นายชุมพล ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า การประชุมติดตามในครั้งนี้ สามารถสรุปผลการประชุมได้ดังนี้ 1) กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรรมการติดตามเร่งรัดพัฒนาการกีฬาและนันทนาการ เพิ่มเติม ในคำสั่งที่ 633/2553 ลงวันที่ 27 ตุลาคม 2553 จำนวน 2 ราย คือ นายสุพล ศรีพันธุ์ อธิบดีกรมการท่องเที่ยว และนายสุรพล เศวตเศรนี ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เป็นกรรมการเพิ่มเติม เพื่อหวังผลในการทำงานเชิงบูรณาการด้านการท่องเที่ยวและกีฬาในเชิงรุกต่อไป 2) เร่งการเบิกจ่ายงบประมาณประจำปี 2554 ของหน่วยงานในสังกัด ให้ได้เป้าหมายอัตราการเบิกจ่ายสะสม ในไตรมาสที่ 1 ร้อยละ 20 ของงบประมาณที่ได้รับ ตามมติครม. โดยสถาบันการพลศึกษา ได้รับงบประมาณ 2,014,684,800 บาท มีผลการเบิกจ่ายภาพรวมในขณะนี้ คิดเป็นร้อยละ 11.93 การกีฬาแห่งประเทศไทย ได้รับงบประมาณ 3,636,753,800 บาท มีผลการเบิกจ่ายภาพรวมในขณะนี้ คิดเป็นร้อยละ 17.60 และกรมพลศึกษา ได้รับงบประมาณ 1,887,561,600 บาท มีผลการเบิกจ่ายภาพรวมในขณะนี้ คิดเป็นร้อยละ 5.71 3)นาย บรรหาร ศิลปอาชา ที่ปรึกษารมว.กก. ได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาและผู้ว่าการการกีฬาแห่ง ประเทศไทย สรุปผลการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 16(กวางโจวเกมส์) เสนอนายกรัฐมนตรีและครม. เกี่ยวกับผลงานภาพรวม สาเหตุการได้เหรียญทองไม่เป็นไปตามเป้าหมาย การขอรับงบประมาณสนับสนุนจากรัฐบาลในการพัฒนากีฬาชาติเพิ่มขึ้น ศึกษารูปแบบการพัฒนานักกีฬาของจีนทั้งในแง่โภชนาการและวิทยาศาสตร์การกีฬามาพัฒนานักกีฬาของไทยอย่างจริงจัง และให้นำเสนอสิ่งที่ควรปรับปรุงจากการแข่งขันกีฬาในครั้งนี้ 4)นาย บรรหาร ศิลปอาชา ที่ปรึกษารมว.กก. ขอชี้แจงว่า ตนเองไม่ได้พูดว่าจะสนับสนุนงบประมาณส่วนตัว ให้แก่กีฬาเทคควันโด ที่ได้เหรียญรางวัลเหรียญละ 1 ล้านบาทแต่ประการใด หากแต่การได้รับเงินรางวัล จะต้องเป็นไปตามกฏเกณฑ์ของการกีฬาแห่งประเทศไทย ที่ตนเองจะเร่งรัดให้ได้รับเงินรางวัลอย่างรวดเร็วขึ้น 5)มอบหมายให้สถาบันการพลศึกษา เร่งจัดทำแผนพัฒนาการกีฬาของประเทศไทย ในลักษณะที่ครบวงจรและมีหลักวิชาการ ที่ประกอบด้วย แผนหลัก (Master Plan) แผนปฎิบัติการ(Action Plan) แผนควบคุม(Management Control Plan) และแผนติดตามและประเมินผล(Follow Up Plan) ทั้งนี้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะต้องยึดหลักการข้างต้นในการจัดทำแผนงาน/โครงการ/กิจกรรมทางด้านกีฬาอย่าง เป็นระบบ โดยเฉพาะการจัดทำงบประมาณปี 2555 ซึ่งจะต้องเริ่มต้น จัดทำตั้งแต่ มกราคม 2554 นี้แล้ว 6) สำหรับการแข่งขันกีฬาเอเชียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 10 ระหว่างวันที่ 12-19 ธันวาคม 2553 ณ เมืองกวางโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยการกีฬาแห่งประเทศไทย จะจัดส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขัน จำนวน 202 คน โดยมีเป้าหมายในการได้เหรียญทอง 65-70 เหรียญทอง ใน 16 ชนิดกีฬา โดยเฉพาะกีฬาประเภทบุคคลจากกรีฑาวีลแชร์เรซซิ่ง และว่ายน้ำ และมีความคาดหวัง จะได้อันดับที่ 2 จากการแข่งขันภาพรวมในครั้งนี้ หากจะเป็นรองก็เป็นรองจากประเทศจีนเท่านั้น ทั้งนี้ ช่วงวันที่ 17-19 ธันวาคม 2553 นายบรรหาร ศิลปอาชา ที่ปรึกษารมว.