“...เป็นที่น่าภาคภูมิใจว่า ประเทศไทยมีประวัติศาสตร์ด้านธุรกิจการพิมพ์เกิดขึ้นแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน โครงการความร่วมมือซึ่งจะร่วมมือกันในวันนี้ จึงเป็นความเพียรพยายามของภาครัฐและเอกชน เพื่อร่วมมือกันพัฒนาผลงานและเพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถในการดำเนินงานของทั้งสองหน่วยงานทางด้านอุตสาหกรรมการพิมพ์ ซึ่งจะสามารถยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมการพิมพ์ทั้งระบบให้ทัดเทียมกับต่างประเทศได้ อันจะนำมาซึ่งรายได้ของประเทศที่สูงตามมาด้วย” ผู้ว่าการ วว. กล่าว
นางเกษมศรี หอมชื่น กล่าวต่อว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีผู้ประกอบการธุรกิจ อุตสากรรมการพิมพ์สาขาต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย และมีขอบข่ายกว้างขวาง ดังจะเห็นได้จากการรวมตัวกันในหมู่ผู้ประกอบการด้านการพิมพ์ ความก้าวหน้าทางการพิมพ์มรด้านต่างๆ ทำให้เกิดการแข่งขันสูงขึ้น การนำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ เพื่อการพัฒนาอุตสาหกรรมการพิมพ์จึงมีความเหมาะสม สมาคมการพิมพ์ไทยมีความถนัดด้านวัตถุดิบและการจัดทำรูปแบบสิ่งพิมพ์ แต่มาตรฐานของโลกในปัจจบุนต้องการมากกว่านั้น เช่น คุณภาพของสีที่ใช้พิมพ์ คุณภาพวัสดุที่ใช้พิมพ์ว่ามีปัญหาต่อสิ่งแวดล้อมไหม สามารถรีไซเคิลได้หรือไม่ โดย วว. มีความพร้อมให้บริการด้านการทดสอบ/วิเคราะห์/วิจัย โดยเฉพาะการตรวจสอบความเข้มแข็งของบรรจุภัณฑ์และมาตรฐานสีตามกฎระเบียบสารเคมีใหม่แห่งสหภาพยุโรป (Registration, Evaluation, Authorisation and Restriction of Chemical หรือ REACH) ซึ่งประเทศไทยเป็นประเทศผู้ใช้สารเคมีในห่วงโซ่อุปทาน สินค้าหรือผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีเป็นส่วนประกอบจะถูกส่งไปขายในประเทศต่างๆ ต้องถูกควบคุมด้วยกฎระเบียบดังกล่าว
นอกจากนี้ วว. ยังให้คำปรึกษาแนะนำเกี่ยวกับการจัดทำระบบคุณภาพตามมาตรฐาน ISO การแลกเปลี่ยนข่าวสาร เพื่อการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์สู่กลุ่มเป้าหมาย และด้วยบทบาทหน้าที่ ศักยภาพ และความพร้อมของทั้งสองหน่วยงาน เชื่อมั่นว่าจะนำมาซึ่งการพัฒนาเครือข่ายผู้ประกอบการอุตสาหกรรมการพิมพ์ให้เข้มแข็งได้
นายพรชัย รัตนชัยกานนท์ นายกสมาคมการพิมพ์ไทย กล่าวว่า สมาคมการพิมพ์ไทยจะริเริ่มจัดตั้งห้องปฏิบัติการการพิมพ์เป็นของตัวเอง โดยจะใช้ศักยภาพของ วว. เป็นพี่เลี้ยงในการดำเนินการ ซึ่งจะช่วยพัฒนาอุตสาหกรรมการพิมพ์ของประเทศ ให้สามารถแข่งขันได้ในระดับนานาชาติทั้งนี้ห้องปฏิบัติการการพิมพ์จะช่วยให้สามารถพัฒนาคุณภาพเรื่องหมึกพิมพ์ กระดาษพิมพ์ รวมทั้งมาตรฐานต่างๆที่เกี่ยวข้องกับระบบการพิมพ์ ซึ่ง วว. มีความพร้อมด้านเครื่องมืออุปกรณ์ บุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญด้านนี้ ความร่วมมือดังกล่าวจะนำมาซึ่งการเพิ่มศักยภาพการแข่งขันด้านการส่งออกของอุตสาหกรรมการพิมพ์ของไทย
