นายอำพล โพธิ์โลหะกุล รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ญี่ปุ่นนับเป็นประเทศที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทยมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง โดยมีบริษัทญี่ปุ่นที่จดทะเบียนในประเทศไทยมากกว่า 1,300 บริษัท และมีมูลค่าการลงทุนสูงถึง 730,000 ล้านบาท คิดเป็น 40% ของมูลค่าการลงทุนจากต่างประเทศในไทยทั้งหมด และมีแนวโน้มจะขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีชาวญี่ปุ่นทำงานและอาศัยอยู่ในประเทศไทยมากกว่า 100,000 คน นับเป็นชุมชนชาวต่างประเทศในไทยขนาดใหญ่ที่มีรูปแบบการใช้ชีวิตและรสนิยมเฉพาะตัว และมีกำลังซื้อสูง
ดังนั้น เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ชาวญี่ปุ่นที่ทำงานและอาศัยอยู่ในประเทศไทย ธนาคารกสิกรไทยจึงได้เปิดตัวบัตรเครดิตแพลทินัมพิเศษ ออกแบบเพื่อลูกค้าญี่ปุ่นในประเทศไทยโดยเฉพาะ ซึ่งนอกจากจะมอบสิทธิประโยชน์ที่หลากหลายเช่นเดียวกับบัตรเพลทินัมกสิกรไทยปกติแล้ว บัตรดังกล่าวยังมอบสิทธิพิเศษเพิ่มเติม ที่สอดคล้องกับรูปแบบการใช้ชีวิตของคนญี่ปุ่นอีกด้วย เช่น ส่วนลดพิเศษในร้านอาหาร ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านค้า และแหล่งกิจกรรมต่าง ๆ อาทิ สนามไดรฟกอล์ฟ ร้านคาราโอเกะ และสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ฯลฯ ซึ่งครอบคลุมสถานที่สำคัญที่เป็นที่นิยมสำหรับคนญี่ปุ่นในประเทศไทย
นอกจากนี้เพื่อช่วยลดปัญหาเรื่องการสื่อสาร ธนาคาร ฯ ได้อำนวยความสะดวกเพิ่มเติมให้แก่ลูกค้าผู้ถือบัตรชาวญี่ปุ่นโดยการจัดทำเอกสารแจ้งข้อมูลเป็นภาษาญี่ปุ่น และการจัดตั้งคอลเซ็นเตอร์ภาษาญี่ปุ่นโดยเฉพาะ จึงเชื่อว่าบัตรดังกล่าวจะได้รับความสนใจจากลูกค้าชาวญี่ปุ่นในไทยเป็นอย่างดี เพราะผู้ถือบัตรจะได้รับทั้งสิทธิประโยชน์ตรงตามไลฟสไตล์ พร้อมความสะดวกสูงสุดในเรื่องบริการและการสื่อสาร ลูกค้าชาวญี่ปุ่นผู้สนใจสามารถติดต่อขอข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Japanese Call Center 02 888 8826
นายอำพล กล่าวในตอนท้ายว่า ที่ผ่านมาชาวญี่ปุ่นที่เข้ามาทำงานและพักอาศัยในประเทศไทย มักจะถือบัตรเครดิตจากต่างประเทศ และมีบางส่วนทำบัตรเครดิตในไทย ซึ่งจะไม่ได้รับความสะดวกและสิทธิประโยชน์จากรายการส่งเสริมการขายที่ตรงความต้องการ เมื่อมีปัญหาในการใช้จ่ายก็ไม่สามารถสื่อสารกับเจ้าหน้าที่เพื่อแก้ปัญหาได้อย่างสะดวก ดังนั้นบัตรเครดิตแพลทินัมพิเศษของธนาคารกสิกรไทย จึงเป็นบัตรเครดิตใบแรกที่จะสามารถตอบสนองความต้องการของชาวญี่ปุ่นในไทยได้ครบวงจร
ด้านนายมูเนโนริ ยามาดา ประธานองค์การส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (Japan External Trade Organization: JETRO) เปิดเผยว่า ประเทศญี่ปุ่น ยังให้ความสนใจที่จะขยายและเข้ามาลงทุนเพิ่มในไทยอย่างต่อเนื่องเพื่อใช้ไทยเป็นฐานการผลิตและเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ระดับภูมิภาคขององค์กรธุรกิจต่าง ๆ ในหลายอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์ เนื่องจากไทยมีทำเลที่ตั้งที่เป็นประตูไปสู่ตลาดสำคัญของภูมิภาคและของโลก และคาดว่าในปีนี้การลงทุนจากญี่ปุ่นในไทยจะเพิ่มขึ้นจากปีก่อนกว่า 76% หรือคิดเป็นมูลค่าการลงทุนที่เพิ่มขึ้นประมาณ 34,000 ล้านบาท สวนทางกับประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคที่คาดว่าจะมีเม็ดเงินจากญี่ปุ่นเข้าไปลงทุนลดลงเกือบครึ่ง
จากการที่องค์กรธุรกิจของญี่ปุ่นเข้ามาลงทุนในไทยเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้มีชาวญี่ปุ่นเข้ามาอาศัยเป็นชุมชนขนาดใหญ่ในประเทศไทย ซึ่งการออกบัตรเครดิตแพลทินัมพิเศษสำหรับชาวญี่ปุ่น โดยธนาคารกสิกรไทยในครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกและเป็นก้าวสำคัญของสถาบันการเงินของไทย ที่มีการออกแบบผลิตภัณฑ์เพื่อชาวญี่ปุ่นในไทยโดยเฉพาะ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อทั้งชาวญี่ปุ่นและองค์กรธุรกิจญี่ปุ่นในไทยอย่างยิ่ง