กก. และนายชุมพล ศิลปอาชา รมว.กก. จะเดินทางไปเยี่ยมและให้กำลังใจนักกีฬาไทยด้วย 7)สำหรับ ความคืบหน้าของการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันเอเชี่ยนบีชเกมส์ ครั้งที่ 4 พศ. 2557 ณ จังหวัดภูเก็ต ในวงเงินงบประมาณ 550 ล้านบาท กระทรวง การท่องเที่ยวและกีฬา โดยการกีฬาแห่งประเทศไทย จะทำจัดกิจกรรม นิทรรศการเกี่ยวกับประเทศไทย และการประชาสัมพันธ์การเป็นเจ้าภาพให้ประเทศสมาชิก ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ณ ประเทศโอมาน ในการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนบีชเกมส์ ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 8-16 ธันวาคม 2553 อีกทั้งในวันที่ 15-18 มกราคม 2554 นายชีค อาหมัด อัลฟาฮัท อัลซบาร์ ประธานโอซีเอ(President of the Olympic Council of Asia) จะเดินทางมาเยือนประเทศไทยและจังหวัดภูเก็ตด้วย 8) การกีฬาแห่งประเทศไทย กำหนดจัดการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 39 ระหว่างวันที่ 9-19 ธันวาคม 2553 ณ จังหวัดชลบุรี จำนวน 39 ชนิดกีฬา และ 1 กีฬาสาธิต(วู้ดบอล) คาดว่าจะมีนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ เข้าร่วม จำนวน 13,615 คน โดยใช้งบประมาณทั้งสิ้น 130 ล้านบาท 9)รมว.กก. ได้มอบนโยบายเพิ่มเติม ในการดูแลนักกีฬา และสมาคมกีฬาต่างๆให้มีการพัฒนาที่ดีขึ้น และมีความเป็นสากลขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งลดการร้องเรียน ฟ้องร้องต่างๆให้มีจำนวนน้อยที่สุด 10)นัดหมายการประชุมครั้งต่อไป สำหรับการประชุมคณะกรรรมการติดตามเร่งรัดพัฒนาการกีฬาและนันทนาการ ครั้งที่ 11/2553 ในวันศุกร์ที่ 24 ธันวาคม 2553 เวลา 9.30 น. ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 2 กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวปิดท้ายว่า ตนเองมั่นใจว่านักกีฬาไทย จะสามารถคว้าเหรียญทองมาให้ชาวไทยได้ชื่นชม จำนวน 11-12 เหรียญทอง ในศึกกวางโจวเกมส์ อาจ จะคาดเคลื่อนจากเป้าหมายที่วางไว้จำนวน 15 เหรียญทอง ประมาณ 3-4 เหรียญทองเท่านั้น ซึ่งในขณะนี้ ประเทศไทย ได้เหรียญทอง 7 เหรียญ เหรียญเงิน 7 เหรียญ เหรียญทองแดง 25 เหรียญ และคาดว่าจะกวาดเหรียญทอง ได้เพิ่มอีก 3-4 เหรียญทอง จากการแข่งขันตระกร้อ ประเภทชายและหญิง จำนวน 2 เหรียญ การแข่งขันมวยสากล ประเภทชายและหญิง จำนวน 2 เหรียญ และกรีฑา จำนวน 1 เหรียญ ซึ่งนักกีฬาที่ได้รับเหรียญทอง จะได้รับเงินรางวัลคนละ 1 ล้านบาท เหรียญเงิน จะได้รับเงินรางวัลคนละ 500,000 บาท เหรียญทองแดง จะได้รับเงินรางวัลคนละ 200,000 บาท คาดว่าจะต้องจ่ายเงินรางวัล เป็นเงินทั้งสิ้น 94,370,000 บาท ในขณะนี้กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติพร้อมจ่ายแล้ว และขอแสดงความยินดีสำหรับนักกีฬาชาวไทยที่ได้รับเหรียญรางวัลครั้งนี้ อีกทั้งขอให้นักกีฬา เจ้าหน้าที่ สื่อมวลชน และผู้ที่เกี่ยวข้อง เดินทางกลับประเทศไทย หลังสิ้นสุดการแข่งขันในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2553 ด้วยรอยยิ้ม มีความสุข และมีสวัสดิภาพ