP-ERF) ซึ่งเป็นกองทุนหุ้น เน้นลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ ที่มีกระแสเงินสดสูง มีปัจจัยพื้นฐานดี และมีศักยภาพในการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ กองทุนมีผลการดำเนินงานย้อนหลัง ณ วันที่ 29 ตุลาคม 2553 นับตั้งแต่ต้นปี (YTD) ที่ระดับ 34.35% ต่อปี
ติดต่อขอรับข้อมูลเพิ่มเติม
ผู้ลงทุนทั่วไป : Call Center 02-672-1111
สื่อมวลชน : ส่วนงานประชาสัมพันธ์
มุกพิม จุลพงศธร โทร. 02-672-1000 ต่อ 3308 อีเมล์: [email protected]