รศ.ดร.ชนงกรณ์ กุณฑลบุตร คณบดีคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล(มทร.)ธัญบุรี เปิดเผยว่า จากนโยบายของรัฐบาลส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการศึกษาในภูมิภาคอาเซียน หรือฮับการศึกษาอาเซียนนั้น คณะบริหารธุรกิจ มทร.ธัญบุรี ได้มีการวางนโยบาย แนวทางในการสนับสนุนการเป็นฮับการศึกษาอาเซียน
โดยขณะนี้นอกจากมีการเปิดหลักสูตรนานาชาติที่สอนเป็นภาษาอังกฤษระดับปริญญาตรี 4สาขา ได้แก่ สาขาการตลาด สาขาระบบสารสนเทศทางคอมพิวเตอร์ สาขาบริหารธุรกิจระหว่างประเทศ และสาขาภาษาอังกฤษธุรกิจแล้ว ยังได้มีการทำความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยในต่างประเทศ เพื่อส่งนักศึกษาไปเรียนร่วม และฝึกงานที่ประเทศต่างๆ รวมถึงมีการปรับพื้นฐาน เพิ่มเติมทักษะทางด้านภาษาอังกฤษ แก่นักศึกษาทั้งในส่วนของนักศึกษาไทยในหลักสูตรปกติ และหลักสูตรนานาชาติ
โดยในแต่ละชั่วโมงเรียน จะเน้นการเรียนให้นักศึกษาเป็นศูนย์กลาง นำเสนอรายงานเป็นภาษาอังกฤษ มีการจัดกิจกรรมในรูปแบบภาษาอังกฤษเพื่อให้นักศึกษาได้เข้ามามีส่วนร่วม เช่น สัปดาห์ภาษาอังกฤษ หรือโซนภาษาอังกฤษ เพื่อให้นักศึกษามีความคุ้นเคยกับการใช้ภาษาอังกฤษและเปิดโอกาสให้นักศึกษาต่างชาติมาเรียนในไทยมากขึ้นซึ่งตอนนี้มีเข้ามาเรียนประมาณ 10 % โดยเป็นนักศึกษาจากในภูมิภาคอาเซียน และยุโรป อาทิ นศ.จากประเทศจีน เวียดนาม เยอรมัน ออสเตเลีย เป็นต้น
“อนาคต โลกจะเปิดกว้างมากขึ้น ทุกประเทศจะเชื่อมโยงกัน ดังนั้น หากเด็กไทยของเรายังขาดทักษะทางด้านภาษาก็จะสู้กับเด็กในชาติอื่นไม่ได้ ทางคณะบริหารธุรกิจ จึงพยายามเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้ไปเรียนร่วม หรือฝึกงานในต่างประเทศ รวมถึงเพิ่มเติมทักษะทางด้านภาษา แต่ต้องยอมรับว่าปัจจุบันมีนักศึกษาอีกจำนวนมากที่ยังไม่เข้าใจการเตรียมความพร้อมสู่การเป็นฮับการศึกษาอาเซียนทำให้พวกเขาไม่สนใจหรือเตรียมพร้อม พัฒนาตนเอง เพื่อทำงานในโลกที่กำลังจะเปลี่ยนแปลงไป โดยดูได้จากเวลาจะส่งนักศึกษาไปเรียนร่วม หรือฝึกงานในต่างประเทศ หากไป2-3 อาทิตย์จะไม่มีปัญหา แต่หากไปเป็นเดือนๆนักศึกษาจะปฎิเสธ ไม่อยากไป”คณบดีคณะบริหารธุรกิจ กล่าว
ทั้งนี้ การไปฝึกงาน เรียนร่วมในต่างประเทศ จะเป็นการเปิดโลกทัศน์ มุมมอง และการใช้ทักษะภาษาได้เป็นอย่างดี เพราะฉะนั้นหากจะมีการผลักดันมหาวิทยาลัย คณะให้มีความพร้อมในการก้าวสู่ฮับการศึกษาอาเซียนอย่างจริงจัง นอกจากมหาวิทยาลัย คณะต้องมีการเปิดหลักสูตรที่มีคุณภาพ รองรับนักศึกษาต่างชาติแล้ว หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องทำความเข้าใจแก่นักศึกษาไทย กระตุ้นให้เกิดความตื่นตัว
อยากเรียนรู้ภาษา สนใจการเรียน ฝึกงานในต่างประเทศ ไม่เช่นนั้นอนาคต บัณฑิตไทยจะตกงานมากขึ้น เพราะไม่สามารถแข่งขันกับบัณฑิตจากประเทศอื่นได้