นางชวนพิศ ฉายเหมือนวงศ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท พี พลัส พี จำกัด (มหาชน) (PLUS) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานของบริษัทในไตรมาส 3/53 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2553 มีกำไรสุทธิ เพิ่มขึ้นร้อยละ 25.08 เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 3/52 ที่มีกำไรสุทธิ 5.94 ล้านบาท และในงวด 9เดือน เพิ่มขึ้นร้อยละ 377.32 เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันในปีก่อนที่มีผลขาดทุนสุทธิ 2.91 ล้านบาท
สาเหตุที่ทำให้ผลประกอบการของ PLUS พลิกขึ้นมาโชว์ตัวเลขที่น่าประทับในครั้งนี้เป็นเพราะ ในไตรมาส 3 ปี 2553 บริษัทมีรายได้ค่าโฆษณา 83.25 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 7.90 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 10.48
นอกจากนั้น บริษัทมีรายได้ค่าจ้างทำของ 20.92 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 3.28 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 18.57 และบริษัทมีต้นทุนผลิตรายการ 1.01 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 9.46 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 90.33
“ถือเป็นสัญญาณบวกของ PLUS จากผลประกอบการที่มีกำไรสุทธิในงวด 9 เดือนปีนี้ จากปีก่อนที่เคยขาดทุนสุทธิ ดังนั้นผู้ถือหุ้นและนักลงทุนคงจะอุ่นใจได้ในระดับหนึ่งแล้วว่าคณะผู้บริหารมีความตั้งใจที่จะเข้าทำงานจริง และขณะนี้บริษัทก็มีแนวโน้มที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีแรงหนุนสำคัญมาจาก บมจ.อควา คอร์เปอเรชั่น ซึ่งเป็นบริษัทลูก ที่ค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้นตามลำดับ เนื่องจากดำเนินธุรกิจเกี่ยวข้องกับสื่อโฆษณา ซึ่งได้รับผลบวกจากการฟื้นตัวทางด้านเศรษฐกิจของประเทศอย่างมาก ขณะเดียวกันยังมีทีมงานที่มีประสบการณ์ในการทำงานและเข้าใจถึงความต้องการของลูกค้า ทำให้รายได้จากการโฆษณาปรับตัวดีขึ้นตามลำดับ”
นางชวนพิศ กล่าวต่อในช่วงท้ายว่าจากปัจจัยพื้นฐานเดิมของ PLUS ที่เริ่มดีขึ้นตามลำดับแล้ว ในอนาคตภายหลังการเข้าไปลงทุนใน บริษัท โรงพิมพ์ตะวันออก จำกัด (มหาชน) (EPCO) จะยิ่งทำให้บริษัทมีความเข้มแข็งมากยิ่งขึ้นและกลายเป็นบริษัทจดทะเบียนที่มีปัจจัยพื้นฐานดีเยี่ยม เนื่องจาก EPCO เป็นบริษัทที่มีฐานะมั่นคงและผลประกอบการขยายตัวต่อเนื่อง อีกทั้งยังเป็นบริษัทที่จ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นสม่ำเสมอ และอยู่ในอันดับต้นๆ ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ที่มีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ค่อนข้างสูง นอกจากนั้นในอนาคตจะทำให้ผู้ถือหุ้นของ PLUS มีโอกาสได้รับเงินปันผลด้วย