ธนาคารความดี-ธนาคารเวลา ปลูกจิตสำนึกสร้างชุมชนสุขภาวะ

จันทร์ ๒๒ พฤศจิกายน ๒๐๑๐ ๐๙:๕๖
การนำแนวคิดเรื่องสุขภาพและคุณภาพชีวิตมาบูรณาการเป็นโครงการและกิจกรรมต่างๆ เพื่อสร้างสุขภาวะครอบคลุมทั้ง 4 มิติ ได้แก่ กาย จิต สังคม และปัญญา ทำให้องค์การบริหารส่วนตำบลปากพูนกลายเป็น “ศูนย์เรียนรู้ต้นแบบเพื่อการพัฒนาสู่ตำบลสุขภาวะ”

โดยทาง สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้เข้ามาเพิ่มศักยภาพของท้องถิ่นเพื่อที่จะขยายผลการดำเนินงานของ “ศูนย์เรียนรู้ต้นแบบ” ให้เป็นศูนย์ฝึกอบรมเรื่อง “การบูรณาการสู่ตำบลสุขภาวะ” แก่เครือข่ายองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่นๆ ภายใต้ “โครงการพัฒนาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อการจัดการสุขภาวะโดยชุมชน” โดยมีฐานการเรียนรู้ต่างๆ มากมายที่สอดคล้องกับความต้องการของชุมชนทุกเพศทุกวัย

นายธนาวุฒิ ถาวรพราหมณ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลปากพูน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ทาง สสส. ได้เข้ามาสนับสนุนงบประมาณในการจัดกระบวนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เพื่อให้เราเป็นศูนย์เรียนรู้กับองค์กรบริหารส่วนท้องถิ่นอื่นๆ การที่เราเป็นศูนย์เรียนรู้ ก็เท่ากับว่าช่วยให้เราได้เรียนรู้ แลกเปลี่ยนกับชุมชนอื่นๆ และได้พัฒนาตนเองมากขึ้น เป็นโอกาสดีที่จะทำให้ชุมชนพัฒนาตนเองมากขึ้น

“การที่จะขยายผลแนวคิดเหล่านี้ไปสู่ชุมชนอื่นได้นั้น จะต้องเริ่มต้นจากการที่ให้เขาได้มาเห็นของจริง มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ สิ่งต่างๆ เหล่านี้จะสร้างแรงจูงใจและแรงบันดาลใจ ให้เขากลับไปออกแบบโครงการหรือกิจกรรมที่เหมาะสมและสอดคล้องกับบริบทของท้องถิ่นของตนเอง เพราะที่ปากพูนเราไม่ได้นำเสนอในเรื่องของกิจกรรม แต่เรานำเสนอในเรื่องของแนวความคิดว่า กิจกรรมหรือโครงการอย่างนี้เกิดขึ้นมาเพราะว่าเราคิดอย่างไร ซึ่งเราให้ความสำคัญกับความคิดชุมชนด้วย แล้วจึงออกมาเป็นนโยบายหรือกิจกรรมต่างๆ ที่ชุมชนขับเคลื่อนร่วมไปกับทาง อบต.” นายธนาวุฒิกล่าว

ตัวอย่างกิจกรรมที่สร้างจิตสำนึกให้คนชุมชนให้เห็นคุณค่าของการทำความดี อุทิศตัวทำงานเพื่อชุมชน พร้อมทั้งปลูกจิตสำนึกในการทำความดีให้กับเด็กและเยาวชน โดยเชื่อมโยงกับกิจกรรมต่างๆ ของโรงเรียนวัยใสหัวใจซุกซน และกิจกรรมต่างๆ ของอบต. ภายใต้ชื่อว่า “ธนาคารความดี” และ “ธนาคารเวลา” ซึ่งตั้งอยู่ที่ “ร้านค้าเวลาดี” ที่ทาง อบต.ปากพูน เปิดขึ้นเพื่อจำหน่ายสินค้าของกินของใช้ อุปกรณ์การเรียน ของเด็กเล่น ให้แก่สมาชิก โดยเงินไม่สามารถใช้ซื้อสินค้าภายในร้านได้ นอกจาก “คะแนน” ที่ได้มาจากความดีและเวลาที่เสียสละทำงานเพื่อชุมชนมาแลกสิ่งของที่ต้องการ

คุณลุงสุจินต์ ดึงไตรย์ภพ อายุ 67 ปี ผู้จัดการร้านค้าเวลาดี ชาวบ้านจิตอาสาที่มาช่วยดูแลงานด้านสวัสดิการชุมชนให้กับ อบต.ปากพูน เล่าให้ฟังว่าร้านค้าแห่งนี้เกิดขึ้นจากกองทุนสวัสดิการชุมชน โดยมีสมาชิกกว่า 7,000 คน และสินค้าภายในร้านส่วนหนึ่งมาจากการบริจาคของคนในชุมชน โดยสินค้าทุกอย่างไม่ขายแต่จะให้สมาชิกในชุมชนนำเอาคะแนนที่สะสมไว้ในสมุดบัญชีธนาคารความดีและธนาคารเวลามาแลกซื้อไปโดยไม่ต้องเสียเงิน