นายเกรียงไกร เธียรนุกูล คณะกรรมการบริหาร วว. กล่าวเพิ่มเติมว่า สมาคมการพิมพ์ไทยมีความก้าวหน้าในกลุ่มผู้ส่งออกสิ่งพิมพ์นอกประเทศ โดยมีมูลค่าการส่งออกในปี 2552 จำนวน 50,000 ล้านบาท โดยสิ่งที่จะทำให้อุตสาหกรรมการพิมพ์คงอยู่ก็คือ เรื่องของคุณภาพ และการคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ วว. มีความแข็งแกร่งด้านการบรรจุภัณฑ์ และการวิเคราะห์/ทดสอบ/สอบเทียบและด้านมาตรฐานต่างๆ ความร่วมมือครั้งนี้จะทำให้อุตสาหกรรมการพิมพ์ของไทยสามารถแข่งขันกับต่างประเทศ เป็นการพัฒนาอุตสาหกรรมตั้งแต่ต้นน้ำ บำบัดของเสียจากโรงงาน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ครบวงจรและช่วยพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งพิมพ์ของประเทศต่อไปขอบเขตความร่วมมือทางวิชาการดังกล่าว หน่วยงานทั้งสองจะร่วมจัดทำแนวทางข้อตกลงต่างๆ เกี่ยวกับรายละเอียดของกิจกรรม แผนการดำเนินงาน เพื่อให้แผนการดำเนินงานเกิดความสอดคล้องระหว่างองค์กรทั้งสอง พร้อมทั้งจะให้การสนับสนุนในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารทางวิชาการที่จะสามารถเปิดเผยได้ ตลอดจนเผยแพร่ประชาสัมพันธ์สู่กลุ่มเป้าหมาย
ทั้งนี้ วว. จะดำเนินการวิเคราะห์ ทดสอบตัวอย่าง ที่ได้รับจากสมาคมการพิมพ์ไทย ตามขีดความสามารถของ วว. และตามวิธีมาตรฐานสากลที่เหมาะสม ตลอดจนรับผิดชอบในการออกใบรายงานผลตามมาตรฐานของ วว. พร้อมนี้ วว. จะให้คำปรึกษาแก่สมาคมการพิมพ์ไทย เกี่ยวกับการจัดทำระบบคุณภาพห้องปฏิบัติการตามมาตรฐาน ISO/IEC 17025 โดยศูนย์ทดสอบและมาตรวิทยา วว.
อนึ่ง ศูนย์ทดสอบและมาตรวิทยา วว. มีหน้าที่รับผิดชอบให้บริการทดสอบและวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์ และวัตถุดิบที่ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมเพื่อการส่งออก และเพื่อการรับรองมาตรฐานสินค้าตามมาตรฐานต่างๆ รวมทั้งให้บริการสอบเทียบเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ แบ่งการดำเนินงานออกเป็น 6 ห้องปฏิบัติการหลัก ดังนี้ ห้องปฏิบัติการมาตรฐานทางไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ห้องปฏิบัติการทางแสงและอุณหภูมิ ห้องปฏิบัติการมาตรฐานวิศวกรรมทางกล ห้องปฏิบัติการทดสอบทางฟิสิกส์ห้องปฏิบัติการเคมีวิเคราะห์ และห้องปฏิบัติการชีวเคมีและจุลชีววิทยา
ติดต่อขอรับบริการด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของ วว. ได้ที่ Call center โทร. 0 2579 3000 หรือที่โทร. 0 2577 9000 โทรสาร 0 2577 9009 ในวันและเวลาราชการ www.tistr.or.th E-mail : [email protected]