“สมาชิกของกองทุนฯ จะมีสมุดบัญชีสะสมคะแนนความดีและเวลา ถ้าเป็นผู้ใหญ่ก็ทำความดีด้วยการช่วยเหลือชุมชนในด้านต่างๆ หรือสละเวลาไปช่วยงานหรือกิจกรรมเพื่อส่วนรวม ก็จะลงรายละเอียดไว้ในสมุดแล้วก็จะนำไปให้ นายก อบต. หรือผู้ที่มีอำนาจลงนามรับรองก็จะได้รับคะแนนสะสมเก็บไว้ ส่วนเด็กและเยาวชนเงื่อนไขจะไม่ยุ่งยาก เพียงแค่ขยันไปเรียนหนังสือทุกวัน เรียนพิเศษยามว่าง หรือแม้แต่ช่วยงานพ่อแม่ที่บ้านโดยให้คุณครูหรือผู้ปกครองเซ็นรับรอง ก็จะได้รับคะแนนความดีสะสมไว้ในสมุด เมื่ออยากจะได้อะไรในร้านก็เอาคะแนนความดีมาแลกคูปองเพื่อไปซื้อสินค้าต่างๆ ที่ต้องการ” ลุงสุจินต์เล่าถึงรูปแบบของร้านค้า

เด็กชายไชยวัฒน์ พุทธสารพันธ์ หรือ “น้องแมน” อายุ 11 ปี นักเรียนชั้น ป.4 โรงเรียนวัดศรีมงคล เล่าถึงวิธีการสะสมคะแนนความดีว่า เมื่อมาเรียนหนังสือที่โรงเรียน ก็จะให้ครูประจำชั้นเป็นผู้เซ็นรับรอง หรือถ้าช่วยพ่อกับแม่ทำงานบ้านก็จะสามารถได้รับคะแนนสะสมเช่นกัน

“เริ่มสะสมคะแนนด้วยการจดบันทึกการทำความดีต่างๆ ไว้ในสมุดมาตั้งแต่ ป.3 ถ้าอยากจะได้อะไรในร้านก็นำเอาคะแนนไปแลกคูปองมาแลกสินค้าภายในร้าน วันนี้แลกของที่อยากได้หมดแล้ว แต่ก็สะสมคะแนนเพิ่มได้อีกถ้าตั้งใจไปเรียนหนังสือทุกวัน” น้องแมนบอก

เด็กชายจักรกฤษณ์ ขันอ่อน หรือ “น้องนุ” อายุ 12 ปี นักเรียนชั้น ป.6 โรงเรียนไตรภูมิวิทยา เล่าให้ฟังว่านอกจากไปเรียนหนังสือตามปกติแล้ว ยังสามารถสะสมคะแนนได้จากการมาเรียนพิเศษในช่วงหลังเลิกเรียนหรือในวันเสาร์อาทิตย์ที่โรงเรียนวัยใสหัวใจซุกซน ซึ่งวันนี้น้องนุมีคะแนนสะสมมากถึง 157 คะแนน

“ช่วงปิดเทอมก็จะมีการเรียนพิเศษวิชาต่างๆ หรือไปทำกิจกรรมเช่นนักสืบสายน้ำ ก็จะได้สะสมคะแนนเก็บไว้ เช่นมาเรียนหนังสือหรือทำงานนักสืบสายน้ำก็จะได้คะแนนความดีชั่วโมงละ 3 คะแนน วันนี้จะเอาคะแนนที่สะสมได้มาแลกอุปกรณ์การเรียนเช่นสมุดภาพวาดและดินสอสีต่างๆ” น้องนุบอก

ด้าน เด็กหญิงภันทิรา หนูคูขุด หรือ “น้องกัน” อายุ 10 ปี นักเรียนชั้น ป.5 โรงเรียนห้วยไทร เล่าให้ฟังพร้อมกับอุ้มตุ๊กตาตัวใหญ่ที่แลกมาด้วยคะแนนความดีของตัวเองว่า“คะแนนที่ได้มาจากการที่ขยันไปเรียนหนังสือทุกวันไม่เคยขาดเรียน ถึงจะเอาคะแนนแลกคูปองไปหมดแล้วแต่ก็สามารถสะสมเพิ่มได้ใหม่ แค่ตั้งใจไปเรียนหนังสือ” น้องกันบอก

ทันตแพทย์กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ ผู้จัดการสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ กล่าวถึงแนวทางการสร้างสุขภาวะของชุมชนปากพูนว่า ทาง อบต.ปากพูนมีจุดเด่นในเรื่องของการเชื่อมโยงการทำงานทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม การศึกษา การพัฒนาเด็ก สุขภาพ คุณภาพชีวิต ฯลฯ นำประเด็นเหล่านี้มารวมเข้าด้วยกันและเชื่อมโยงกันจนเกิดประโยชน์กับทุกคนชุมชน โดยที่ให้คนชุมชนมีส่วนร่วมในทุกๆ กระบวนการทำงาน

“การนำเอาความต้องการของชุมชนเป็นตัวตั้ง แล้วนำมาออกแบบเป็นกิจกรรมทั้งหมด ทำให้ตำบลปากพูนเป็นศูนย์การเรียนรู้ต้นแบบในด้านการพัฒนาเป็นตำบลสุขภาวะที่น่าสนใจมาก เพราะในปัจจุบันเรามีตำบลต้นแบบ 18 แห่งทั่วประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเราสามารถขยายผลการดำเนินงานออกไปในหลายๆ ตำบล ให้ชุมชนในลักษณะนี้เกิดขึ้นทั่วประเทศ ก็จะทำให้คนไทยและประเทศไทยมีความสุขมากยิ่งขึ้น” ผู้จัดการ สสส. กล่าวสรุป.

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